"เดมเลอร์ไครสเลอร์"เผย3ยุทธศาสตร์หลักธุรกิจ เพิ่มบทบาทผู้บริหารไทยให้ความสำคัญบุคลากร


ผู้จัดการรายวัน(4 กรกฎาคม 2545)



กลับสู่หน้าหลัก

การก้าวเป็นผู้นำของเดมเลอร์ไครสเลอร์ในตลาดเมืองไทยเป็นบทพิสูจน์ความสามารถผู้บริหารได้เป็นอย่างดี "มร.คาร์ล-ไฮนซ์ เฮคเฮาเซ่น" นายใหญ่เผย 3 ยุทธศาสตร์หลักที่ใช้ในการบริหารกิจการ

เน้นสร้างผู้บริหาร คนไทยลดสัดส่วนผู้บริหารต่างชาติ การที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ครอง ตลาดรถหรูมายาวนานจนถึงปัจจุบันๆ

นอกจากความเป็นเจ้าแห่งนวัตกรรมยานยนต์ที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งจนทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นสุดยอดรถในฝันของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยรถเบนซ์เปรียบเสมือน

รถประจำตระกูลที่เป็นมรดกสืบ ทอดหลายรุ่นหลายสมัย เมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นรถหรูหราที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุดในทุกๆ รุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่น S-Class , E-Class, ไปจนถึง C-Class

โดยมร.คาร์ล-ไฮนซ์ เฮคเฮาเซ่น ประธานกรรม การบริหาร เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ตั้งเป้าสำหรับยอดขายรถเบนซ์ในปีนี้ไว้ที่ 4,500 คัน คือ 800,1,700, และ 2,000 คัน ตามลำดับ

ขณะที่ปีที่แล้วมียอดขาย 3,700 คัน หรือเพิ่มขึ้น 20% ปัจจัยที่ทำให้ท่านประธานฯแห่งค่ายดาวสามแฉกมั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจาก การที่ทางบริษัทฯเพิ่งจะเปิดตัว the new E-Class

W211 โดยมั่นใจว่า นับจากนี้ต่อไป W211 จะเป็นดาวเด่นที่โกยยอดขายให้กับเดมเลอร์ไครสเลอร์ตั้งแต่นี้ไปจนถึงอีกครึ่งทศวรรษเลยทีเดียว ซึ่งการเปิดตัวในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตัว E-Class

พวงมาลัยขวาครั้งแรกของไทย หลังจากที่บริษัทฯ เพิ่งจะเปิดตัวพี่ใหญ่ในกลุ่ม S-Class และ CLK-Class พวงมาลัยขวาครั้งแรกของโลกอย่างเป็น ทางการ มร.เฮคเฮาเซ่น กล่าวว่า หาก

จะทำถามว่าจะทำไมจึงเลือกเป็นประเทศไทย ในการเปิดตัวรถถึง 3 รุ่นในประเทศไทยเป็นเพราะตลาดรถยนต์ในเมืองไทยโตวันโตคืนสวน กระแสแม้ในยามวิกฤติเศรษฐกิจ ดังจะดูได้จากตัวเลข ซึ่ง 5

เดือนแรกของปีนี้ เดมเลอร์ฯกวาดยอดขายไปแล้ว 1,500 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรุ่น S-Class มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดถึง 90 % E-Class 45% และ

C-Class 27% ประธานกรรมการบริหารเผย

ถึงจุดแข็งที่ทำให้บริษัทฯประสบความสำเร็จกับยอดขายรถที่เพิ่มขึ้นว่า มาจากการใช้นโยบายที่ให้ความสำคัญในเรื่องความสัมพันธ ์และการเป็นมิตรที่ดีต่อผู้จำหน่าย หรือดีลเลอร์ โดยการออกเยี่ยมดีล

เลอร์ด้วยตัวเองทุกวันพฤหัสบดีเพื่อรับฟังรายงานยอดขาย ข้อร้องเรียนจากลูกค้า ตลอดจนร่วมกันแก้ ปัญหาทุกเรื่อง นับเป็นนโยบายที่แตกต่างจากการบริหารงานของชาติ ตะวันตกอื่นๆ

