เนวินย้อนห้างไทย เซเว่นฯรายต่อไป


ผู้จัดการรายวัน(19 กรกฎาคม 2545)



กลับสู่หน้าหลัก

"พาณิชย์" หันหัวไล่ทุบห้างไทย ร่อนหนังสือถึง "เซ็นทรัล" ขอให้ชี้แจง กรณีซัปพลายเออร์ร้องถูกบังคับให้ส่งสินค้าที่ศูนย์เติมและกระจายสินค้าแบบไม่เป็นธรรม "เนวิน" เรียกให้ปากคำต้นเดือนส.ค.นี้

หากแจงไม่เคลียร์เจอฟันไม่เลี้ยงแน่ ยืนยันทั้ง 4 ยักษ์ค้าปลีก ทั้งเซ็นทรัลจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน ไม่มีการเลือกปฏิบัติ เตรียม ลงดาบ "เซเว่นอีเลฟเว่น" เป็นรายต่อไป

หลังสืบพบมีการเรียกเก็บค่า Entrance Fee ส่วนการสอบกรณี 4 ยักษ์ค้าปลีกตกแต่งบัญชีตบตารัฐ วันนี้รู้ผล แฉเบื้องต้นทั้ง 4 รายลงบัญชีเป็นรายได้อื่นๆ เกือบ 2,000 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กรมการค้าภายใน ในฐานะเลขานุ-การคณะอนุกรรมการแข่งขันทาง การค้า ที่มีนายเนวิน ชิดชอบ รัฐ-

มนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ได้ทำหนังสือไปยังห้าง สรรพสินค้าเซ็นทรัล เพื่อให้ชี้แจงกรณีที่ผู้ผลิตสินค้า (ซัปพลายเออร์) ร้องเรียนมายังกระทรวงพาณิชย์ว่า

เซ็นทรัลบังคับให้ซัปพลายเออร์ต้อง ส่งสินค้าไปยังศูนย์เติมและกระจาย สินค้า (Replenishment Center : RC) แต่เพียงแห่งเดียว จากเดิมที่ซัปพลายเออร์สามารถส่งสินค้าไปยังสาขาต่างๆ

ของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลได้ โดยการส่งหนังสือไปเพื่อให้เซ็นทรัลชี้แจงกลับมานั้น เนื่องจากในเบื้องต้นคณะอนุกรรมการฯ เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายมีพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม

เพราะใช้อำนาจที่มีอยู่บังคับให้ซัปพลายเออร์ต้องปฏิบัติตาม โดยไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่น แหล่งข่าวกล่าวว่า หลังจากที่เซ็นทรัลมีหนังสือชี้แจงมายังคณะอนุกรรมการฯ แล้ว นาย เนวิน

จะได้เชิญผู้บริหารเซ็นทรัลเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงอีกครั้งภายในต้นเดือนสิงหาคม 2545 นี้ หากชี้แจงไม่ชัดเจน กระทรวงพาณิชย์ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายการแข่งขันทางการค้า

ซึ่งจะดำเนินการควบคู่กันไปกับกรณีของร้านค้าปลีกรายใหญ่ต่างชาติทั้ง 4 รายคือ เทสโก้โลตัส แม็คโคร บิ๊กซี และคาร์ฟูร์ โดยไม่จำเป็นต้องให้จัดการกับทั้ง 4 รายเสร็จก่อนแล้วจึงจะจัดการ กับเซ็นทรัล

"เชื่อว่าการแก้ปัญหากรณีเซ็นทรัลคงจะง่าย กว่ายักษ์ค้าปลีกทั้ง 4 ราย เพราะเป็นคนไทยเหมือนกันจึงน่าจะตกลงกันได้ง่ายกว่า" แหล่งข่าวกล่าว

สำหรับซัปพลายเออร์ที่ร้องเรียนมายังกระทรวงพาณิชย์กรณีของเซ็นทรัลนั้น ส่วนใหญ่ เป็นซัปพลายเออร์ที่ผลิตสินค้าอุปโภค เช่น เครื่องหนัง และเสื้อผ้า เป็นต้น

และซัปพลายเออร์เหล่านี้ถูกบังคับให้เข้าสู่ระบบ RC ของเซ็นทรัล โดยจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขภายใต้ระบบ RC ที่เซ็นทรัลกำหนด คือ จากเดิมซัปพลายเออร์จะเป็นผู้ขนส่งสินค้าไปส่งยังสาขาต่างๆ

ของเซ็นทรัล แต่หลังจากนำระบบ RC มาใช้ ซัปพลายเออร์จะต้องส่งสินค้ามาที่ RC ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการรับสินค้าจากซัปพลายเออร์ โดย

ทางเซ็นทรัลจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากซัปพลายเออร์ในการนำสินค้าไปส่งต่อตามสาขา ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บนี้ ทำให้ต้นทุนของซัปพลายเออร์เพิ่มขึ้นจากเดิม 10-30 เท่า อย่างไรก็ตาม

