|
ตลาดปูนซีเมนต์ภาคเหนือป่วน ผู้ผลิตดั๊มราคาขาย-SCCCเบนเข็มบุกอีสาน
ผู้จัดการรายวัน(29 มิถุนายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
เผยตลาดปูนซิเมนต์ภาคเหนือป่วน หลังผู้ประกอบการแห่ออก ปูนซิเมนต์ไฟติ้งแบรนด์ หั่นราคาแย่งส่วนแบ่งตลาด แจงตลาดเล่นสงครามราคาในภาวะต้นทุนรวมเพิ่มกว่า 15% ขณะที่รัฐบาลประกาศตรึงราคาปูนซิเมนต์ ส่งผลกำไรหด ด้านปูนกลางเตรียมย้ายตลาดบุกภาคอีสาน เหตุสู้ต้นทุนไม่ไหว หันจับตลาดใหม่หวังรักษาแชร์ตลาดไว้ที่ 28% การออกปูนซิเมนต์ผสมไฟติ้งแบรนด์ อาทิ ปูนแรด ปูนเสือ ของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ปูนใหญ่ หรือ SCC และ ปูนมอร์ต้าร์ M 198 ,M 199, ของบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ในช่วงที่ผ่านมาทำให้ตลาดปูนซิเมนต์ผสมในพื้นที่ภาคเหนือ มีการแข่งขันเพื่อแย่งตลาดกันสูงขึ้น ในขณะที่บริษัทปูนซิเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ปูนกลาง หรือ SCCC ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายปูนซิเมนต์ ที่มีแชร์เป็นอันดับ 2 ของตลาด ซึ่งเดิมไม่มีการผลิตปูนผสมไฟติ้งแบรนด์ออกมาขาย ทำให้เสียส่วนแบ่งตลาดในตลาดปูนไป ทำให้ในช่วงต้นปีปูนกลางต้องมีการผลิตปูนซิเมนต์ไฟติ้งแบรนด์ "อินทรีปูนเขียว" เพื่อแย่งแชร์ในตลาดคืน
นางจันทนา สุขุมานนท์ รองประธานอาวุโส สายการตลาด บริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากกลุ่มปูนกลางได้ออกปูนซีเมนต์ผสมตัวใหม่สำหรับงานก่อ ฉาบ และเท ภายใต้แบรนด์ "อินทรีปูนเขียว" ซึ่งเป็นไฟติ้งแบรนด์ เพื่อสู้กับปูนซีเมนต์ผสมทีพีไอ M 199 และปูนตราแรดของเครือซิเมนต์ไทย ที่ผลิตออกมาขายในราคาต่ำกว่าปกติ
เนื่องจากปูนกลางไม่มีปูนไฟติ้งแบรนด์ราคาต่ำ ทำให้ขยายตลาดไม่ได้ และสูญเสียโอกาสมาตลอด ทั้งนี้ในช่วงแรกบริษัทคาดการว่าคู่แข่งจะจำหน่ายสินค้าประเภทนี้ไม่นาน แต่ที่ผ่านมาคู่แข่งแย่งตลาดไปมากเกินคาด ทำให้บริษัทต้องเร่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่มาทำตลาดสู้ โดยเจาะพื้นที่ในภูมิภาคเป็นหลัก เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต ไม่มีปูนอินทรีแดง ซึ่งเป็นปูนซีเมนต์ผสมวางขาย เพราะสู้ราคาไม่ได้ สำหรับตลาดปูนราคาถูกมีความต้องการสูงขึ้น จากเดือนละ 80,000 ตัน เป็นเดือนละ 3 แสนตัน ซึ่งบริษัทตั้งเป้าจะขายเท่ากับปูนอินทรีทอง คือปีละ 3 แสนตัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปูนกลางจะพยายามปรับหนี ด้วยการออกปูนซีเมนต์ผสมพิเศษ "อินทรีทอง" สำหรับงานฉาบเป็นรายแรกช่วง 1ปีเศษที่ผ่านมา แต่ยอดขายก็ยังอยู่ในระดับเดียวกับปูนมอร์ต้าร์ M 198 ของทีพีไอ และปูนเสือ พลัส ที่มียอดขายเดือนละ 30,000-40,000 ตัน แต่ล่าสุด กลุ่มปูนทีพีไอได้ออกปูนซีเมนต์ผสม M 197 ที่มีราคาต่ำกว่าปูน M 199 ที่ขายปลีกในราคาถุงละ 85-100 บาท (ถุงละ 50 ก.ก.) ออกมาชนกับ "อินทรีปูนเขียว" ส่งผลให้ยอดขายพื้นที่ภาคเหนือในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ต่ำลง
