พบบ.อเมริกันแต่งบัญชีอีก ดอลลาร์-หุ้นตก


ผู้จัดการรายวัน(9 กรกฎาคม 2545)



กลับสู่หน้าหลัก

กรณีบริษัทใหญ่อเมริกันใช้ลูกเล่นแต่งบัญชีโผล่ขึ้นมาอีก 2 ราย ได้แก่ ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตยา เมอร์ค แอนด์ โค กับบริษัทซื้อขายพลังงาน รีไล แอนต์ รีซอร์เซส

กลายเป็นแรงเหวี่ยงทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนยวบเมื่อวานนี้ (8) และดึงเอาหุ้นเอเชียกับหุ้นยุโรปดำดิ่งตาม ขณะ ที่ประธานธนาคารเพื่อการชำระบัญชีระหว่างประเทศ (บีไอเอส)

ออกมาเตือนว่าการที่บริษัทต่างๆ ให้ข้อมูลทางการเงินซึ่งมีคุณภาพต่ำเป็นหนึ่งในบรรดาปัจจัยเสี่ยงใหญ่ๆ ที่อาจบ่อนทำลายการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

เมอร์คกลายเป็นบริษัทอเมริกันชั้นนำรายล่าสุดถัดจากเอนรอน , เวิลด์คอม , และซีร็อกซ์ ซึ่งต้องออกมายอมรับว่างบดุลบัญชีของตัวเองมีความผิดพลาด บริษัทยายักษ์ใหญ่แห่งนี้ แถลงยอมรับข่าว

ของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลฉบับวันจันทร์ (8) ที่ว่าตนได้ยื่นหนังสือแจ้งคณะกรรม การกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (เอสอีซี) ว่าได้บันทึกว่ามีรายได้ 12,560 ล้านดอล

ลาร์จากกิจการด้านผลประโยชน์ทางเวชภัณฑ์ของ ตนในระหว่างช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งที่ข้อเท็จจริงแล้วกิจการในเครือแห่งนั้นไม่เคยเก็บเงินอะไรได้เลย ข่าวนี้เมื่อผสมโรงเข้ากับอีกข่าวหนึ่งซึ่งแพร่

ออกมาในคืนวันศุกร์(5) ที่ว่า รีไลแอนต์ รีซอร์เซส บริษัทใหญ่ด้านซื้อขายพลังงานและผลิตไฟฟ้า กำลังปรับตัวเลขงบดุลบัญชีในรอบระยะ 3 ปีของ ตนใหม่ ซึ่งจะตัดลดรายได้ของบริษัทลงมา 7,900

ล้านดอลลาร์ ก็ทำให้ตลาดการเงินโลกช็อกกันทั่วถ้วนอีกรอบหนึ่ง และยิ่งเพิ่มความหวาดผวา เกี่ยวกับฐานะทางการเงินอันแท้จริงของพวกบริษัทในอเมริกา ดอลลาร์อ่อนยวบ เงินดอลลาร์นั้น

ได้ดีดตัวกระเตื้องขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ภายหลังตกลงมาแรงๆ จนแทบจะเหลือมูลค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์แลกได้เพียง 1 ยูโร แต่เมื่อเจอกับข่าวบริษัทใหญ่อเมริกันแต่งบัญชีทับทวีเข้ามาอีก

เงินตราสหรัฐฯก็ยุบตัว ในช่วงเที่ยงที่ตลาดลอนดอนเมื่อเทียบกับ เงินยูโร ดอลลาร์อยู่แถวๆ 1 ยูโรแลกได้ 0.9835 ดอลลาร์ลดค่าลงมาราว 1% จากในวันศุกร์ และ

ทำท่าหวนกลับไปสู่ระดับอ่อนสุดในรอบสองปีที่ 0.9990 ดอลลาร์ ซึ่งทำไว้เมื่อเดือนที่ผ่านมา ส่วนเมื่อเทียบกับเงินเยนตอนเที่ยงในลอน ดอน 1 ดอลลาร์แลกได้ 118.80 เยน

เหลืออีกไม่ถึงครึ่งเยนก็จะถึงระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน บรรดาดีลเลอร์บอกว่า ความเคลื่อนไหวใน ตลาดเงินตราเช่นนี้ เป็นผลเนื่องมาจากความอ่อน แอของดอลลาร์

มากกว่าเป็นเพราะตลาดเห็นว่าเงินตราสกุลอื่นๆ แข็งค่าขึ้น "ภาวะตลาดหมีของเงินดอลลาร์ กำลังเป็น ตัวซัปพอร์ตเงินตราสกุลสำคัญๆ อื่นๆ ทุกสกุล

จุดที่ให้ความสนใจกันมากที่สุดคือเรื่องที่มีการปรับแก้รายงานผลกำไรของบริษัทสหรัฐฯกันใหม่" มอนิกา แฟน นักยุทธศาสตร์อาวุโสแห่งค่ายแบงก์ อเมริกาให้ความเห็น

เงินดอลลาร์ยังอ่อนยวบเนื่องจากคำพูดของ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น มาซาจูโร ชิโอกาวะ ซึ่งพูดใน ช่วงที่เขาไปประชุมกลุ่มความร่วมมือเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า

บรรดาผู้รับผิดชอบทางการเงินของโลกเชื่อว่า เงินดอลลาร์สามารถหล่นลงมาจนอยู่ราว 115 เยน อันเป็นระดับที่เกิดขึ้นภายหลังเหตุการณ์วินาศกรรมสหรัฐฯ 11 กันยายน

