มุมมองเอไอเอสแข่งขันเสรีโทรคมทิ้งสัญญาเก่าขอไลเซนส์ใหม่กทช.


ผู้จัดการรายวัน(15 มิถุนายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

เอไอเอสต้องการเห็นการแข่งขันเสรีที่สมบูรณ์แบบ โดยมีผู้กำกับดูแลเพียงหนึ่งเดียวแต่หลายโอเปอเรเตอร์ เชื่อการทิ้งไลเซนส์เก่าขอใหม่เป็นอีกแนวทางที่เป็นไปได้ พร้อมย้ำไม่มีการบล็อกสัญญาณมือถือ แต่เร่งขยายเครือข่ายรองรับการใช้งานที่สูงจากการโหมโปรโมชันของแต่ละค่าย และเดินหน้าพัฒนาบริการ ล่าสุดจับมือการไฟฟ้านครหลวง บริการจ่ายค่าไฟผ่านมือถือ

นายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส กล่าวถึงแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมว่า เป็นแนวทางของประเทศที่กำลังพัฒนา ซึ่งไทยเองก็เพิ่งมีคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ที่พยายามสร้างแนวทางให้เป็นไปตามหลักสากล แต่กทช.เป็นองค์กรที่ใหม่ จึงมีงานที่ต้องเร่งดำเนินการในหลายเรื่อง แต่สำหรับแผนแม่บทแล้วถือเป็นเรื่องดีที่มีการทำประชาพิจารณ์ เพื่อรับฟังความเห็นจากฝ่ายต่างๆ ก่อนจะมีการแก้ไขปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น

ส่วนกรณีของการออกใบอนุญาต หรือไลเซนส์ประกอบกิจการโทรคมนาคมใหม่ โดยเฉพาะการออกให้แก่องค์กรรัฐอย่างบริษัท ทีโอที และบริษัท กสท โทรคมนาคม เป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว แต่ก็ต้องทำในรูปแบบที่มีความเหมาะสม เพื่อนำไปสู่การแข่งขันเสรีที่สมบูรณ์แบบ

การแข่งเสรีที่สมบูรณ์แบบในมุมมองของสมประสงค์เห็นว่า บริการกิจการโทรคมนาคมของไทยต้องมีผู้กำกับดูแลเพียงรายเดียวคือ กทช. และมีผู้ให้บริการหรือโอเปอเรเตอร์หลายๆ รายที่มีกฎกติกาบนพื้นฐานเดียวกัน

แนวทางที่จะนำไปสู่การแข่งเสรีที่สมบูรณ์แบบในสายตาของสมประสงค์อีกทางคือ การขอไลเซนส์ใหม่ ซึ่งผู้บริหารเอไอเอสเชื่อว่าผู้ให้บริการทั้งรายเก่ารายใหม่ต้องขอแน่ เมื่อกทช.เปิดโอกาสให้ จากนั้นต้องมีการลงทุนสร้างเครือข่าย ทำการตลาด และเรื่องอื่นตามวัฏจักรของการให้บริการ เพื่อถ้าไม่ดำเนินการก็ต้องถูกยึดไลเซนส์คืน

สำหรับผู้ประกอบการเดิมที่มีเงื่อนไขสัญญาผูกมัดจากสัมปทานเดิมที่ยังไม่สามารถแปรสัญญาร่วมการงานได้ในขณะนี้ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะขอไลเซนส์ใหม่แล้วเช่าโครงข่ายเดิมไปจนหมดอายุสัญญา ซึ่งก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะนำไปสู่การแข่งขันเสรีที่สมบูรณ์แบบได้ สำหรับเอไอเอสขณะนี้เหลือสัญญาที่ทำไว้กับทีโอที 10 ปี

