|
โรแลนด์ เอ็ง ทูตหนุ่มแห่งอังกอร์วัต
นิตยสารผู้จัดการ( มิถุนายน 2539)
กลับสู่หน้าหลัก
น้ำตาคลอหน่วยเมื่อเอกอัครราชทูต แห่งราชอาณาจักรกัมพูชาประจำประเทศไทย “โรแลนด์เอ็ง” (ROUND ENG) เล่าเกร็ดชีวิตเศร้าๆก่อนมายืนอย่างสง่าผ่าเผยบนแท่นเกียรติยศในฐานะทูตที่มีหน้าที่ดูแลไม่แต่เฉพาะประเทศไทย ยังมีมาเลเซียและสิงคโปร์พ่วงเข้าไปด้วย
“หลังปี 2513 เกิดการปฎิวัติรัฐประหารขึ้นในประเทศเขมร พ่อ-แม่ผมซึ่งเป็นผู้จงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ถูกรัฐบาลใหม่จองจำ อีก 5 ปีต่อมาเขมรแดงบุกกรุงพนมเปญช่วงนั้นประเทศนองไปด้วยเลือดผู้คนถูกเข่นฆ่ารวมทั้งพ่อแม่และพี่น้องผมอีก 7 คนรวม 9 คนก็ถูกฆ่าตายหมด”
ทูตหนุ่มโสดอายุ 39 ปีคนนี้เป็นบุตรคนที่ 6 ในจำนวน 10 คนและเป็นหนึ่งในสามที่ประกอบด้วยพี่สาวใหญ่อีก 2 คนที่เหลือรอดชีวิตจากโศกนาฎกรรมครั้งนั้น ด้วยเพราะบังเอิญพำนักอยู่ประเทศฝรั่งเศส
หนึ่งในพี่สาวของท่านทูตเป็นชายาของเจ้านโรดม รณฤทธิ์นายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่งของประเทศกัมพูชาในปัจจุบันโอรสเจ้านโรดมสีหนุ สำหรับโรแลนด์ เอ็ง (ROLAND ENG) เป็นชาวเขมรจากตระกูลผู้ดีที่มีบิดาเป็นหัวหน้ากองตรวจคนเข้าเมือง ตัวเขานับว่าโชคดีกว่าพี่น้องเป็นชายคนอื่นๆตรงที่บิดารู้จักสนิทสนมกับผู้มีอันจะกินชาวฝรั่งเศสคู่หนึ่งที่อยู่ในกรุงปารีสและชอบพอนิสัยใจคอ ความเป็นคนสงบเสงี่ยมเจียมตัวของเด็กชายโรแลนด์ ที่ขณะนั้นอายุ 10 ขวบจึงขอรับท่านทูตเป็นบุตรบุญธรรมส่งเสียให้ได้ร่ำเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยกฎหมายและรัฐศาสตร์ที่ AIX-EN-PROVENCE ประเทศฝรั่งเศส
ในปี 2522 โรแลนด์มีโอกาสได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทกษัตริย์สีหนุในฐานะราชเลขาธิการส่วนพระองค์ขณะที่เจ้าสีหนุลี้ภัยการเมืองอยู่ฝรั่งเศส
ต่อมาในปี 2536 นายโรแลนด์วัย 37 ตัดสินใจหิ้วกระเป๋าใบเดียวพร้อมหนังสืออีก 2-3 เล่มกลับเขมรและมาเป็นผู้ติดตามเจ้ารณฤทธิ์พี่เขยซึ่งช่วงนั้นทำหน้าที่ผู้แทนเขมรกลุ่มฟุนซินเปก (FUNCINPEC) เข้าๆออกๆชายแดนไทย-เขมรเพื่อเจรจาต่อรองกับกลุ่มเขมรแดงโดยมีรัฐบาลไทยเป็นตัวกลาง
“ช่วงนั้น ผมทิ้งความสะดวกสบายทุกอย่างที่ประเทศฝรั่งเศสเพื่อเข้าร่วมกับกองกำลัง ที่นอกจากจะทำเพื่อการปลดแอกประเทศจากเขมรแดงแล้ว อีกทางหนึ่งผมก็ต้องการจะหาข้อมูลเบาะแสของครอบครัวว่าใครมีชีวิตเหลืออยู่บ้าง”
โรแลนด์เล่าว่า เขาพบผู้หญิงเขมรอายุ 70 คนหนึ่งในป่าลึก ค้นหาลูกที่เป็นทหารมาอยู่สองปี พวกเขาช่วยจนแกพบลูกชาย เหตุการณ์นั้นสร้างความหวังให้แก่โรแลนด์ แต่ในที่สุดก็ต้องผิดหวังอย่างสิ้นเชิงเมื่อมารู้ความจริง หลังจากที่เขาเข้าร่วมองค์กรปลดแอกอยู่หลายเดือน
“พ่อที่ผมได้พบเมื่อปี 2512 ที่ฝรั่งเศส ตอนพ่อขึ้นไปรับใช้พระเจ้าอยู่หัวครั้งนั้น ไม่คิดว่าที่ผมและพ่อกับครอบครัวคนอื่นๆจะได้พบกันเป็นครั้งสุดท้าย”
ความทรงจำอีกฉากที่โรแลนด์ เอ็งไม่อาจลืมเลือนได้ในชั่วชีวิตนี้ก็คือการที่ต้องเดินเท้าเป็นระยะทาง 640 กิโลเมตร 5 อาทิตย์ผ่านป่าดงดิบในปี 2532 ร่วมกับหน่วยจรยุทธ์สนับสนุนการปลดแอกประเทศจากเขมรแดงอีก 150 นายท่ามกลางห่าฝนที่ตกไม่เว้นแต่ละวัน ตายบ้างรอดบ้าง ก็ยังต้องกอดคอมุ่งมั่นผจญกับการปะทะกับเขมรแดง ไหนจะต้องหลบหลีกกับระเบิด จระเข้จากหนองบึง ทากดูดเลือดที่มีอยู่เกลื่อนกลาด ทั้งนี้ทั้งนั้น ทูตโรแลนด์สารภาพว่าเขาทำเพื่อ 2 สิ่งในชีวิตนี้คือเพื่อสืบข่าวคราวของสมาชิกครอบครัว ในขณะเดียวกันก็เพื่อกำจัดเสี้ยนหนามของแผ่นดินเท่าที่จะทำได้
ในปี 2535 สงครามยุติการค้นหาญาติพี่น้องของโรแลนด์ เอ็งสิ้นสุดลง เขาจึงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรให้กับจังหวัดบ้านเกิดและก็ได้รับเลือกสมใจปรารถนา
ในปีเดียวกันนี้ ก็ได้รับแต่งตั้งให้รับงานที่ท้าทายต่ออาชีพนักการเมืองโดยได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตเขมรประจำสหประชาชาติและต่อมาในปี 2536 ก็ได้กลายมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยว ตำแหน่งที่เต็มไปด้วยการท้าทายความสามารถในการจูงใจผู้คนให้หันมามองกัมพูชาบ้างอีกงานหนึ่ง
แต่ในที่สุดเขาต้องเดินทางมาประเทศไทย
“เจ้านโรดม สีหนุทรงเชิญผมไปรับประทานอาหารกลางวันและที่นั่นพระองค์ก็ทรงขอร้องให้ผมรับตำแหน่งที่พระองค์คิดว่าเหมาะสมที่สุดที่ผมจะช่วยชาติคลี่คลายปัญหาตามแนวชายแดนที่เต็มไปด้วยปัญหาไม่เว้นแต่ละวัน”
โรแลนด์ เอ็ง เป็นเอกอัครราชทูตแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา คนแรกที่เข้าประจำประเทศไทยเมื่อ 2 ปีก่อน หลังปิดประตูตายไปเป็นด้วยเรื่องระหองระแหงทางการเมืองระหว่างประเทศเป็นเวลานาน อีกทั้งนับได้ว่าเป็นทูตผู้มีอายุน้อยที่สุดในบรรดาแวดวงทูตานุทูตในไทย
อย่างไรก็ตาม ทูตโรแลนด์ เผยความในใจว่าโดยเนื้อแท้เขาไม่ได้เป็นปลื้มไปกับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวหรือแม้แต่ตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยในปัจจุบันก็ตามเพราะทูตหนุ่มกำลังมองอาชีพค้าๆขายๆ
เขาคิดว่าการเป็นนักธุรกิจการค้า การลงทุนอาจช่วยพัฒนาประเทศที่เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอย่างเขมรได้เป็นอย่างมาก เพราะประเทศเขมรในสายตาท่านทูตเป็นประเทศที่ตั้งมั่นอยู่ในภูมิประเทศที่สะดวกต่อการติดต่อกับนานาอารยประเทศได้อย่างไม่น้อยหน้าใครในภูมิภาคนี้
ทูตหนุ่มโรแลนด์ในวันนี้ยังเป็นโสด และที่อยู่เป็นทูตหนุ่มหอมหวนทุกวันนี้เพราะท่านทูตโรแลนด์บอกว่ายังไม่ถึงเวลาคิดเรื่องคู่รักคู่ครองอาจเพราะยังไม่พบใครที่ต้องชะตา ตอนนี้ก็ยุ่งวุ่นวายกับการต้องบินไปมาระหว่างกรุงเทพฯ-มาเลเซีย-สิงคโปร์ในฐานะทูตประจำประเทศนั้นๆ ยามว่างก็เล่นกอล์ฟบ้าง แต่ขณะนี้ขอทำหน้าที่พลเมืองเขมรให้ดีที่สุดไปก่อน
ที่น่าเสียดายท่านทูตโรแลนด์บอกว่าคงจะอยู่ช่วยกษัตริย์สีหนุในประเทศไทยได้อีกไม่เกิน 2 ปีเพราะก็อยากปลดแอกตัวเองไปมีชีวิตส่วนตัวเหมือนประเทศเขมรที่ได้รับการปลดแอกไปแล้วอย่างเป็นสุข !
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|