นางจันทนา กล่าวว่า จากการออกปูนไฟติ้งแบรนด์ M197 ของปูนทีพีไอ ส่งผลให้การแข่งขันในตลาดพื้นที่ภาคเหนือ เป็นการแข่งขันด้านราคามากขึ้น ในขณะที่ราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการผลิตปูนซิเมนต์ และการขนส่งมีราคาเพิ่มสูงขึ้น โดยต้นในการผลิตปูนซิเมนต์แบ่งเป็น3 ส่วน คือน้ำมัน ,ไฟฟ้า และวัตถุดิบ ซึ่งหลังจากที่มีการปรับขึ้นราคาน้ำมัน ทำให้ต้นทุนที่เกิดจากน้ำมันเพิ่มขึ้น 20% ส่วนต้นทุนด้านไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 8 % และต้นทุนจากวัตถุดิบปัจจุบันยังอยู่ในระดับไม่เกิน 10 %
ดังนั้น การปรับราคาน้ำมันขึ้น จึงทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นตามไปด้วย ประมาณการโดยร่วมแล้วต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น 15 % แต่ผู้ประกอบการไม่สามารถปรับราคาปูนซิเมนต์ขึ้นได้ เนื่องจากรัฐบาลประกาศปูนซิเมนต์เป็นสินค้าควบคุม ทำให้กำไรจากการขายของผู้ประกอบการช่วงไตรมาส 1-2 ของปีนี้ลดลงไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยในส่วนของปูนกลางพยายามที่จะลดต้นทุนการผลิตและการบริหารงานลง และหันไปใช้พลังงานทดแทนเพิ่มมากขึ้น เพื่อรักษาระดับอัตราการเติบโตของกำไร รวมถึงการรักษาส่วนแบ่งตลาดให้ได้ตามเป้าที่ 27-28% ซึ่งปัจจุบันปูนใหญ่มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 39% ปูนกลางส่วนแบ่งตลาดประมาณ 27% ส่วนปูนทีพีไอ มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 18 % ส่วนที่เหลือเป็นรายย่อยในตลาด
นอกจากการพยายยามลดต้นทุนดังกล่าวแล้ว ปูนกลางยังมีแผนที่จะขยายเพิ่มในตลาดภาคอีสานด้วย เพื่อให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นในตลาดได้ เนื่องจากปูนการขนส่งในตลาดภาคอีสานใช้ต้นทุนน้อยกว่าในภาคเหนือ เพราะโรงงานผลิตของปูนกลางอยู่ที่จังหวัดสระบุรี ระยะทางการขนส่งไปภาคอีสานใกล้กว่าภาคเหนือ ซึ่งในส่วนของตลาดภาคเหนือนั้น นอกจากต้องขายสินค้าในราคาต่ำแล้ว ยังประสบปัญหาทางด้านต้นทุนจากขนส่งที่มากกว่าคู่แข่ง อย่างปูนใหญ่ซึ่งมีโรงงานผลิตตั้งอยู่ที่จังหวัดลำปาง ทำให้ต้นทุนการขนส่งต่ำกว่าปูนกลางด้วย ทำให้การแข่งขันในพื้นที่ภาคเหนือค่อนข้างเสียเปรียบคู่แข่ง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าบริษัทจะสามารถรักษาระดับการเติบโตไว้ตามเป้าที่วางไว้ได้ จากยอดขายปูนคอนกรีตผสมเสร็จ ซึ่งจะมีการใช้จำนวนมากในปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลมีการก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ งานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคหลายโครงการ นอกจากนี้การขยายตัวของโครงการจัดสรรก็ยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะเข้ามาทำให้ตลาดปูนขยายตัวอยู่
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|