โคจา ออฟ อาระเบีย


นิตยสารผู้จัดการ( มีนาคม 2539)



กลับสู่หน้าหลัก

3-4 ปีก่อนบ้านเมืองขายขี้หน้ากับข่าวคนไทยขโมยเครื่องเพชรล้ำค่าของราชวงศ์ซาอุดีอาระเบียมานับร้อยนับพันชิ้นและข่าวที่ตามมาก็เป็นข่าวที่คนไทย เจ้าหน้าที่ไทยได้รับรู้การเปลี่ยนตัวทูตผู้แทนพระองค์คนใหม่ในนามอุปทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย นายมูฮัมหมัด ซาอิดโคจา (MOHAMMAD SAID KOJA) โดยมีจุดประสงค์เด่นเพื่อคลี่คลายปมปัญหาการฆาตกรรมชาวซาอุฯและติดตามหาเครื่องเพชรที่สูญหายไป

อุปทูตซาอิด โคจายามนั้นจึงได้เล่นบทเด่น “อาละดิน” หน้าถ้ำเขาวงกต รอให้ปากถ้ำมหาสมบัติเปิดระหว่างนั้นก็ร่ายเวทย์ให้ข่าวจนได้สมญานามว่า “ทูตจัดจ้าน” บ้าง “ทูตจุ้นจ้าน” บ้าง..เรามารู้จักเบื้องลึกท่านทูตนักล่าสมบัติที่รู้จักฝันเฟื่องด้วยวัยเพียง 7 ขวบกัน

“ผมเฝ้าจับตาดูพ่อเงี่ยหูฟังข่าวสารทางวิทยุ ช่วงสงครามโลกครั้งที่สองถามพ่อก็บอกว่ากำลังเกิดสงครามแต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไร พอสงครามเลิก ผมเห็นรูปในนิตยสารปรากฎภาพผู้ใหญ่ของประเทศในชุดสูทหรูจับมือกันก็ถามพ่อ คำตอบคือพวกนั้นเป็นนักการทูตทำหน้าที่หย่าศึก ผมจึงเกิดความประทับใจและมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ทำหน้าที่สำคัญต่อชาติบ้านเมืองตั้งแต่นั้น”

นั่นคือที่มาของอุปทูตอดีตนักศึกษาปริญญา ด้านความสัมพันธ์และการเมืองระหว่างประเทศจากเมืองอเล็กซานเดรียประเทศอียิปต์ คนที่เป็นที่รู้จักกันกว้างขวางในประเทศไทยในเวลาต่อมา

อุปทูตโมฮัมหมัดซาอิด โคจาเริ่มงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่สถานทูต (ATTTACHE)ที่กระทรวงการต่างประเทศซาอุฯในปี 1960 ต่อมาก็เวียนว่ายไปประจำอยู่ที่กรุงวอชิงตัน กลับไปซาอุฯ กลับออกมาอยู่ฮอลแลนด์ กลับไป-มาซาอุฯเช่นนี้จนพบรักกับญาติสาวทันสมัยสัญชาติเดียวกันมาดามมันโซร่า บัลโต้ (MADAM MAN SOURA BALTO) ที่มีอายุอ่อนกว่าอุปทูตโคจาถึง 11 ปีจนปัจจุบันบุตรีทั้งสามมีครอบครัวกันไปหมดพร้อมหลานปู่อีก 6 คน

ชีวิตความเป็นอยู่แต่เด็กยันหนุ่ม “โคจา” ลูกพ่อค้าวานิชไม่เคยลำบากได้รับการเอาอกเอาใจจนกลายเป็นคนหัวรั้น แม้ในสถานการณ์ปัจจุบันแต่ทำไมอุปทูตคนนี้จึงนบนอบให้เกียรติผู้คนตั้งแต่ลูกน้องในสถานทูตยันบอดี้การ์ดส่วนตัวคนไทยที่ติดตามกันไปมากว่า 5 ปียังชวนขึ้นโต๊ะกินข้าวอยู่ทุกบ่อย

“เพราะผมรู้ว่าเราทุกคนแตกต่างกัน ลายนิ้วมือของตัวเองยังต่างกันทั้ง 10 นิ้วนับประสาอะไรกับความแตกต่างที่มีทั้งความเชื่อ ความรู้สึก นิสัยใจคอสำหรับผมไม่มีสูง ไม่ม่ต่ำกับใครทั้งนั้น ที่สูงไปกว่าผมคือพระเจ้า”

มั่นคง จริงใจอย่างนี้ทำไมต้องคอยฝึกปรืออาวุธปืนประจำกายกับบอดี้การ์ดคู่ใจ

“คนเรารู้ไม่ได้ว่าจะถึงที่เมื่อใด แต่ผมจะลองสู้ดูก่อน อยากให้มือปืนผมได้สัมผัสเสียงกระสุนที่ดังเป็นข้าวตอกแตกเสมอๆเขาจะได้ไม่ตื่นตระหนกเมื่อภัยมาถึงตัว เพราะโดยหน้าที่เขาจะต้องตายก่อน”

แม้วัย 64 ปีล่วงเลยเกษียณอายุแล้ว อุปทูตโคจายังได้รับความไว้วางใจมอบหมายตรงจากกษัตริย์ให้ติดตามเรื่องเพชรที่เหลืออยู่รวมทั้งการตายของพลเรือนซาอุฯในไทยต่อไป นายโคจาเล่าว่าก่อนมาเมืองไทยต้องศึกษาอ่านข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับประเทศไทยแทบจะทุกอณูโดยเฉพาะด้านข่าวสาร

อุปทูตสำอางโมฮัมหมัด ซาอิด โคจาในชุดสูทมียี่ห้อที่สั่งตัดจากอิตาลีทุกชุดนั้นพักผ่อนอย่างไร

“ผมชอบงานอะไรที่ท้าทาย ผมจะไม่พักเลยตลอด 24 ชั่วโมงถ้าร่างกายผมไม่ต้องการ แต่ถ้าร่างกายต้องการเมื่อใดผมหยุดทำงานทันที”

ก็น่าเห็นใจท่านอุปทูตเพราะโรคหัวใจของท่านไม่เข้าใครออกใคร!


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.