361 จุดบนกระดานหมากล้อม หรือโกะ คือ กลยุทธ์ และการวางแผนในการรุก และรับ
ที่ต้องขบคิด อย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้
วันนี้หมากล้อม ศิลปะในการพัฒนาสติปัญญา ศาสตร์แห่งนันทนาการชั้นสูง ของจีน
ที่ได้มีการคิดค้นแพร่หลายมานานกว่า 3,000 ปี กำลังถูกพัฒนาเป็นหลักสูตร
ใหม่หลักสูตรหนึ่ง ที่เปิดสอนให้กับเด็กๆ ของบริษัทจินตศึกษา (NEQ)
ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ผู้บริหารคนหนึ่งของบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์
ผู้ เป็นเจ้านายเก่าของ ทวีศักดิ์ รักยิ่ง กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทจินตศึกษาได้แนะนำ
ให้เขาเอาหมากล้อมมาพัฒนาเป็นหลักสูตรใหม่สอนให้กับผู้ที่สนใจ ก่อศักดิ์เป็นผู้เอาหมากล้อมมาเล่นในเมืองไทย
และเป็นผู้ก่อตั้งชมรม หมากล้อมประเทศไทยขึ้นเมื่อปี 2536 และเป็นผู้ที่ซื้อกระดาน
และฝึกสอนให้ทวีศักดิ์เล่นจนเป็น ตั้งแต่สมัย 6-7 ปีที่ผ่านมา
บนกระดานหมากล้อมเล็กๆ ที่มี 19 จุด 19 เส้น ตัดกัน และทำให้เกิดจุดตัดทั้งหมด
361 จุด นั่นคือ ที่มา ของเคล็ดลับในการพัฒนาความคิดอย่างมีระบบขั้นตอน
โดยมีวิธีการเล่น ที่ไม่ยาก เพียง 10 นาทีก็สามารถเล่นได้เป็นแล้ว ผู้เล่นจะผลัดกันวางหมากขาว
และหมากดำลงไปตรงจุดตัดครั้งละเม็ด หมากทุกตัว มีค่าเท่ากัน หากสีขาวถูกล้อมด้วยสีดำเมื่อไร
สีขาวก็จะถูกกิน และสีดำก็จะเป็นฝ่ายครอบครองพื้นที่ สีใดครองพื้นที่ได้มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ
ทฤษฎีหลักๆ ของการเล่นจะมีเพียงเท่านี้ อาจจะดูไม่ยากแต่ทำอย่างไรไม่ให้กลายเป็นผู้ที่ถูกล้อม
และรักษาตัวเองให้อยู่รอดเป็นเรื่อง ที่ยาก ผู้เล่นต้องคิด และระวังตัวตลอดเวลา
และหากจะเล่นให้เก่งก็ยิ่งเป็นเรื่อง ที่ต้องใช้เวลาในการฝึกฝนพอสมควรทีเดียว
การลงหมากแต่ละครั้งทำให้สถานการณ์บนกระดานเปลี่ยนไป ดังนั้น ผู้เล่นจะต้องมีการวางแผน
และมีกลยุทธ์ในการวาง เพราะทรัพยากรทุกคนมีจำกัด คือ ลงได้ทีละเม็ด และมีความเสมอภาคเท่าเทียมกันโดยลงได้คนละที
จำนวนจุดที่มากมายจะทำให้ผู้เล่นไม่มั่นใจว่าจะลงตรงไหนก่อนดีนั้น หมายถึงทางเลือกจำนวนมาก
ที่ต้องฝึกตัดสินใจว่าจะเลือกเล่นทางไหนถึงจะดีที่สุด
"ผมเชื่อว่าเกมนี้จะเอามาประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้
จะเป็นเกม ที่อ่านอารมณ์ และรู้ถึงพฤติกรรมของคน และถ้าคุณเล่นอย่าหวังในการชนะอย่างเดียวจนขาดความระมัดระวังตัวถึงที่สุดแล้วคุณจะแพ้
ในการแข่งขันบางครั้งเราอาจจะยอมเสียบางพื้นที่ เพื่อชัยชนะทั้งหมดในที่สุด"