พวกดีลเลอร์ต่างงงงวยกันมากต่อคำพูดของขุนคลังซามูไร เพราะดูจะกลับตาลปัตรกับการที่ญี่ปุ่นได้ใช้ความพยายามในช่วงเร็วๆ นี้ เพื่อ ดึงรั้งไม่ให้เงินเยนมีค่าแข็งขึ้น

เนื่องจากจะไปกระทบกระเทือนภาคส่งออกของประเทศ เวลาต่อมา ชิโอกาวะได้ออกมาพูดอธิบายว่า "ผมขอยืนยันว่า ถึงแม้ (เงินดอลลาร์) กำลังเดิน ไปสู่ทิศทางดังกล่าว

แตก็จำเป็นจะต้องใช้เวลาอีกจำนวนหนึ่งทีเดียว และไม่ควรที่เงินดอลลาร์จะไปถึงระดับนั้นอย่างฉุกระหุก" หุ้นร่วงกราว การที่เงินดอลลาร์อ่อนตัวลงมา บวกกับข่าว บริษัทเมอร์คกับบริษัทรีไลแอนต์

รีซอร์เซส ยังส่ง ผลกระทบถึงตลาดหุ้น โดยในแถบเอเชียนั้น ตลาดใหญ่ๆ เปิดวานนี้ยังอยู่ในแดนบวก เนื่อง จากในวันศุกร์ (5) วอลล์สตรีทสามารถทะยานพุ่งลิ่ว ดัชนีหุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวกถึง

3.58% หรือ 324.53 จุด ทว่าเมื่อเห็นภาวะปั่นป่วนของอัตราแลกเปลี่ยน ราคาหุ้นโดยเฉพาะของพวกบริษัทส่งออกก็ไหลรูดลงมา ดัชนีหุ้นนิกเกอิของตลาดโตเกียวปิดต่ำลง 56.89 จุด หรือ 0.5% อยู่ที่

10,769.20 หลังจากที่ช่วงเช้าไต่ขึ้นไปอยู่เหนือระดับ 11,000 สำหรับ ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงติดลบเล็กน้อย 2.71 จุด หรือ 0.03% ส่วนดัชนีหุ้นสเตรทส์ไทมส์ของสิงคโปร์ หล่น 1.2% หรือ 20.25 จุด

ครั้นเมื่อตลาดยุโรปเปิดทำการ ราคาหุ้นก็หล่นวูบทันที ตอนเที่ยงที่ลอนดอน ดัชนีฟุตซี่ ยูโร ท็อป 300 อันเป็นดัชนีของบริษัทใหญ่ๆ ทั่วยุโรป ถลาลงมากว่า 1% จากที่ไต่ขึ้นไปได้เกือบ 4% ใน วันศุกร์

บีไอเอสเตือน ภาวะวุ่นๆ ของตลาดการเงินสืบเนื่องจากความไม่โปร่งใสของภาคบริษัทอเมริกันระลอกล่า สุด มีขึ้นในจังหวะที่บีไอเอส ซึ่งเป็นเสมือนกับธนาคารกลางของบรรดาธนาคารกลางทั่วโลก

จัดการประชุมประจำปีขึ้น และนูต เวลลิงก์ ประธานบีไอเอสตลอดจนเป็นประธานคณะกรรม การอำนวยการบีไอเอส ก็ได้เสนอกล่าวเตือนถึงอันตรายจากเรื่องนี้ ในคำปราศรัยต่อที่ประชุมประจำปีบีไอเอส

เวลลิงก์ได้วิพากษ์ "ความเสี่ยงพิเศษ" อันเกิดขึ้น จากการประดิษฐ์คิดสร้างสิ่งใหม่ๆ ในอุตสาห-กรรมการเงิน เขายังเสนอว่าอาจจำเป็นต้องมี "การกระทำอย่างแข็งขัน"

เพื่อแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในภาคบรรษัท แต่เขาก็มิได้ให้ รายละเอียดเจาะจงว่าการกระทำดังกล่าวคืออะไรบ้าง เวลลิงก์ซึ่งเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางเน-

เธอร์แลนด์ด้วยกล่าวว่าความเสี่ยงพิเศษเช่นนี้ "อาจส่งผลทำให้ผลประกอบการทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับน่าพึงพอใจน้อยลงกว่าที่ดูจะปรากฏอยู่ในปัจจุบัน" เขาบอกว่า คุณภาพของข้อมูลข่าวสารที่

จะเป็นตัวชี้นำตลาดทุนนั้น บ่อยครั้งทีเดียวที่ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ให้ทำอะไรกันตามใจ ขณะที่การล้มละลายของเอนรอน และความหายนะของ เวิลด์คอม

สาธิตให้เห็นว่าข้อมูลข่าวสารที่ไม่สมบูรณ์และทำให้เข้าใจผิด สามารถทำลายธรรมาภิบาลภาคบริษัทได้ขนาดไหน เวลลิงก์เรียกร้องให้ที่ประชุมเน้นความสนใจไปที่เรื่องความเสี่ยงซึ่งเพิ่มมากขึ้น สืบเนื่อง

จากแนวโน้มการประดิษฐ์คิดสร้างสิ่งใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมการเงินในช่วงหลังๆ มานี้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.