|
ความเครียดอีกหนึ่งต้นทุนธุรกิจ
นิตยสารผู้จัดการ( ตุลาคม 2539)
กลับสู่หน้าหลัก
ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้วความเครียดถูกมองว่าเป็นข้ออ้างของพวกขี้เกียจสันหลังยาวที่อยากจะกระโดดงานแต่ตอนนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าความเครียดกลับขึ้นปกหราอยู่ในหนังสือทางการแพทย์และยังขึ้นเป็นตัวแดงอยู่ในบัญชีการเงินของบริษัทต่างๆอีกด้วย แม้ว่าจะแฝงอยู่ในรายการสั่งจ่ายที่ดูจะไม่เกี่ยวข้องกันก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะหรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกพนักงานก็ตามและขณะนี้หลายต่อหลายบริษัทก็ได้ตระหนักถึงผลลัพธ์อันเกิดจากอาการป่วยเพราะความเครียดแล้วเช่นกัน
สาเหตุของอาการเครียดมีมากมายเพียงแค่คุณต้องเร่งรีบมาทำงานให้ทันเวลาก็ทำให้เครียดแล้ว และแถมยังเป็นสาเหตุสำคัญอีกด้วย นอกจากนี้เวลาที่คุณไม่มีอะไรจะทำหรืองานล้นมือเมื่อไปถึงที่ทำงานไม่ก็ไม่เจอคู่แข่งที่พอจะประชันขันแข่งฝีมือ หรือได้งานที่ไม่เหมาะกับความสามารถของคุณรวมทั้งความรู้สึกไม่ปลอดภัยกับงานที่ทำ หรือแม้แต่โต๊ะเก้าอี้ไม่ได้ระดับ นั่งไม่สบายมีคนมานั่งสูบบุหรี่อยู่ในห้องทำงานก็ล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดความเครียดได้ทั้งนั้น
อาการอันเนื่องมาจากความเครียดปรากฏออกมาได้หลากหลาย นับตั้งแต่ปวดหัวปวดหลัง ผิวหนังเกิดอาการผิดปกติ หายใจขัดเป็นโรคกระเพาะไล่ยันไปจนถึงขาดความใส่ใจต่อสิ่งรอบข้างหรือไม่ก็ขี้ลืมและบางรายก็อาจจะหนักถึงขั้นเป็นโรคหัวใจและอื่นๆอีกมากมาย
แน่นอนว่าอาการทั้งหลายที่เกิดขึ้นเหล่านี้ย่อมต้องส่งผลต่อการปฏิบัติงานและบรรดานายจ้างทั้งหลายก็ได้หันมาใส่ใจต่อปัญหานี้กันแล้วรวมทั้งยอมทุ่มทุนสั่งซื้อโต๊ะและที่วางคอมพิวเตอร์ที่ได้ระดับสั่งห้ามสูบบุหรี่ ติดตั้งเครื่องปรับอากาศและจัดเวลาให้พนักงานออกไปรับประทานอาหารกลางวันได้ 1 ชั่วโมงและสิ่งเหล่านี้ก็ดูจะกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไป ไม่ว่าจะบริษัทไหนๆก็ตาม บางบริษัทถึงกับจัดหาหมอหรือพยาบาลไว้ประจำสำนักงานและว่าจ้างที่ปรึกษานอกบริษัทมาให้คำแนะนำอาชีพการงานและการบริหารเวลากับพนักงานอีกด้วย
บรรดาบริษัทต่างก็หวังว่าวิธีการเหล่านี้จะช่วยแก้ไขหรือบรรเทาความเครียดให้กับพนักงานลงได้บ้าง แต่หลังจากที่คุณเดินออกจากที่ทำงานแล้ว การบำบัดความเครียดแน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องตัวใครก็ตัวใครกันแล้ว
เจมส์ ลี นักจิตวิทยากล่าวว่า ศิลปะแห่งการบำบัดความเครียดไม่ใช่เรื่องที่จะเรียนรู้ได้เพียงชั่วข้ามคืน และบางทีคุณอาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตกว่าจะหาทางแก้ไขอาการนี้ให้ลดน้อยลงก็เป็นได้
ลียังแนะด้วยว่า “สุขภาพกายดี สุขภาพจิตดี” คือกุญแจไขความเครียด การควบคุมน้ำหนัก การควบคุมเครื่องดื่มหรือสูบบุหรี่ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ควรกระทำทั้งสิ้น บางบ้านถึงกับลงทุนจัดแบ่งห้องเป็นห้องออกกำลังกาย ซื้อจักรยานออกกำลังกาย ดัมเบลล์และอุปกรณ์สารพัดเพื่อผลทางสุขภาพกายด้วยซ้ำ
การนวดก็เป็นอีกความพยายามหนึ่งในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและช่วยลดระดับความเครียดทั้งทางกายและใจให้คุณ บางสำนักจากญี่ปุ่นที่เรียกว่า SHIATSU เชื่อว่าพลังงานจะถูกปิดกั้นตามจุดต่างๆของร่างกาย การนวดเพื่อแก้ไขอาการเครียดก็คือการทำพลังงานที่ถูกปิดกั้นได้รับการปลดปล่อยออกมา ส่วนบางสำนักก็ใช้วิธีกระตุ้นด้วยกลเม็ดต่างๆนานา นวดให้เลือดในร่างกายหมุนเวียนดีขึ้น
นอกจากนี้การแก้เครียดด้วยวิธีต่างๆข้างต้นแล้ว บางคนก็เชื่อว่า การปฏิบัติโยคะเป็นวิธียอดเยี่ยมที่จะช่วยบรรเทาอาการเครียดได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงหรือแก้ไขโรคเครียดตั้งแต่เนิ่นๆก็คือไล่ตะครุบและแก้ไขมันก่อนที่มันจะกลายเป็นตัวสร้างปัญหาให้คุมและพนักงานในบริษัทและกลายเป็นตัวบั่นทองธุรกิจในที่สุด
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|