เปิดศึกสื่อบันเทิงรายวัน

เปิดศึกสื่อบันเทิงรายวัน

ผู้จัดการรายวัน(27 มิถุนายน 2548)

กลับสู่หน้าหลัก

ตลาดหนังสือพิมพ์บันเทิงเดือด สองค่ายยักษ์เข็นรายวันลงสนาม ทั้งสยามสปอร์ตฯ และอาร์.เอส.ฯ ที่เปิดบริษัทใหม่ นิวส์ เจนเนอเรชั่น ออกรบ ดึงต้อย แอ็คเน่อร์เป็นหัวเรือใหญ่ จับตาอากู๋ แกรมมี่ เอาด้วย ชี้สมรภูมินี้มีโอกาสโตทำเงินอีกมาก เหตุข่าวบันเทิงอยู่ในอันดับต้นของการอ่าน

ขณะที่ธุรกิจสื่อทีวีและสื่อวิทยุมีการแข่งขันที่รุนแรงนั้น ในอีกฟากหนึ่งสื่อสิ่งพิมพ์โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์รายวันก็อยู่ในภาวะที่ไม่ต่างกันเท่าใดนัก นอกจากหนังสือพิมพ์ประเภทธุรกิจรายวันแล้ว สิ่งที่น่าจับตามองในเวลานี้คือ การเปิดศึกหนังสือพิมพ์ในเซ็กเม้นท์ใหม่ที่เป็น ตลาดหนังสือพิมพ์บันเทิงรายวัน ทั้งจากกลุ่มที่ประกอบธุรกิจในตลาดสื่อสิ่งพิมพ์อยู่แล้วคือ กลุ่มสยามสปอร์ตฯ ที่ได้เปิดตัว "สยามดารารายวัน" กับกลุ่มธุรกิจบันเทิงเช่นกรณีของค่ายอาร์.เอส.ฯ ที่จะเปิดตัว "ดาราเดลี่" ลงแผงอีกรายและจะเปิดตัวแถลงข่าวในวันจันทร์ที่ 27 มิถุนายนนี้ และยังมีอีกค่ายคือ จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ที่มีกระแสข่าวว่าจดๆ จ้องๆ ตลาดสิ่งพิมพ์รายวันบันเทิงนี้ด้วยเหมือนกัน

ในตลาดสิ่งพิมพ์บันเทิงนั้นเดิมทีตลาดนี้จะแข่งขันกันอยู่ในกลุ่มของประเภทรายสัปดาห์และรายสามวันเท่านั้น ซึ่งก็ถือว่ารุนแรงเช่นกันทั้งในแง่ของการแย่งเม็ดเงินโฆษณา การแย่งชิงภาพที่ดึงดูดใจขึ้นหน้าปก หรือเนื้อหาที่พยายามจะเจาะให้ลึกที่สุดกว่าฉบับอื่น โดยในตลาดนั้นจะมีรายใหญ่ เช่น รายสัปดาห์คือ ไฮไลท์บันทิง, วันหยุด ส่วนรายสามวัน เช่น มายาแชแนล, สยามบันเทิง เป็นต้น ซึ่งแหล่งข่าวในวงการมีเดียกล่าวให้ความเห็นเพิ่มเติมกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ตลาดของนสพ.รายวันบันเทิงจะเข้ามาแย่งตลาดของนสพ.บันเทิงรายสัปดาห์หรือรายสามวันที่มีอยู่ก่อนแน่นอน เพราะด้วยความสดและไวต่อเหตุการณ์

