|
เบ็นคิวเดินทางลัดเจาะตลาดโลกรับ 3 จี หลังซื้อกลุ่มธุรกิจโมบายโฟนซีเมนส์
ผู้จัดการรายวัน(9 มิถุนายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
"เบ็นคิว" ต้องการเดินทางลัดในการรุกตลาดระดับโลก และรองรับบริการยุค 3 จี ที่กำลังมา ด้วยการซื้อกิจการซีเมนส์ในกลุ่มธุรกิจมือถือ เผยชื่ออาจเป็น "เบ็นคิว-ซีเมนส์" เชื่อจะสามารถดันแชร์จากอันดับ 7 ของโลก ขึ้นไปอยู่อันดับ 4 และตลาดประเทศไทยจะขึ้นอยู่ระดับ 1 ใน 5 ล่าสุดส่งเครื่องลูกข่ายรุ่นใหม่ M315 ลงตลาดจับกลุ่มลูกค้าทั่วไป ตั้งเป้ายอดขายเดือนละหมื่นเครื่อง ส่วนยอดขายรวมสิ้นปีนี้ตั้งไว้ที่ 2 แสนเครื่อง
นายคริส เหลียง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) กล่าวถึงกรณีเบ็นคิวเข้าซื้อกิจการในกลุ่มธุรกิจมือถือของซีเมนส์ว่า จากการรวมกิจการครั้งนี้เชื่อว่าจะทำให้ส่วนแบ่งตลาดของเบ็นคิวที่อยู่อันดับ 7 ขึ้น เป็นอันดับ 4 ในตลาดระดับโลกได้ สำหรับตลาดประเทศไทยคาดว่าจะติด 1 ใน 5 จากเดิมที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอับดับ 4 ส่วนการดำเนินงานขณะนี้ทุกอย่างยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงต้องรอนโยบายบริษัทแม่ก่อน
นายศิริชัย ปัญจบุญ ผู้อำนวยการขายส่วนของมือถือเบ็นคิว (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า ช่วงระยะเวลา 6 เดือนนี้ คาดว่าจะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก ส่วนการทำตลาดนั้นอาจจะเป็นเบ็นคิว-ซีเมนส์ เหมือนโซนี่อีริคสันก็ได้
เหตุผลสำคัญที่เบ็นคิวซื้อกิจการของซีเมนส์ครั้งนี้ เพราะต้องการโนว์ฮาว และเทคโนโลยีในส่วนที่เบ็นคิวไม่มี เช่น เทคโนโลยีสำหรับการทดสอบระบบมือถือยุคที่ 3 หรือ 3จี ซึ่งขณะนี้มีเพียงซีเมนส์ โนเกีย อีริคสัน และโมโตโรล่าเท่านั้น เนื่องจากบริการประเภทนี้เป็นแนวโน้มที่กำลังมา อีกอย่างคือเบ็นคิวต้องการขยายตลาดเข้าไปในยุโรปและตลาดระดับโลกไม่ใช่แค่เอเชีย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเริ่มมีกิจกรรมการตลาดไปบ้างแล้ว เช่น การเป็นสปอนเซอร์ให้แก่การแข่งขันฟุตบอลยูโรในช่วงที่ผ่านมา
"ถ้าถามว่าเบ็นคิวรวมกิจการกับซีเมนส์แบบไหน ตอบตรงๆ เลยว่าเบ็นคิวมีเงิน และต้องการโนว์ฮาว รวมถึงช่องทางการทำตลาดหรือดิสทริบิวชันเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่เบ็นคิวดำเนินการครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เป็นการทำให้หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง แต่หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสี่เป็นห้า"
วิสัยทัศน์ในการทำตลาดของเบ็นคิวขณะนี้ ยังคงเน้นเรื่องของคุณภาพ ความสนุกสนาน การเรียนรู้ การพักผ่อนสู่ผู้บริโภค สำหรับการทำตลาดในประเทศไทยของเบ็นคิวจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ 1. กลุ่มเอวี 2. กลุ่มไอที และ 3.กลุ่มมือถือ โดยการทำตลาดผ่านคู่ค้าเป็นหลัก
การทำตลาดของเบ็นคิวในตลาดประเทศไทยเน้นเรื่องของความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเรียกว่าดิจิตอล ฮับ ซึ่งมี 5 ผลิตภัณฑ์คือมือถือ, จอแอลซีดีทีวี, แอลซีดีมอนิเตอร์, โปรเจกเตอร์ และคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก
ล่าสุดเบ็นคิวได้นำเครื่องลูกข่าย รุ่น M315 ออกสู่ตลาดประเทศไทย พร้อมบลูทูธ หูฟังไร้สาย กล้องถ่ายรูป โดยชูแนวคิด "ราคาเจ๋งโดนใจ" เป็นจุดขาย มือถือรุ่นนี้ เบ็นคิวต้องการนำความสนุกสนานสู่ผู้บริโภคทุกชนชั้น ในราคา 6,900 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
"ที่ทำตลาดในราคานี้เพราะเรามีเทคโนโลยีเอง" นายศิริชัยกล่าว
ส่วนการทำตลาดสำหรับรุ่น M315 เบ็นคิวให้ไออีซีเป็นตัวแทนจำหน่ายหลัก จากคู่ค้าที่มีอยู่ประมาณ 6-7 ราย ซึ่งการทำตลาดของผลิตภัณฑ์มือถือของเบ็นคิวในแต่ละรุ่นจะพิจารณาถึงความเหมาะสมกับดิสทริบิวเตอร์เป็นหลัก
สำหรับรุ่น M315 ทั้งให้ไออีซีเป็นหัวหอกในการทำตลาด เบ็นคิวตั้งเป้ายอดขายไว้เดือนละ 1 หมื่นเครื่อง หรือประมาณ 5-6 หมื่นเครื่องภายในสิ้นปีนี้ ส่วนเครื่องลูกข่ายโดยรวมรอบปีนี้เบ็นมีแผนจะนำออกสู่ตลาดประมาณ 12-14 รุ่น โดยช่วงครึ่งปีแรกมีการนำออกสู่ตลาดแล้ว 4 รุ่น ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 2 แสนเครื่อง หรือโตขึ้น 100%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|