|

เพลงบทเศร้า
นิตยสารผู้จัดการ( ตุลาคม 2539)
กลับสู่หน้าหลัก
ตอนที่ “MONSTER” อัลบั้มล่าสุดของ R.E.M. วางแผงเมื่อสองปีก่อน ปรากฎว่าแฟนๆวงร็อกลายครามกลุ่มนี้ มายืนเข้าแถวซื้อจนล้นออกไปนอกร้านแผ่นเสียงหลายแห่ง คนในวงการเพลงต่างตั้งความหวังวิไลว่าอัลบั้มใหม่ล่าสุดซิงๆของ R.E.M. ที่มีชื่อว่า “ADVENTURES IN HI-FI” ที่ออกวางแผงเมื่อต้นเดือนที่แล้ว คงจะเป็นการผจญภัยบนกองเงินกองทองเหมือนชุดที่แล้วๆมาอีกครั้ง
ปัจจุบันอุตสาหกรรมดนตรีกำลังต้องการอัลบั้มที่โกยเงินถล่มทะลายทั่วโลกชนิดที่ว่าถ้าบนแล้วได้ผลเป็นบนไปนานแล้ว และ R.E.M. ก็เป็นหนึ่งในวงร็อกไม่กี่วงที่มีผลงานรับประกันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแน่นอน ด้วยเหตุนี้ วอร์เนอร์มิวสิกจึงไม่รู้สึกเสียดมเสียดายแม้แต่น้อยที่ต้องเปิดเซฟขนเงิน 80 ล้านดอลลาร์มาต่อสัญญา R.E.M. ไปเมื่อปลายเดือนสิงหาคมซึ่งถือว่าเป็นสัญญาที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในแวดวงดนตรีเลยทีเดียว
ทั้งนี้ วารสาร MUSIC & COPYRIGHT ของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์บนเกาะอังกฤษรายงานว่ายอดขายส่งใน 13 ประเทศซึ่งคิดเป็นแหล่งที่มาของยอดขาย 80% ในตลาดโลกขยับขึ้นแค่ 4% เป็น 11,800 ล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปี เล่นเอาผู้บริหารค่ายแผ่นเสียงขนลุกขนพองไปตามๆกันด้วยเกรงว่าการเติบโตของยอดขายจะดิ่งเหวในระยะยาว
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆมีหวังยักษ์ใหญ่ทั้ง 5 อันได้แก่โพลีแกรมของเนเธอร์แลนด์,โซนี่ของญี่ปุ่น,วอร์เนอร์ของสหรัฐฯ,อีเอ็มไอของอังกฤษและเอร์เทลสมานน์ของเยอรมนี ที่ร่วมกันยึดครองตลาดเพลงโลกอยู่ถึง 2 ใน 3 คงต้องหายาแก้ปวดขมับมากินกันเป็นแถว เพราะส่วนใหญ่ต่างพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจเพลงมาประคับประคองการขยายตัวสู่ธุรกิจบันเทิงแขนงอื่นๆกันทั้งนั้น
การเริ่มต้นปีหนูทองกลายเป็นความผิดหวังอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับยุคทองของวงการเพลงในช่วงระหว่างปี 1985-1995 ที่ปรากฎว่ายอดขายปลีกเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 40,000 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดีในปีที่ผ่านมาตลาดเพลงเมืองลุงแซมซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดกลับหยุดนิ่งอยู่กับที่ อันเป็นผลจากการประชันกันหั่นราคาของร้านค้าต่างๆเช่นเดียวกับเยอรมนีตลาดใหญ่อันดับ 3 ที่ภาวะการเติบโตหยุดชะงักเนื่องจากเศรษฐกิจไร้เสถียรภาพและแม้ดีมานด์ในส่วนอื่นๆจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในเอเชียและละตินอเมริกา ทว่าก็หนุนให้ยอดขายเพลงทั่วโลกขยับขึ้นเพียง 10% เท่านั้นเพราะตลาดเหล่านี้ถือว่าเล็กกระจิริดเมื่อเทียบกับฝรั่งเศสแคนาดาและญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตามภาวะชะงักงันในช่วงครึ่งแรกของปีนี้แท้จริงแล้วสะดุดหยุดอยู่ที่ระดับที่สูงพอสมควร แถมค่ายเพลงต่างๆยังมีช่องทางทำกำไรก้อนโตจากการขายลิขสิทธิ์เพลงเพื่อนำไปประกอบหนังหรือนำไปเผยแพร่เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ
ทว่า หากเทียบกับทศวรรษที่แล้วจะพบว่าพลวัตในอุตสาหกรรมดนตรีมีน้อยลงผิดหูผิดตาเพราะยักษ์ใหญ่ทั้ง 5 ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจว่าอัตราการเติบโตจะรูดลงอย่างนี้นับแต่ปี 1992 โพลีแกรมทุ่มทุนไปกับสตูดิโอในฮอลลีวูดไปถึง 800 ล้านดอลลาร์แต่จนถึงป่านนี้ สตูดิโอที่ว่าก็ยังขาดทุนอยู่นั่นเอง มิหนำซ้ำยังต้องการการสนับสนุนทางการเงินอีกมากเพื่อเรียนรู้คำว่า “กำไร”เสียที
ฝ่ายโซนี่ก็ใช้ผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากธุรกิจดนตรีมาหักกลบลบยอดขาดทุนของโคลัมเบีย-ไทรสตาร์
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|