ไม่ได้บล็อกสัญญาณ

นายสมประสงค์กล่าวถึงกรณีที่การใช้งานโทรศัพท์โทร.ติดยากในระยะ 3-4 เดือนที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้มีการดำเนินการขยายวงจรเพิ่มเพื่อรองรับการใช้งานไปแล้ว และยืนยันว่าไม่ได้มีการบล็อกสัญญาณอย่างที่ถูกกล่าวหา แต่ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ซึ่งมีการใช้งบประมาณหลายร้อยล้านบาท จากงบสำหรับการขยายเครือข่ายที่ตั้งไว้ในปีนี้ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ

"เราไม่ได้บล็อกสัญญาณใคร สาเหตุเกิดจากการออกโปรโมชันของผู้ให้บริการจนทำให้เกิดการใช้งานแบบเฉียบพลัน และใช้ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งเรื่องนี้ผมได้สั่งการไปให้มีการเร่งขยายวงจรเชื่อมต่อไปแล้ว เพราะธุรกิจบริการตรงนี้มีรายได้ มาจากการโทร." นายสมประสงค์กล่าวและว่า

เรื่องดังกล่าวเอไอเอสยืนยันว่าจะไม่มีการตัดสัญญาณที่เชื่อมต่อตรงกับผู้ให้บริการรายอื่นอย่างแน่นอน แม้จะมีทีโอทีเป็นโครงข่ายกลางในการเชื่อมต่อวงจรหรือเคลียริ่งเฮาส์ก็ตาม เพราะการที่ดำเนินการขยายเครือข่ายขณะนี้เป็นการขยายท่อให้ใหญ่ขึ้น เนื่องจากเอไอเอสมีนโยบายว่าต้องทำให้ผู้บริโภคโทร.หากันได้ และการทำงานของเอไอเอสต้องใช้เวลา เพราะเป็นโครงข่ายที่ใหญ่ ซึ่งมีสถานีฐานถึง 1 หมื่นสถานี ที่ต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์และทดสอบความพร้อมก่อนเปิดให้บริการ

ครึ่งปีหลังอัตราการใช้มือถือเพิ่มขึ้น

สำหรับแนวโน้มของผู้ใช้บริการมือถือในช่วงครึ่งปีหลัง นายสมประสงค์มองว่า ปริมาณการใช้งานจากปัจจุบัน 100 คน มีการใช้มือถือประมาณ 41-42 คน หรือ 41% เป็น 48% (บวกหรือลบ) เพราะมีอุตสาหกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้น ทำให้มีชุมชนใหม่ตามมา และจำเป็นต้องมีการสื่อสารเพิ่มมากขึ้นด้วย

ปรับโครงสร้างตามสถานการณ์

ส่วนการสรรหาบุคลากรมาแทนผู้บริหารด้านการตลาดที่ลาออกไป 2 คนนั้น นายสมประสงค์ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มี และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรก็ต้องปรับตามสถานการณ์ อย่างปัจจุบันสภาวะแวดล้อมเปลี่ยนไป พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนไป โครงสร้างขององค์กรก็ต้องมีการปรับให้เข้ากับสภาพของการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเห็นได้จากการยุบบางหน่วยงานรวมกัน โดยเน้นเรื่องของการบริการลูกค้าเป็นสำคัญ จากเดิมที่กำหนดตามฟังก์ชัน เช่น หน่วยงานที่เกี่ยวกับเครือข่าย เกี่ยวกับการเงิน เกี่ยวกับการตลาด

"องค์กรมีการปรับเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ บางตำแหน่งวันนี้ในอนาคตอาจไม่มี หรือบางตำแหน่งขณะนี้มี ก่อนหน้านี้ไม่มี"

บริการจ่ายค่าไฟผ่านมือถือ

พร้อมกันนี้ เอไอเอสได้มีการพัฒนาบริการออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดร่วมกับการไฟฟ้านครหลวงเปิดให้บริการชำระค่าไฟผ่านมือถือกับเอ็มเพย์ เพื่อเพิ่มทางเลือกใหม่ในการชำระค่าไฟแบบทุกที่ ทุกเวลา