"เราใช้กลยุทธ์การสัมผัสกับปัญหาอย่างละเอียด และแก้ปัญหา นั้นร่วมกับดีลเลอร์ในลักษณะโน้มน้าว เสนอแนะมากกว่าการสั่งการ เพื่อที่จะได้เข้าใจและรู้จริงในการแก้ ปัญหานั้นๆ

ซึ่งดีลเลอร์ก็พอใจและมีความรู้สึกว่าเค้าเป็นพาร์ท เนอร์ไม่ใช่เป็นเพียงผู้จำหน่ายรถ เป็นไปตามนโยบายที่ว่า ดีลเลอร์ คือ ลูกค้าที่สำคัญที่สุด" นอกจากภารกิจที่ มร.คาร์ล-ไฮนซ์ เฮคเฮาเซ่น

จะต้องดูแลรถเมอร์เซเดสให้รักษาตำแหน่งอยู่ได้แล้วยังต้องรักษาระดับยอดขายของ จี๊ป เชโรกี อีกด้วย โดยในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายที่ 400 คัน เท่า กับปีที่แล้ว เท่ากับเป็นการต้องบริหารรถ 2 สัญชาติ

คือ เยอรมัน และสหรัฐฯให้ไปได้ดีในตลาดไปพร้อมกัน ซึ่งด้วยประสบการณ์ทำให้ มร.เฮคเฮาเซ่น พบว่าการบริหารคนเป็นเรื่องสำคัญ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ กับกลุ่มเป้าหมายด้วยว่าเป็นชาติใด

บริษัทฯจึงให้ความสำคัญกับการมีผู้บริหารที่เป็นคนไทยมากขึ้น โดยลดสัดส่วนผู้บริหารที่เป็นต่างชาติลง จากเดิม 15 คน ในปีที่แล้ว เหลือ 8 คน ในปีนี้

และแต่งตั้งคนไทยที่มีความสามารถขึ้นบริหารงานแทน ด้วยความเชื่อที่ว่า ผู้บริหารคนไทย จะรู้ใจคนไทยได้ดีที่สุด ปัจจัยต่อมาที่จะทำให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จ คือ

การให้ความสำคัญในเรื่องการอบรม และพัฒนาบุคลากร โดยจะมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปอบรมเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานอย่างต่อเนื่อง และขณะเดียวกันตัว

ท่านประธานฯและดีลเลอร์ก็เข้าอบรมคอร์สต่างๆ อยู่เป็นประจำ เพื่อให้ทันต่อกระแสนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เข้ามาบทบาทในการพัฒนา รถแต่ละรุ่น โดยเฉพาะเรื่อง อิเล็ก-ทรอนิกส์ที่มีความสลับซับซ้อน

ปัจจัยสุดท้ายที่ประธานกรรม การบริหารถือว่าเป็นหัวใจหลักที่ลูกค้าต้องการมากที่สุดคือ บริการหลังการขาย เพราะหลังจากที่ลูกค้า เป็นเจ้าของรถแล้ว

แน่นอนว่าบริการหลังการขายเป็นสิ่งสำคัญที่ลูกค้าต้องการ เดมเลอร์ไครส เลอร์ฯจึงพัฒนาเรื่องบริการหลังการขายมาโดยตลอด ซึ่งนอกจากจะมีศูนย์บริการกลางที่มีวิศวกร ช่างยนต์ที่เชี่ยวชาญแล้ว

คลังอะไหล่ที่มีสต็อกอะไหล่ที่พอเพียงก็เป็นเรื่องที่ละเลยมิได้ โดยที่ผ่านมานั้น ศูนย์บริการกลางได้รับรางวัล JD Power "ในอนาคตเราต้องการเห็นการจ้างงานคนไทยมากขึ้น

เพราะการที่ตลาดรถมีการเติบโตเป็นเครื่องบ่งบอกได้ว่าเศรษฐกิจเริ่ม ดีมีการบริโภคก็จะส่งให้คนไทย มีงานทำมากขึ้น" มร.เฮคเฮาเซ่น กล่าวถึงความฝันในอนาคตที่อยากเห็น



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.