ยื่นอุทธรณ์คดี "เริงชัย" สอบเพิ่ม 4 พันล. FBCB


ผู้จัดการรายวัน(14 มิถุนายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

ทนาย "เริงชัย" เตรียมยื่นขยายเวลาอุทธรณ์พร้อมขอทุเลาบังคับคดีชดใช้ความผิดปกป้องค่าเงินบาท 1.86 แสนล้านบาท เพื่อรอคัดคำพิพากษา เชื่อ ธปท.จะชะลอการบังคับคดีเพื่อรอให้คดีถึงที่สุด ขณะที่ บช.ก. ระบุต้องสอบสวนเพิ่มเติม 10 ประเด็นก่อนดำเนินคดีอดีตผู้บริหารธนาคารมหานคร (FBCB) พร้อมสั่งเร่งสรุปสำนวนคดีเศรษฐกิจที่คั่งค้างอีกกว่า 1 พันคดี

วานนี้ (13 มิ.ย.) นายนพดล หลาวทอง ทนายความนายเริงชัย มะระกานนท์ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณายื่นอุทธรณ์คดีที่ศาลแพ่งมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 48 ให้นายเริงชัยชดใช้เงิน 1.86 แสนล้านบาท ฐานประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงกรณีปกป้องค่าเงินบาทเมื่อปี 2540 ว่า ขณะนี้ศาลแพ่งยังคัดถ่ายสำเนาคำพิพากษาฉบับสมบูรณ์ไม่แล้วเสร็จ ซึ่งประมาณปลายสัปดาห์นี้จะได้ติดตามขอคัดสำเนาคำพิพากษาจากศาลอีกครั้ง เพื่อนำมาประกอบการพิจารณายกร่างอุทธรณ์ค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น และคาดว่าคงจะยื่นอุทธรณ์ไม่ทันตามกำหนด ซึ่งจะยื่นขอขยายเวลาอุทธรณ์ออกไปก่อน

ส่วนการขอทุเลาการบังคับคดีจากธปท. ตามกฎหมายต้องมีการยื่นอุทธรณ์ก่อน โดยจะยื่นขอทุเลาการบังคับคดีพร้อมๆ กับยื่นอุทธรณ์ต่อศาล ส่วนหลักทรัพย์ที่จะต้องยื่นเพื่อเป็นค่าธรรมเนียมต่อศาลในการขอทุเลาการบังคับคดีนั้น นายนพดลกล่าวว่า ยังไม่ได้เตรียมการใดๆ เพราะคดีนี้เป็นการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าที่ ไม่เหมือนคดีละเมิดทั่วไป ซึ่งศาลจะเป็นผู้วินิจฉัยว่าการทุเลาบังคับคดีจะต้องใช้หลักทรัพย์วางประกันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หาก ธปท.จะขอบังคับคดีนายเริงชัยใน ขณะนี้ก็ได้ แต่ตามความเป็นจริงแล้วเชื่อว่าทางธปท.คงจะต้องรอให้คดีนี้ถึงที่สุดก่อน เพราะหาก ธปท.จะมาบังคับคดีจริง แต่หากศาลสูงมีคำพิพากษาแก้ หรือคำพิพากษายกฟ้องนายเริงชัย ก็จะเกิดความยุ่งยากในภายหลังได้

ทนายความของนายเริงชัยยังกล่าวต่อด้วยว่า หากท้ายที่สุดแล้วศาลฎีกามีคำพิพากษาบังคับให้นายเริงชัยชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 1.86 แสนล้านบาท ทางนายเริงชัยก็ยังสามารถยื่นเรื่องต่อ ธปท. ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฏิบัติเกี่ยวกับการรับผิดทางละเมิด พ.ศ. 2539 ขอผ่อนผันการชำระหนี้ตามความเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจตามความเป็นจริงได้ เช่นจำนวนทรัพย์สินที่นายเริงชัยมีอยู่จริง กับสภาวการณ์ค่าครองชีพ รายรับ-รายจ่าย และอื่นๆ

ด้าน พล.ต.ท.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีอดีตผู้บริหารธนาคารมหานคร ที่ถูก ธปท. ร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาอนุมัติสินเชื่อไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ ธปท.ทำให้เกิดความเสียหายกว่า 4 พันล้านบาทว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสำนวนคดีได้ เนื่องจากยังขาดหลักฐานในเรื่องที่มาของทรัพย์สิน และยังมีประเด็นที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีกกว่า 10 ประเด็น ซึ่งจะสั่งเพิ่มพนักงานสอบสวนในคดีนี้เพื่อเร่งสรุปสำนวนคดีให้ทันก่อนหมดอายุความในสิ้นปีนี้

ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางยังได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนให้เร่งสอบสวนคดีค้างเก่าที่คั่งค้างอยู่จำนวนมากให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้ โดยเฉพาะคดีในส่วนของกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจที่มีคดีคั่งค้างกว่า 1 พันคดี เพื่อเตรียมรับการปรับโครงสร้างกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางใหม่


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.