การที่จะก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของบริษัทผู้ผลิตไม้กอล์ฟ แน่นอนว่าในด้านหนึ่งย่อมต้องเป็นผู้ที่มีความรักและความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างดี
แต่สำหรับ Lane Peterson ปัจจัย เหล่านี้อาจมีค่าน้อยกว่าภาษาจีนที่เขาเลือกเป็นวิชาเอกเมื่อครั้ง
เป็นนักศึกษาเสียอีก
Lane Peterson เริ่มเล่นกอล์ฟมาตั้งแต่อายุ 8 ปี และเป็นนักกีฬากอล์ฟของโรงเรียนมาโดยตลอด
กระทั่งเมื่ออายุ 17 ปี ตัวเลขแสดง handicap ของเขาก็เหลือเพียง 3 และเมื่ออยู่ชั้นมัธยมปลาย
เขาได้เรียนรู้ที่จะประกอบไม้กอล์ฟ โดยได้รับการสอน จากผู้ทรงคุณวุฒิของ
Augusta National สถานที่แข่งขันกอล์ฟ รายการใหญ่ระดับโลก และเป็นเสมือนบ้านของ
Green Jacket ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสุดยอดฝีมือในกีฬากอล์ฟที่นักกอล์ฟทุกรายใฝ่ฝันถึง
เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก Brigham Young University ในเมือง
Provo รัฐ Utah เมื่อปี 1987 โดยมีภาษาจีน เป็นวิชาเอก ซึ่งสำหรับเด็กหนุ่มอเมริกันอย่างเขา
การเรียนภาษา จีน อาจจะดูแปลกแตกต่างจากผู้คนในกระแสหลักไม่น้อย แต่นั่นอาจเป็นสิ่งที่ต้องพิสูจน์ว่าคุ้มค่าเพียงใดในเวลาต่อมา
หลังจบการศึกษา Lane Peterson ย้ายไปอยู่ใน California ซึ่งที่นั่นเขาได้เริ่มงานครั้งแรกกับ
International Trade U.S. Customs Broker ก่อนที่ในปี 1989 เขาจะเริ่มทำงานที่เกี่ยวกับกอล์ฟ
ซึ่งเป็นกีฬาที่เขาชอบกับบริษัท Bullet Golf ในแผนก ส่งออกและนำเข้า และได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็น
International Manager ของ Bullet Golf ในอีก 2 ปีต่อมา
ในช่วงเวลานี้เองที่ Lane Peterson ได้แสดงศักยภาพในตัวเขาให้ปรากฏออกมาด้วยการเพิ่มยอดการจำหน่ายสินค้ามากขึ้น
12 เท่า ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี พร้อมกับการตั้งโรงงานผลิต ถุงกอล์ฟในประเทศจีน
และการพัฒนาขยายฐานการผลิตอุปกรณ์ กอล์ฟชนิดต่างๆ
ซึ่งแน่นอนว่าภาษาจีนที่เขาได้ร่ำเรียนมาย่อมไม่ สูญเปล่า หากเป็นเครื่องมือสำคัญของเขาในการนี้ด้วย
ผลงานในช่วง 3 ปีระหว่าง 1991-1994 ทำให้เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปสู่
Vice President International ของ Bullet Golf ซึ่งเป็นตำแหน่งสุดท้ายก่อนที่เขาจะแยกตัวออกมาตั้งบริษัท
Grand Golf ในปี 1995 โดยเขาดำรง ตำแหน่งประธานบริษัท
ประสบการณ์ที่เขาได้รับจากการทำงานใน Bullet Golf และการได้มีปฏิสัมพันธ์กับตลาดขนาดใหญ่ในประเทศจีน
ทำให้เขาไม่ลังเลที่จะใช้โอกาสเหล่านี้เมื่อเขาพร้อมจะดำเนิน ธุรกิจของตัวเอง
โดยเขาได้ลงทุนสร้างโรงงานผลิตหัวไม้กอล์ฟ ในไต้หวัน ซึ่งเขาเชื่อว่ามีความพร้อมในการผลิตอุปกรณ์
ที่มีระดับของเทคโนโลยีสูงกว่าการผลิตถุงกอล์ฟที่ส่วนใหญ่ ดำเนินการอยู่ในประเทศจีน
เมื่อ Lane Peterson มองย้อนกลับไปในช่วงชีวิต ที่ผ่านมา เขาบอกว่ามันเป็นชะตาลิขิต
ที่เขาตัดสินใจเรียน ภาษาจีนในครั้งนั้น ก่อนที่จะสรุปรวบยอดไว้อย่างตรงไป
ตรงมา แต่น่าฟังไม่น้อย
"ภาษาจีนทำให้ผมมีวันนี้ และทุกวันนี้ผมยังใช้ ภาษาจีนเป็นสื่อในการสนทนา
และสั่งการ กับเจ้าหน้าที่ ของผมในโรงงานที่ไต้หวันเสมอ" เป็นคำพูดของหนุ่มอเมริกันวัย
40 ปี เจ้าของกิจการไม้กอล์ฟคนนี้