|

Newcomer
โดย
ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์ ณัฐวัฒน์ หอมจิตต์
นิตยสารผู้จัดการ(5 กรกฎาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
เป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 3 ผู้นำตลาดภายในเวลา 5 ปีของ K-Leasing อาจจะฟังดู aggressive ไม่น้อย แต่ด้วยแรงสนับสนุนและ
การทำงานที่ประสานกันอย่างเต็มที่จาก KBANK และ KBank Group ทำให้บริษัทลีสซิ่งน้องใหม่ในวงการแห่งนี้เป็นที่น่าจับตามอง
"บริษัทไม่มีประสบการณ์ แต่ผมมีนะ" อิสระ วงศ์รุ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย หรือ K-Leasing ตอบคำถาม "ผู้จัดการ" ถึงการเป็นบริษัทใหม่ในธุรกิจที่ธนาคารกสิกรไทยยังไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
สาเหตุที่มั่นใจเช่นนี้เป็นเพราะประสบการณ์การทำงานตลอด 18 ปีที่ผ่านมา เขาอยู่ในสายงานเช่าซื้อและลีสซิ่งมาโดยตลอด อิสระเพิ่งมาเริ่มงานที่ K-Leasing เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้เอง หลังจากที่มีการเจรจากับ KBANK ในรอบแรกมาตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งการเจรจาครั้งนั้นเกิดขึ้นก่อนที่ธนาคารจะได้ไลเซนส์ธุรกิจลีสซิ่งจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เสียอีก
ก่อนมารับตำแหน่งที่ K-Leasing อิสระเป็นกรรมการบริหารฝ่ายขายและการตลาด ที่เดมเลอร์ไครสเลอร์ ลีสซิ่ง (ประเทศ ไทย) หลังจากที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในด้านเช่าซื้อที่กลุ่มทิสโก้มา 12 ปีเต็ม
K-Leasing ถือเป็นบริษัทใหม่ล่าสุดใน KBank Group เนื่องจากเพิ่งจดทะเบียนตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากได้รับไลเซ่นส์จาก ธปท.ในช่วงกลางเดือนเดียวกัน ซึ่งก่อนหน้าที่จะได้ข้อสรุปในการตั้งบริษัทแห่งนี้ คณะกรรมการธนาคารได้พิจารณาหาแนวทางในการทำธุรกิจลีสซิ่งหลายทางเลือกด้วยกัน ทั้งการซื้อบริษัทลีสซิ่งที่มีอยู่แล้ว และการซื้อพอร์ตสินเชื่อจากรายอื่นมาบริหารต่อ ซึ่งในกรณีแรกมีความกังวลในเรื่องวัฒนธรรมองค์กรที่อาจจะแตกต่างจากของธนาคาร ส่วนในกรณีหลังก็มีความไม่แน่ใจในคุณภาพของพอร์ตที่จะซื้อมา ในที่สุดจึงตกลงใจที่จะตั้งบริษัทขึ้นใหม่เพื่อทำธุรกิจนี้โดยเฉพาะ
ถึงแม้จะเป็นบริษัทใหม่ แต่เป้าหมายที่อิสระวางเอาไว้ก็ใหญ่ไม่น้อย
"บอร์ดให้ไดเร็กชั่นมาว่า ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารใหญ่ ติดอันดับ TOP 3 เพราะฉะนั้นจะทำธุรกิจอะไรก็ให้ทำใหญ่ ไม่ทำเล็ก เราคิดว่าภายใน 5 ปี ควรจะเป็น TOP 3 เพราะฉะนั้นก็ควรจะมีมาร์เก็ตแชร์ในตลาดไม่ต่ำกว่า 15%" อิสระกล่าว
หลังจากใช้เวลาช่วงแรกในการวางนโยบาย รีครูตทีมงาน คัดเลือกและวางระบบไอที รวมทั้งการตกแต่งสำนักงาน หลังจากที่ต้องใช้ห้องประชุมของกสิกรไทย สำนักพหลโยธินเป็นออฟฟิศมาหลายเดือน K-Leasing พร้อมจะเริ่มดำเนินธุรกิจในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ โดยโปรดักต์ที่เตรียมไว้จะมี 3 กลุ่มหลักๆ คือ เช่าซื้อ ที่จะจับกลุ่มลูกค้าบุคคลทั่วไปและนิติบุคคล ลีสซิ่ง ที่จับกลุ่มลูกค้าองค์กรและสินเชื่อให้กับผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ เพื่อใช้ซื้อรถมาจำหน่ายให้กับลูกค้า
ตลาดที่ K-Leasing มุ่งเน้นในระยะแรกจะเป็นรถยนต์ใหม่ เพื่อสร้างฐานลูกค้าให้มั่นคง เพราะเป็นตลาดที่มีความเสี่ยงต่ำและมี NPL น้อย ถึงแม้จะมีมาร์จิ้นต่ำกว่าตลาดรถยนต์มือสองที่มีความเสี่ยงสูงกว่าก็ตาม นอกจากนี้ยังจะเน้นเจาะตลาดในแต่ละแบรนด์ โดยเน้นแบรนด์ที่มียอดขายจำนวนมากและมีราคาขายต่อดี โดยจะใช้ราคาเป็นกลยุทธ์ในการแข่งขัน
"ถ้าทำเช่าซื้อ หนีไม่พ้นเรื่องราคา ดอกเบี้ยของลีสซิ่งกสิกรไทยจะต้องแมตช์กับผู้นำตลาดได้ ไม่ว่าผู้นำในแบรนด์นั้นเป็นใคร เราจะเสนอดอกเบี้ยที่เท่าเทียมกัน"
การมี KBANK ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เป็นจุดแข็งที่สำคัญของ K-Leasing เพราะนอกจากฐานเงินทุนและเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อนำมาใช้ในการปล่อยสินเชื่อแล้ว ฐานลูกค้าของธนาคารที่มีอยู่เป็นจำนวนมากทั้งลูกค้าบุคคลและองค์กรก็ยังเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจอย่างมาก รวมไปถึงบริการหรือผลิตภัณฑ์อื่นของธนาคาร ที่มีอยู่ก็สามารถนำมารวมเข้ากับบริการของ K-Leasing สร้างให้เกิดความแตกต่างจากบริการของคู่แข่งได้
"ธนาคารมีลูกค้า Platinum อยู่ 14,000 บัญชี ลูกค้ากลุ่มนี้มีรายได้สูงฐานะดี ผมสามารถอนุมัติให้ซื้อรถล่วงหน้า ไม่ต้องดาวน์ ไม่ต้องค้ำประกันก็ได้ หรือลูกค้าสินเชื่อบ้านที่มีอยู่ 2 แสนบัญชี ผมอาจจะจัดแพ็กเกจไปขายคู่กันเลย ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเขาได้ประโยชน์ ได้สิทธิพิเศษ ขณะเดียวกันธนาคารกสิกรไทยก็ได้ธุรกิจเพิ่ม" อิสระยกตัวอย่างถึงการทำตลาดกับฐานลูกค้าของ KBANK
นอกจากความร่วมมือดังกล่าวแล้ว ตามแผนงานที่วางไว้ K-Leasing จะขยายบริการออกสู่ต่างจังหวัดในปีที่สองของการทำธุรกิจ ซึ่งก็จะใช้พื้นที่ในสาขาต่างจังหวัดของธนาคารเป็นสำนักงานสาขาด้วยเช่นกัน โดยจะมีความร่วมมือกับทีมงานของธนาคาร ในสาขาที่ไปตั้งอยู่อย่างใกล้ชิด ทั้งการแนะนำลูกค้าบุคคลและดีลเลอร์ ไปจนถึงการที่ผู้จัดการสาขาสามารถอนุมัติสินเชื่อในเบื้องต้นให้กับลูกค้าได้เลย ซึ่งจะทำให้การปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ในส่วนของการ integrate เข้ากับ KBank Group ก็เช่นกัน นอกจากจะมีการแนะนำลูกค้าให้ระหว่างกันแล้ว ในอนาคตก็จะพิจารณาการผสมผสานโปรดักต์เข้าด้วยกัน เป็นโซลูชั่นเพื่อเสนอให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
"ตอนนี้ยังไม่รู้ว่ากลุ่มลูกค้าจากธนาคารจะสำเร็จได้กี่เปอร์เซ็นต์ แต่ว่ามันตื่นเต้น อย่างลูกค้าบัตรเครดิตที่มีอยู่ 8 แสนบัญชี ถ้าเรา pre-approved ไป ให้ซื้อรถได้ในราคาพิเศษ เงินดาวน์ต่ำ ดอกเบี้ยพิเศษ ผ่อนนาน ไม่ต้องมีผู้ค้ำ แล้วลูกค้าตอบรับกลับมาสัก 5% ก็ 4 หมื่นรายแล้วนะ"
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|