ในกรณีนี้ทางเซ็นทรัลได้ชี้แจงว่าเป็นการปรับระบบการขนส่งสินค้าของเซ็นทรัล เพื่อให้ง่ายต่อการนำสินค้าจากซัปพลาย เออร์ไปส่งยังสาขาต่างๆ ของเซ็นทรัล

ส่วนการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเป็นรายชิ้นนั้น เป็น การเรียกเก็บตามราคาของสินค้าที่ขนส่ง โดยสินค้าใดราคาถูกก็จะเก็บถูก สินค้าใดมีราคาแพง ก็จะเก็บแพง

ซึ่งการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายนี้ถือว่าเหมาะสม เพราะจะเป็นการรับประกันสินค้านั้นๆ ทั้ง 100% จับตาเซเว่นอีเลฟเว่น แหล่งข่าวกล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการตรวจสอบ

พบว่าร้านสะดวกซื้ออย่างเช่นเซเว่นอีเลฟเว่น ได้มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสินค้าแรกเข้า (Entrance Fee) กับซัปพลายเออร์ในการนำสินค้าเข้าไปจำหน่าย ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ เห็น

ว่าเข้าข่ายการมีพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมเช่นเดียวกับกรณีของร้านค้าปลีกรายใหญ่ และกระทรวงพาณิชย์จะต้องดำเนินการโดยเรียกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเช่นเดียวกัน

แต่ขณะนี้ยังไม่มีซัปพลายเออร์รายใดร้องเรียนมา จึงยังไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ ฟันตกแต่งบัญชีวันนี้ นายเนวินกล่าวว่า กรณีการตรวจสอบงบการเงินของร้านค้าปลีกรายใหญ่ 4 ราย

หลังจากมีผู้ร้องเรียนให้เข้าไปตรวจสอบ เพราะอาจขัดกับพ.ร.บ.การบัญชี โดยมีข้อสงสัยชวนให้เชื่อว่าทั้ง 4 รายมีการตกแต่งบัญชีนั้น ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ จะหารือกับกรมทะเบียนการค้า

เพื่อหาแนวทางจัดการกับเรื่องดังกล่าว หากพบว่ามีการแต่งบัญชีจริงคงต้องเอาผิดกับทั้งผู้สอบบัญชี ซึ่งเป็นบริษัทต่างชาติที่มีชื่อเสียง 5 อันดับแรกของโลก และนิติบุคคลเจ้าของกิจการ ทั้ง 4

รายตามกฎหมายแน่นอน รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าทั้ง 4 ราย ได้เพิ่มเติมรายการที่เป็น รายได้อื่นในงบการเงินเป็นจำนวนเงินมหาศาล โดยในปี 2543 แม็คโคร

มีรายได้อื่นสูงถึง 263 ล้านบาทจากรายได้จากการขาย 35,765 ล้านบาท เทสโก้โลตัส 796 ล้านบาทจากยอดขาย 33,078 ล้านบาท บิ๊กซี 777 ล้านบาทจากยอดขาย 12,084 ล้านบาท และคาร์ฟูร์ 106

ล้านบาทจากยอดขาย 10,906 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ควรลงบัญชีรายได้เฉพาะในส่วนที่เป็นรายได้จากการขายสินค้า ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของการทำธุรกิจเท่านั้น

และเป็นไปได้ว่ารายได้อื่นดังกล่าวอาจมาจากค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ทั้ง 4 รายเรียกเก็บจากซัปพลายเออร์ เช่น ค่าธรรมเนียมสินค้าแรกเข้า เป็นต้น ดึงหอการค้าช่วยเออาร์ไทย นายเนวินกล่าวอีกว่า

ได้เชิญนายสมภพ อมาตยกุล รองประธานหอการค้าไทย นายอนุชัย วีรพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท รวมค้าปลีกเข้าแข็ง จำกัด (เออาร์ไทย) มาหารือถึงการ

เตรียมความพร้อมในการเข้าเป็นสาขาเออาร์ไทย ของหอการค้าจังหวัดทั้ง 75 จังหวัด โดยได้กำหนดว่าภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2545 จะต้อง

มีการเซ็นสัญญาเข้าเป็นสาขาให้แล้วเสร็จเพื่อจะได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคมเป็นต้นไป โดยในเบื้องต้นหอการค้าไทยแจ้งว่ามีความ พร้อมประมาณ 80-90% เนื่องจากได้มีการวางระบบอี-

คอมเมิร์ซมาใช้ และมีเว็บไซต์ของหอการค้าไทยอยู่แล้ว เหลือเพียงด้านบุคลากร ซึ่งเมื่อวางตัวบุคลากรได้แล้ว จะมีการเชิญเข้าคอร์สฝึกอบรมตามกำหนดการที่เออาร์ไทยกำหนดขึ้น



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.