สำหรับความร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง จะเปิดบริการชำระค่าไฟฟ้าในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ, นนทบุรี และสมุทรปราการ ได้อย่างสะดวก โดย 1. ลูกค้าเอไอเอสสามารถใช้เอ็มเพย์ชำระค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวงได้อย่างไม่จำกัดจำนวนของใบแจ้งค่าใช้บริการ 2. จะมีการส่ง SMS เตือนก่อนถึงกำหนดชำระ ทำให้หมดความกังวลว่าจะชำระค่าไฟฟ้าเกินกำหนด 3. ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังจุดรับชำระแต่อย่างใด เพราะการชำระผ่านมือถือด้วยเอ็มเพย์นั้นจะทำให้สามารถชำระได้ทุกที่ ทุกเวลาที่ต้องการ 4. ไม่ต้องกังวลกับการต้องคอยนำเงินเข้าบัญชีเพื่อเตรียมหักบัญชีธนาคาร เพราะเอ็มเพย์สามารถให้เลือกจ่ายได้ทั้งจากเอ็มแคช และบัญชีธนาคาร

ปัจจุบันการไฟฟ้านครหลวงมีลูกค้าประมาณ 2.4 ล้านราย ในจำนวนนี้เป็นลูกค้าที่มาชำระค่าไฟฟ้า ณ ที่ทำการการไฟฟ้านครหลวงเขตและสาขาย่อยประมาณ 1 ล้านราย ชำระผ่านบัญชีเงินฝากธนาคาร 4.7 แสนราย ที่เหลือเป็นการชำระเงินผ่านตัวแทนในรูปแบบต่างๆ

ส่วนวิธีสมัครใช้บริการชำระค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวงผ่านเอ็มเพย์ มีขั้นตอนดังนี้ 1. กด *555 โทร.ออกแล้วทำรายการตามคำแนะนำ 2. กด 1 เพื่อเลือก "ทำรายการเกี่ยวกับการชำระค่าสินค้าและบริการ" 3. กด 3 เพื่อเลือก "ชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ" 4. ใส่รหัสส่วนตัว 4 หลัก 5. กด 1 เพื่อเลือก "สมัคร ใช้บริการ" 6. กดเลือก "การไฟฟ้านครหลวง" 7. กดเลขที่รหัสเครื่องวัด 9 หลักตามใบแจ้งค่าใช้บริการ 8. กดหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้บริการคู่กับเลขที่สัญญา 9. กด 1 เพื่อยืนยันการทำรายการ 10. ระบบจะส่ง SMS ตอบกลับเพื่อยืนยันการทำรายการ

เอ็มเพย์ หรือบริการชำระค่าสินค้าและบริการผ่านทางมือถือของเอไอเอสนั้น ถูกพัฒนาจากแนวคิดที่ว่าเครือข่ายไร้สายสามารถที่จะเชื่อมต่อการใช้ชีวิตของคนในสังคมได้ อย่างไร้ข้อจำกัดทุกด้าน รวมถึงบริการด้านการเงิน เอไอเอสจึงพัฒนาบริการชำระค่าสินค้าและบริการผ่านมือถือภายใต้ชื่อ "เอ็มเพย์" และเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2547 เพื่อสร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตให้แก่ลูกค้า

ตลอดระยะเวลากว่า 6 เดือน นับตั้งแต่เปิดให้บริการ ปัจจัยสำคัญที่สุดของบริการนี้คือ ความหลากหลายของร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร ซึ่งในปัจจุบันมีพันธมิตรกว่า 1,500 ราย แบ่งเป็นสินค้าและบริการหลากหลายประเภท อาทิ บริการด้านสาธารณูปโภค, การชำระค่าบริการโทรศัพท์มือถือและเติมเงินพรีเพด, ชำระค่าอาหาร หรือ ชำระบริการออนไลน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต และผู้ลงทะเบียนใช้บริการแล้วประมาณ 5 หมื่นราย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.