สาเหตุที่ค่ายบันเทิงหันมาลงทุนทำสื่อบันเทิงของตัวเองก็เนื่องจากจะได้ใช้เป็นสื่อในการโปรโมทหรือไม่ก็สนับสนุนกับธุรกิจหลักของตัวเองให้มีความครบวงจรมากขึ้น ทั้งสื่อทีวี สื่อวิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ แต่คนวงนอกอาจจะมีความรู้สึกที่ไม่ดีว่าจะไม่มีความเป็นกลางในการรายงานข่าวก็ได้ ไม่เหมือนกับกรณีของกลุ่มสิ่งพิมพ์ที่ทำออกมาเพราะมีความเป็นกลางมากกว่า ตรงนี้เองก็คือปัญหาที่จะส่งผลต่อการทำตลาดหรือการขายต่อกลุ่มทุนบันเทิงเองที่ต้องหาทางแก้ไขให้ได้

นอกจากนั้นแล้วโอกาสของตลาดหนังสือพิมพ์บันเทิงรายวันก็ยังมีอยู่สูง เนื่องจากว่ายังถือเป็นตลาดใหม่ ที่แตกต่างจากรายสัปดาห์หรือแมกกาซีนบันเทิงรายเดือน อีกทั้งการลงโฆษณาของสินค้าก็ยังมีความต้องการอยู่ เพราะหากวิเคราะห์พฤติกรรมการอ่านหนังสือพิมพ์ของผู้บริโภคแล้วจะพบว่า เมื่อเปิดหนังสือพิมพ์จะต้องดูหน้าหนึ่งเป็นอันดับแรกแน่นอนเพราะเลี่ยงไม่ได้ รองลงมาก็คือการเปิดไปที่หน้าบันเทิงและตามด้วยหน้ากีฬา นอกนั้นก็แล้วแต่ความสนใจของคนทั่วไป จึงทำให้ข่าวบันเทิงค่อนข้างมาแรงตลอด

ทั้งนี้มูลค่าตลาดโฆษณาช่วง 5 เดือนแรกปีนี้มีประมาณ 34,000 ล้านบาท ในส่วนของสื่อสิ่งพิมพ์ที่เป็นหนังสือพิมพ์นั้นมีมูลค่าประมาณ 6,500 ล้านบาท น้อยลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่มี 7,000 ล้านบาท ลดลงประมาณ 6% เนื่องจากว่าช่วงปีนี้มีปัจจัยลบมากกว่า เช่น กรณีของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น หรือแม้แต่ผลกระทบจากคลื่นสึนามิ ทำให้สินค้าต่างๆ ก็ลดการโฆษณาลงบ้าง แต่ในระยะยาวแล้ว สื่อหนังสือพิมพ์ก็ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง

นายวิลักษณ์ โหลทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ในเครือของสยามสปอร์ตซินดิเคท กล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า การเปิดตัวนสพ.สยามดารารายวัน ก็เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด เนื่องจากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ วงการบันเทิงทั้งในและต่างประเทศเป็นที่สนใจของผู้คนจำนวนมาก รวมทั้งการศึกษาตลาดพบว่า การตอบรับของผู้คนในการบริโภคข่าวสารบันเทิงมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นทุกปี ไม่แพ้การบริโภคข่าวการเมืองหรือเศรษฐกิจ ประกอบกับช่องว่างตลาดยังมี เพราะเดิมมีแต่รายสัปดาห์หรือรายสามวัน แต่เรื่องดาราหรือแวดวงบันเทิงจะมีข่าวตลอด อีกทั้งจะเป็นการแข่งขันของแต่ละฉบับเองด้วย เพราะต้องเป็นข่าวที่ไปขุดคุ้ยมา แตกต่างจากข่าวการเมืองหรือเศรษฐกิจซึ่งทุกฉบับหรือทุกวันก็มักจะเหมือนกันอยู่แล้ว เพราะเป็นข่าวตามงานแถลงหรือการประชุม อาจจะมีบ้างที่เป็นข่าวขุดคุ้ยหรือเอ็กซ์คลูซีฟแต่ก็น้อยกว่า แต่ข่าวดาราไม่ใช่แบบนั้น จะต้องหาข่าวกันเองเป็นส่วนใหญ่ทั้งตามกระแสกับข่าวเอ็กคลูซีฟ ที่จะต้องรายงานสด ทันเหตุการณ์ทุกวัน

