|
สหพัฒน์รุกหนักโมเดิร์นเทรดแยกชั้นวางสินค้าสุขภาพดึงญี่ปุ่นร่วมพัฒนา
ผู้จัดการรายวัน(7 มิถุนายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
"สหพัฒน์" สร้างช่องทางขาย เจาะโมเดิร์นเทรดใหม่ เล็งแยกชั้นวางสินค้ากลุ่มอาหาร-เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในเครือเฉพาะ ดอดเจรจาคาร์ฟูร์-ท็อปส์คาดผลสรุปเปิดปีนี้แน่ ดึงมือดีจากแดนปลาดิบ "บริษัทโอซูก้า ฟาร์มา ซูติคอล" ร่วมทุนสร้างแคทิกอรีเพื่อสุขภาพเต็มสูบ ปูพรมใช้งบ 25 ล้านบาท ส่งสแน็ก "บาลานซ์" ชิมลาง ก่อนคลอดสินค้าใหม่ปีละ 2 รายการ ปีแรกคาดยอดขาย 62 ล้านกล่อง
นายมงคล ณ สงขลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิจัยและพัฒนาสห โอซูก้า เอเชีย จำกัด บริษัทในเครือสหพัฒน์ ผู้ดำเนินธุรกิจขนมขบเคี้ยวเพิ่มสารอาหารภายใต้ตราบาลานซ์ เปิดเผยว่า สหพัฒน์ได้วางแผนที่จะสร้างแคทิกอรีในหมวดอาหารและเครื่องดื่มในแนวเพื่อสุขภาพในเชิงรุกมากขึ้น อีกทั้งยังได้เตรียมแยกชั้นวางสินค้ากลุ่มอาหารและกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดภายใต้ชั้นวางของเครือสหพัฒน์โดยเฉพาะ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับคาร์ฟูร์ และท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต คาดว่าจะสรุปผลการเจรจาและจะจัดตั้งชั้นวางได้ภายในปีนี้ นอกจากนี้ ยังได้วางแผนนำหมวดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพขยายสู่ตลาดต่างประเทศในอาเซียนและภูมิภาคเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย รวมทั้งสหรัฐอเมริกา
ล่าสุดเปิดตัวขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพรูปแบบใหม่ภายใต้แบรนด์ "บาลานซ์" ลงสู่ตลาด เพื่อเป็นการปูพรมเซกเมนต์ใหม่ วางกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและต้องการได้รับสารอาหารครบ ใช้งบการตลาด 25 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้เตรียมพัฒนาสินค้าในหมวดเพื่อสุขภาพออกสู่ตลาดปีละ 2 รายการ ซึ่งขณะนี้ได้พัฒนาเครื่องดื่มพร้อมดื่มในแนวเพื่อสุขภาพขนาด 120 ซีซี ราคา 25 บาท และสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพผิว สำหรับกล้ามเนื้อนักกีฬา และขนมขบเคี้ยวสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ไม่เหนียวและเลอะง่ายเจาะกลุ่มที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ โดยสินค้ากลุ่มนี้ภายใน 2 สัปดาห์ จะสรุปคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์บาลานซ์เกิดขึ้นจากการวิจัยและพัฒนาของบริษัทวิจัยและพัฒนาสห โอซูก้า เอเชีย ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มากว่า 1 ปี โดยใช้งบวิจัยและพัฒนาสินค้า 5 ล้านบาท โดยบริษัทวิจัยและพัฒนาสห โอซูก้า เอเชีย เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทในเครือสหพัฒน์ จะดูด้านการจำหน่ายกับบริษัท โอซูก้า ฟาร์มาซูติคอล จำกัด จากประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2546 ด้วยทุนจดทะเบียน 60 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนการถือหุ้นเป็นของโอซูก้า ฟาร์มาซูติคอล จำกัด 51% เครือสหพัฒน์ 48.998% แบ่งเป็นบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) 28.988% บริษัทสหพัฒน อินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) 10% และบริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) 10% และอื่นๆ 0.002%
สำหรับเป้าหมายของการร่วมทุนในครั้งนี้ของเครือสหพัฒน์ เพื่ออาศัยความเชี่ยวชาญบริษัทโอซูก้า ฟาร์มาซูติคอล จำกัด ซึ่งได้เริ่มพัฒนาสินค้าหมวดอุปโภคบริโภคเพื่อสุขภาพในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2526 กระทั่งปัจจุบันมีกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มในแนวสุขภาพมากมาย ประกอบด้วยกลุ่มนมสำหรับผู้สูงอายุ น้ำผักและผลไม้ใส่แบคทีเรีย ฯลฯ เพื่อพัฒนาและทำการตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพในไทย ซึ่งการร่วมมือนี้จะส่งผลให้สหพัฒน์สร้างแคทิกอรีใหม่ลงสู่ตลาด จากปัจจุบันสินค้าในเครือสหพัฒน์ในแนวสุขภาพมี 30 รายการ ประกอบด้วย มาม่า เส้นโฮลวีต คอนยักกี้ ฯลฯ ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้บริษัทฯจำเป็นต้องสร้างช่องทางขายสินค้าโดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพที่แยกออกมาเป็นของเครือเองในโมเดิร์นเทรด
แนวโน้มตลาดกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเริ่มเปลี่ยนแปลงไป โดยขณะนี้ถึงยุคที่ผู้บริโภคต้องการความสะดวกสบาย และต้องการผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างรวดเร็ว ไม่เพียงเท่านั้น คนในเอเชียรวมทั้งประเทศไทยยังเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพ และต้องการสารอาหารที่เหมาะสมตามโภชนาการรับประทานผลิตภัณฑ์ ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์นมแบรนด์ "แคลอรี่ เมต" ในประเทศญี่ปุ่น สามารถสร้างยอดขายให้แก่บริษัท โอซูก้า 10,000 ล้านบาท สำหรับยอดขายบาลานซ์ปีแรกนี้บริษัทตั้งเป้า 62 ล้านกล่อง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|