ทวีศักดิ์อธิบายให้ฟัง และกล่าวต่อว่า
ขั้นตอน และการวางแผนที่ต้องอาศัยความคิดอย่างลึกซึ้ง คือ การพัฒนา และฝึกฝนขบวนการคิดอย่างมีหลักการ
และเหตุผล เสมือนการฝึกให้สมองได้มีโอกาสทำงานอย่างต่อเนื่องผ่อนคลาย ขณะเดียวกันก็สามารถเสริมสร้างการพัฒนาสมองอย่างมีขั้นตอนมีระบบระเบียบ
หมากล้อมได้มีการแบ่งระดับการเรียนตามความสามารถของผู้เรียน และมาตรฐานสากล
โดยเป็นการเรียนระดับพื้นฐานจะมีทั้งหมด 15 คิว โดยเริ่มตั้งแต่คิว 15-คิว
1 แบ่งเป็น 5 ระดับ ระดับละ 12 ครั้ง 18 ชั่วโมง และหลังจากนั้น ผู้เล่นต้องฝึกฝน
และพัฒนาตัวเอง เพื่อก้าวสู่ระดับมืออาชีพได้ ส่วนค่าใช้จ่ายระดับละประมาณ
2,250 บาท
นอกจากหมากล้อมแล้ว หลักสูตรใหม่อีกอย่างหนึ่ง ที่จินตศึกษากำลังพัฒนา และเพิ่งเปิดไป
คือ "นฤศิลป์" ซึ่งมีแนวความคิดในการให้มีความอิสระ ในการสร้างงานทุกด้านไม่ว่าวาดเขียน
ปั้น และ ประดิษฐ์ เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ เข้าใจความรู้สึก และสามารถนำเสนอความรู้สึกอารมณ์ให้ผู้อื่น
เป็นการพัฒนาดุลยภาพทั้งทางด้าน EQ และ IQ
นฤศิลป์ เป็นศิลปะแนวใหม่ ที่ทวีศักดิ์ย้ำว่าเป็นการมุ่งเน้นการใช้ศิลปะเป็นสื่อในการพัฒนาระบบการเรียนรู้ของเด็ก
โดยหลักสูตรได้แบ่งออก เป็น 4 ระดับ ระดับละ 18 ชั่วโมง สำหรับเด็กอายุ 5-12
ปี ราคาระดับละ 3,400 บาท
ระดับแรกเป็นหลักสูตร ที่ทำให้เด็กมั่นใจ ที่จะแสดงออก กล้าคิดกล้าเขียน
และพัฒนากล้ามเนื้อมือ เช่น ใช้มือในการปั้น ใช้นิ้วในการพิมพ์งาน ฝึกประสาทสัมผัสสัมพันธ์กับจินตนาการ
ระดับ ที่ 2 ให้เข้าใจองค์ประกอบศิลป์ โดยจะมีกิจกรรมต่างๆ ที่จะสอดแทรก
วิชาทางด้านเลขาคณิตเข้าไป เพื่อไม่ให้เด็กมองอะไรด้านเดียว ระดับ ที่ 3
ให้เด็กๆ มีความสามารถในการสื่อความหมายจากงานศิลป์ และสามารถนำเสนอผู้อื่นได้
และ ระดับสุดท้าย เน้นให้ผู้เรียนมีความคิดสร้างสรรค์อย่างมีอิสระ
หลักสูตรนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยผู้สอนไม่ได้มุ่งเน้นความสำคัญของผลงานเด็ก หากแต่ให้ความสนใจในกระบวนการเรียนรู้ของเด็ก
ผลงานจึงเป็นเพียงผลพลอยได้จากการเรียนเท่านั้น
ทวีศักดิ์เป็นผู้พัฒนาหลักสูตรจินตคณิต โดยการใช้ลูกคิดจนโด่งดังอย่างมาก
เมื่อประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา และได้มาตั้งบริษัทจินตศึกษาขึ้นเมื่อปลายปี
2531 โดย มีหลักสูตรหลักคือ จินตคณิต จินตภาษา นฤศิลป์ และหมากล้อม ปัจจุบันมีการขยาย
สาขาทั้งหมดในระบบแฟรนไชส์ได้ประมาณ 38 สาขาทั่วประเทศ