|
AVON HAS A HEART FOR YOU DAISY HAS A HEART FOR AVON
นิตยสารผู้จัดการ( มิถุนายน 2539)
กลับสู่หน้าหลัก
“ปีนี้เป็นปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับเอวอน ประเทศไทยเพราะเราไม่ได้ตั้งเป้าหมายการเป็นผู้นำด้านเครื่องสำอางขายตรงเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในอีกหลายๆประเทศ” เดซี่ ซินลอร์ ประธานและกรรมการผู้จัดการบริษัทเอ-วอน คอสเมติคส์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวหลังจากที่บริษัทแม่ที่สหรัฐอเมริกาได้กำหนดให้บริษัท เอวอน คอสเมติคส์ (ประเทศไทย) จำกัดรับบทบาทใหม่เป็นศูนย์กลางวางแผนและพัฒนาด้านการตลาดผลิตภัณฑ์และบุคลากร
รวมถึงพิจารณาความเหมาะสมในการเปิดตลาดใหม่ในประเทศต่างๆแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตอนใต้ใน 10 ประเทศได้แก่ ประเทศไทย พม่า เวียดนาม ลาว กัมพูชา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
การที่บริษัทแม่ตัดสินใจเลือกให้เอวอน ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางดังกล่าวเป็นเพราะตลอดระยะเวลา 27 ปีที่ผ่านมาเอวอน ประเทศไทยมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ
โดยเมื่อปีที่ผ่านมาพบว่าบริษัท เอวอน คอสเมติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด มีผลการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จด้วยมาร์เกตแชร์ในตลาดเครื่องสำอางขายตรงของไทยถึง 24% และยังมีอัตราการเติบโตติด 1 ใน 10 อันดับแรกของเอวอนทั่วโลก ขณะเดียวกันเมื่อมองด้านภูมิศาสตร์จะเห็นได้ว่าไทยน่าจะเป็นทำเลที่เหมาะสมในการตั้งเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้
นับเป็นก้าวย่างที่มีความหมายต่อเอวอน ประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการขยายบทบาทสู่การเป็นศูนย์กลางภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตอนใต้ นอกเหนือจากจะเป็นการขยายบทบาทของเอวอน ประเทศไทยแล้ว ผลดีอีกทางคือยังจะได้รับประโยชน์สูงสุดมากมาย โดยเฉพาะด้านการแลกเปลี่ยนความรู้ การอบรมและที่สำคัญคือการวางสินค้าที่อาจจะดำเนินการพร้อมๆกันทั่วภูมิภาค
สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นล้วนเป็นกลไกสำคัญที่จะเข้ามาสนับสนุนเอวอน ประเทศไทยในการสร้างข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดและจะยิ่งเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเครื่องสำอางขายตรงในตลาดเมืองไทยมากขึ้น
ปีนี้เดซี่ ซิน-ลอร์กล่าวว่าทางเอวอนจะยึดนโยบาย “AVON HAS A HEART FOR YOU” หรือเอวอนบริการคุณด้วยใจ ซึ่งจะมุ่งประโยชน์ต่อกลุ่มลูกค้า สาวจำหน่ายและสังคมเป็นหลักโดยจะเน้นการชูความเป็นผู้นำในหลายๆด้าน
กล่าวคือเอวอนประเทศไทยจะเป็นผู้นำด้านวิวัฒนาการและเทคโนโลยีในธุรกิจเครื่องสำอางขายตรงซึ่งหมายถึงการเป็นผู้นำสินค้าที่ดีเยี่ยมถึงมือก่อนใครในตลาด
นอกจากนี้แล้วเอวอนประเทศไทยยังอาศัยจังหวะที่ภาษีนำเข้าเครื่องสำอางซึ่งปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 10% ในการนำเข้าสินค้าจากเครือข่ายของเอวอนซึ่งมีจำหน่ายใน 120 ประเทศทั่วโลกรวมสินค้าถึงกว่า 2,000 ชนิดเข้ามาเพิ่มความหลากหลายได้อีกทางเดซี่กล่าวว่าขณะนี้สินค้าเอวอนในหลายประเทศเป็นสินค้าที่ดีและมีคุณภาพซึ่งหากเอวอน ประเทศไทยนำมาเปิดตลาดก็เชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จ
เช่นเดียวกับที่เคยชิมลางด้วยการนำสินค้าโกบอลแบรนด์คือเอนิว เครื่องสำอางประเภทผลิตภัณฑ์ลบริ้วรอย โดยเปิดตัวเอนิวเพอร์เฟ็คติ้ง คอมเพล็กซ์เข้าสู่ตลาดเมืองไทยเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผลที่ได้ก็คือได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี จนในปัจจุบันเอวอนกลายเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ลบริ้วรอยที่มีมาร์เกตแชร์ในตลาดถึง 50%
ซึ่งในปีนี้เอวอนยังคงเดินหน้าเปิดตัว เอนิว เพอร์เฟ็ค อายแคร์ครีมซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย
รอบดวงตาโดยมีกลุ่มเป้าหมายคือผู้หญิงวัยทำงานอายุ 25 ปีขึ้นไป
“จากเครือข่ายเอวอนที่มีอยู่ทั่วโลกทำให้เรามีความพร้อมในแง่การเพิ่มสินค้าและการพัฒนาระบบการขายควบคู่กันไปเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคคนไทยได้มีโอกาสเลือกซื้อสินค้าที่หลากหลายและราคาถูกนับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป” ประธานและกรรมการผู้จัดการบริษัทเอวอน คอสเมติคส์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าว
โดยเฉพาะเมื่อภาครัฐประกาศปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย 13 ชนิดซึ่งรวมถึงน้ำหอม เครื่องสำอางซึ่งจากเดิมเสียภาษีนำเข้า 40% กลับปรับลดลงมาเหลือ 10% เท่านั้นนับเป็นจุดที่ทางเอวอนสามารถนำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันมากขึ้นโดยหมดความกังวลในเรื่องต้นทุนของสินค้าที่สูงเกินไป
รวมถึงการเป็นผู้นำทั้งด้านบริการและการให้ความสะดวกกับผู้บริโภคในการจับจ่ายหลายช่องทาง โดยขณะนี้ทางเอวอนได้นำระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ IVRS (INTERACTIVE VOICE RESPONSE SYSTEM) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของเอวอน เป็นการสั่งซื้อทางโทรศัพท์ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด โดยบริการตลอด 24 ชั่วโมงสามารถบริการสอบถามข้อมูลทั่วไป ข้อมูลประจำตัวและฝากข้อความลงใน VOICE MAIL BOX เข้ามาใช้เพื่อยกระดับมาตรฐานในการให้การบริการลูกค้าและอำนวยความสะดวกให้กับสาวจำหน่ายเอวอน
“เป็นการเปิดศักราชใหม่ในการมอบความสะดวกแก่ผู้บริโภคผ่านสาวเอวอน ซึ่งเราขึ้นชื่อด้านการพัฒนาระบบการขายที่สะดวกซื้อ ต่อไปนี้อย่าแปลกใจถ้าพบเอวอนในสื่อใหม่ๆเช่นอินเตอร์เน็ทเพราะเป้าหมายเอวอนคือต้องการจะเข้าไปอยู่ในทุกแห่งที่ผู้หญิงอยู่” เดซี่ ซิน-ลอร์กล่าวอย่างมั่นใจ
เดซี่ ซิน-ลอร์นับเป็น 1 ในผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในธุรกิจเครื่องสำอางขายตรงโดยก่อนหน้าที่บริษัทแม่สหรัฐอเมริกาจะตัดสินใจส่งเธอเข้ามารั้งตำแหน่งประธานและกรรมการผู้จัดการบริษัทเอวอน คอสเมติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เธอมีผลงานโดดเด่นด้านการนำการพัฒนาระบบการขายเข้ามาประยุกต์ใช้จนทำให้เอวอน ไต้หวันประสบความสำเร็จมาแล้ว
จึงไม่แปลกที่หลังจากเธอใช้ระยะเวลาเรียนรู้สภาพตลาดเครื่องสำอางขายตรงเมืองไทยเพียง 2 ปีในปีนี้เธอจึงเริ่มรุกนำการพัฒนาระบการขายเข้ามาใช้เป็นแต้มต่อเพื่อสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันยิ่งเมื่อเอวอน ประเทศไทยถูกยกฐานะขึ้นเป็นศูนย์กลางดูแลครอบคลุมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตอนใต้ รวม 10 ประเทศยิ่งเป็นการเอื้อประโยชน์มากขึ้นทั้งในแง่การสนับสนุนด้านผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีและการอบรมบุคลากรซึ่งส่วนใหญ่แผนการอบรมบุคลากรจะใช้ไทยเป็นศูนย์การอบรม
เดซี่ กล่าวว่าเป้าหมายระยะยาวของเอวอน ประเทศไทยคือการก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดอินโดจีน โดยมีแผนที่จะพัฒนาเอวอนประเทศไทยเพื่อใช้เป็นแม่แบบในการขยายตลาดสู่ภูมิภาคอินโดจีนซึ่งในปีนี้เอวอนจะขยายตลาดสู่เวียดนามอย่างแน่นอน
มาถึงตรงนี้ทำให้เชื่อว่านับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป น่าจะเป็นปีตื่นเต้นสำหรับเดซี่ ซิน-ลอร์เพราะนอกเหนือจากบทบาทที่เธอจะต้องเป็นแม่ทัพใหญ่ในการรุกขยายพื้นที่ยอดขายตลาดในประเทศซึ่งเกมการแข่งขันกำลังเข้มขึ้นทุกขณะแล้ว เดซี่ ซิน-ลอร์ยังจะต้องรับบทใหม่ในการดูแลเอวอนในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกตอนใต้ซึ่งเป็นจุดที่ท้าทายความสามารถของนักบริหารหญิงผู้นี้เช่นกัน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|