ดำน้ำ กีฬายอดฮิตของผู้บริหาร

ดำน้ำ กีฬายอดฮิตของผู้บริหาร

นิตยสารผู้จัดการ( พฤษภาคม 2539)

กลับสู่หน้าหลัก

การดำน้ำเป็นกีฬาที่จัดว่าอันตราย แถมยังต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงมิหนำซ้ำการแบกถังออกซิเจนลงไปอยู่ใต้น้ำก็ไม่ใช่เรื่องที่สบายและทำได้ง่ายดายนัก แต่ถ้ากีฬาดำน้ำเป็นดังที่กล่าวมาแล้ว ทำไมมือโปรด้านการบริหารธุรกิจทั้งหลายกลับนิยมและชื่นชอบกีฬาประเภทนี้เป็นพิเศษ

ยิบซิวจ ได้เขียนไว้ในนิตยสาร “DIRECTION” ว่าโลกใต้ทะเลนั้น “สงบ เงียบ เป็นสถานที่ที่คุณจะได้ยินแค่เสียงพ่นลมใต้น้ำของตัวคุณเองและเสียงสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลแหวกว่ายไปมารอบๆปะการังเท่านั้น”

เหล่านี้ก็คือเหตุผลง่ายๆที่นักบริหารทั้งหลายต่างพากันหลงใหลมนต์เสน่ห์ของโลกใต้ทะเลอันแสนสงบ โลกที่ทุกอย่างก้าวดำเนินไปอย่างเชื่องช้าและให้ความรู้สึกผ่อนคลายซึ่งนับว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ความเร่งรีบและการแข่งขัน

นอกจากนี้การที่เหล่านักธุรกิจต้องเร่งรีบและต้องแข่งขันกับทุกๆเรื่องรอบข้างรวมทั้งยังต้องเจอะเจอกับคู่แข่งหรือศัตรูทางธุรกิจอยู่เป็นประจำ การหันเข้าหากีฬาดำน้ำในยามว่างนับว่าเป็นเรื่องที่บุคคลเหล่านี้โปรดปรานที่สุด เพราะการดำน้ำเป็นกีฬาที่ปลอดการแข่งขันโดยสิ้นเชิง แถมยังเป็นกีฬาที่สนับสนุนการใช้ “ระบบบัดดี้” หรือช่วยเหลือซึ่งกันและกัน กีฬาประเภทนี้มักจะดำกันเป็นคู่ เพื่อช่วยกันระวังระไวและป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกวินาทีเมื่ออยู่ใต้น้ำ

นอกเหนือจากการหลบหลีกสภาพที่ต้องพานพบอยู่ทุกวันแล้ว การที่นักธุรกิจหันมานิยมกีฬาดำน้ำมากขึ้นก็เนื่องจากปัจจุบันอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการดำน้ำได้พัฒนาให้ทันสมัยและมีระบบป้องกันและตรวจสอบความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ด้วยเทคโนโลยีระดับสูง

นิโคลา สต็อคเคนเขียนไว้ใน “HONG KONG TATLER” ว่าในช่วงทศวรรษ 1990 ได้มีการนำคอมพิวเตอร์ดำน้ำส่วนบุคคลเข้ามาใช้กับกีฬาประเภทนี้แล้วซึ่งคอมพิวเตอร์ที่ว่านี้จะเป็นทั้งสมุดจดบันทึกและให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระแสน้ำและระดับความลึก รวมทั้งยังติดตั้งระบบเตือนภัย อาทิ แรงกดดันอากาศในถังมีต่ำเกินไป นักดำน้ำอยู่ในระดับความลึกที่ลึกเกินไปหรือโผล่ขึ้นผิวน้ำเร็วเกินอัตราเป็นต้น

และปัจจุบันก็ยังมีอุปกรณ์ที่ช่วยให้การหายใจใต้น้ำสบายพอๆกับอยู่บนบกและยังอุปกรณ์ปลีกย่อยอีกหลากหลายชนิดด้วย อาทิ นาฬิกา ดำน้ำ คบไฟและมืด

กลับสู่หน้าหลัก

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย