ยกทัพอสังหาริมทรัพย์ไปอเมริกา ไปไหนก็ไม่ว่า ขอให้ขายได้ก็แล้วกัน


นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2539)



กลับสู่หน้าหลัก

ในวันที่ 18-19 พฤษภาคม 2539 นี้บริเวณวัดไทยในลอสแอลเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีงานจัดแสดงอสังหาริมทรัพย์ “อาคารบ้านเรือน ยูเอสเอ” ขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกในการรวมตัวของบรรดานักพัฒนาที่ดินของเมืองไทยที่ได้นำโครงการไปขายที่อเมริกาโดยมีชาตรี มรรคากรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยเทรดแฟร์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินงาน

สหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในรัฐใหญ่ๆที่มีคนไทยเข้าไปอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น รัฐลอสแอลเจลิส รัฐชิคาโกและนิวยอร์คนั้นเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สำคัญของบรรดาผู้ประกอบการบางโครงการในเมืองไทยอยู่แล้ว ดังนั้นที่ผ่านๆมา จึงมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยไปเปิดขายในรัฐต่างๆอยู่บ้างเหมือนกันโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมโครงการใหญ่ๆที่มีจำนวนยูนิตมากๆ

วิธีการขายนั้นถ้าเจ้าของโครงการไม่ส่งพนักงานขายไปเองก็จะใช้วิธีผ่านโบรกเกอร์ ซึ่งโบรกเกอร์ก็จะใช้วิธีไดเรกเซลล์ไปเคาะประตูบ้านตามรายชื่อของลูกค้าที่เสาะหามา

“จากข้อมูลของเราพบว่าคนไทยในอเมริกาต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองไทยมากขึ้นเรื่อยๆ คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่แล้วมีเงินและเขาก็ทำงานเก็บเงินเพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งจะกลับมาซื้อบ้านอยู่ที่เมืองไทย แต่การซื้อผ่านตัวแทนหรือผ่านญาติพี่น้องบางครั้งเขาไม่มีความมั่นใจ ผมเคยส่งคนไปสำรวจข้อมูลกว้างๆก็พบว่ามีคนสนใจมากจริงๆ”

ชาตรีเล่าให้ “ผู้จัดการ” ฟังถึงที่มาของการจัดงานครั้งนี้และเล่าเพิ่มเติมว่าเขามีแนวความคิดในเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2538 แต่ก็ไม่มั่นใจ จนกระทั่งมีการพูดคุยกันในบรรดาเพื่อนฝูงคนรู้จักที่อเมริกาหนาหูมากขึ้นก็ได้นำมาปรึกษากับบรรดาผู้ประกอบการในเมืองไทยและได้รับการสนองตอบเป็นอย่างดี ก็เลยเริ่มดำเนินการ

“อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนี้การขายโครงการที่อยู่อาศัยในเมืองไทยมันผิดมากและเป็นอย่างนี้ต่อเนื่องมา 2-3 ปีแล้ว มีทางใดที่เป็นช่องทางการขายใหม่เขาก็สนใจ”

ชาตรีได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าในงานนี้จะมีผู้ประกอบการต่างๆจากเมืองไทยเข้าร่วมประมาณ 30-40

บริษัท จะประกอบไปด้วยโครงการคอนโดมิเนียมพักอาศัย คอมโดมิเนียมตากอากาศ โครงการบ้าน

จัดสรร ทาวเฮ้าส์ สวนเกษตรและที่ดินเปล่า ซึ่งเขาบอกว่าสำหรับงานที่ทำเป็นครั้งแรกอย่างนี้หากมีผู้ร่วมงานเพียง 20 รายก็สามารถจัดได้แล้ว เป็นการหวังผลระยะยาวในการจัดครั้งต่อไปมากกว่า

พื้นที่ในการจัดที่วัดไทยนั้นจะมีประมาณ 600 ตารางเมตรแบ่งออกได้ประมาณ 50 บูทโดยขนาด

ของบูทแต่และบูทประมาณ 9 ตารางเมตร ในระยะเวลา 2 วันที่จัดงานนี้คาดว่ามีคนเข้าชมงานประมาณ 2 หมื่นคน

สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนั้นนอกจากคนไทยที่ต้องการกลับมาตั้งรากฐานในเมืองไทยแล้วยังจะหวังที่จะขายให้กับชาวอเมริกาที่ต้องการที่อยู่อาศัยในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย

ในวันแถลงข่าวที่โรงแรมอมารีวอเตอร์เกรดเมื่อประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์นั้นมีบริษัทใหญ่ๆที่เข้าร่วมงานเพื่อซักถามถึงรายละเอียดหลายบริษัทเช่น บริษัทบางกอกแลนด์ บริษัทสารินพร็อพเพอตี้ บริษัทรัตนะการเคหะ กลุ่มสหวิทยา บริษัทไรมอนแลนด์ ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่บริษัทพวกนี้ไม่ได้ถามย้ำถึงความมั่นใจในจำนวนตัวเลขของคนที่มาชมงานแต่จะซักถามถึงวิธีการต่างๆในการทำสัญญาซื้อขายการเสียภาษีและค่าใช้จ่ายต่างๆในการขนโมเดลไปโชว์มากกว่า ซึ่งทางบริษัทไทย

เทรดแฟร์มอบหมายให้บริษัททรานส์ลิ้งเอ็กเพรส (กรุงเทพ) จำกัดเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องอำนวย

ความสะดวกในการขนอุปกรณ์

การไปอเมริกาครั้งนอกจากจะเป็นการไปขายสินค้าแล้วทางไทยเทรดแฟร์ยังมีการจัดให้มีการ

สัมมนาหลักสูตร “ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา” รวมทั้งไปดูโครงการเมืองใหม่ที่จัดทำโดยภาคเอกชนอีก 2 เมืองด้วยเรียกได้ว่าไปคราวนี้ได้ทั้งขายของได้ทั้งความรู้และได้ไปเที่ยวอีกต่างหาก โดยมีบริษัทเวอร์ชั่นทรีแทเวลย์ อำนวยความสะดวกในเรื่องที่พักและการเดินทางรวมราคาค่าเช่าบูทและค่าเดินทางที่พักของเจ้าหน้าที่ 1 คนรวม 150,000 บาท

ชาตรีย้ำว่าแคมเปญพิเศษที่น่าสนใจจากการสอบถามลูกค้าว่าต้องการอะไรส่วนใหญ่จะตอบว่าตั๋วเครื่องบินฟรีไปกลับแอลเอ-กรุงเทพฯ เพื่อมาดูโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างความมั่นใจเพิ่มขึ้น ซึ่งของแถมพิเศษนี้ควรจะให้กับลูกค้าที่ทำสัญญาจะซื้อแน่นอนและวางเงินดาวน์แล้วเท่านั้น

ถ้างานนี้ไทยเทรดแฟร์ประสบความสำเร็จในการจัดก็เท่ากับว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการขยายตลาดต่างประเทศของบริษัทเช่นกัน โดยชาตรีเองก็หวังไว้ว่าชิคาโกและนิวยอร์คก็คือเมืองเป้าหมายต่อไปในการจัดงานอสังหาริมทรัพย์

และนับว่าเป็นงานใหม่ฉลองครบรอบ 10 ปีแห่งการตั้งบริษัทไทยเทรดแฟร์ที่ไม่เลวทีเดียว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.