"ตรงนี้บางครั้งก็เหมือนกับง่ายแต่บางครั้งมันก็ยาก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ใครก็ได้อยากทำก็จะเข้าทำ ต้องมีปัจจัยทุกอย่างพร้อม" นายวิลักษณ์กล่าว

สำหรับนสพ.สยามดารา จะวางจำหน่ายฉบับแรกเป็นทางการวันที่ 30 มิถุนายนศกนี้ ราคา 10 บาท ต่อฉบับ ความหนาประมาณ 20 หน้า มียอดพิมพ์ประมาณ 200,000 ฉบับต่อวัน คาดจำหน่ายได้ประมาณ 70% โดยทางสยามสปอร์ตฯ เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ซึ่งเนื้อหาภายในจะประกอบไปด้วยข่าวคราวบันเทิงและดาราทั้งในต่างประเทศ

โดยสยามดารารายวันได้ตัว นายยอดชาย ขันธชวนะ เข้ามารับผิดชอบเป็นหัวเรือหลัก และยังมีนายธีร์ภัทร สูตะบุตร เข้ามาเป็นบรรณาธิการบริหาร ซึ่งนายธีร์ภัทรนี้เป็นบุตรชายของนายธีระ สูตะบุตร เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่เป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กประถมกับนายวิลักษณ์มาตลอด และปัจจุบันยังเป็นกรรมการบริหารของบริษัทอินสไพร์ฯ ด้วย

แหล่งข่าวจากกลุ่มบริษัท อาร์.เอส.โปรโมชั่น จำกัด กล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ทางกลุ่มอาร์.เอส.ฯ ได้จัดตั้งบริษัทในเครือขึ้นมาใหม่ชื่อว่า บริษัท นิวส์ เจนเนอเรชั่น จำกัด ขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบในการทำตลาดหนังสือพิมพ์บันเทิงรายวันชื่อว่า "ดาราเดลี่" ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมตัวที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ หลังจากที่ได้มีการฟอร์มทีมงานและความพร้อมมาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากเห็นว่านสพ.บันเทิงรายวันมีโอกาสโต ซึ่งสังเกตได้จากธุรกิจปัจจุบันนี้ต้องเอาดาราไปเกี่ยวข้องทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าหรือการเชิญไปร่วมงานเปิดตัวสินค้าต่างๆ และเรื่องราวของดาราหรือศิลปินก็เป็นที่สนใจของคนทั่วไป จึงไม่แปลกที่นสพ.บันเทิงจะทำเงินได้

โดยค่ายอาร์.เอส.ฯ ได้ดึงตัวนายเกรียงศักดิ์ สกุลชัย หรือ ต้อย แอ๊คเน่อร์ เข้ามาเป็นตัวหลักในการทำหนังสือพิมพ์ดาราเดลี่ฉบับนี้ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ทางด้านข่าวสาระบันเทิงและมีสายสัมพันธ์อันดีกับแวดวงศิลปินดาราต่างๆ เคยมีประสบการณ์มาหลายฉบับเช่นที่ ทีวีพูล คุณหญิง บอส มายาแชแนล คู่สร้างคู่สม เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีทีมงานเดิมที่เคยร่วมงานกันที่ มายาแชแนล ซึ่งเป็นฉบับล่าสุดที่ต้อยร่วมงานก่อนออกมาอยู่กับอาร์.เอส.ฯ มาร่วมด้วยส่วนหนึ่ง

ทั้งนี้รูปแบบของดาราเดลี่นั้น จะมีการนำเสนอทั้งข่าวบันเทิงในประเทศและต่างประเทศ มีการนำเสนอที่เป็นเชิงสาระบันเทิง และจะมีส่วนของข่าวคราวทางด้านธุรกิจสื่อเข้ามาด้วย เพื่อให้มีความคอบคลุมทั้งบันเทิงและธุรกิจ

กลับสู่หน้าหลัก

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย