|
แม่สายต้านสุดฤทธิ์งัดมติสังคมกดดันหยุดโลตัสเปิดสาขา
ผู้จัดการรายวัน(7 มิถุนายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
เดินหน้าค้านโลตัสปักธงชายแดนแม่สาย หวั่นค้าปลีก-ค้าส่งที่มีกว่า 1,000 รายพัง หอฯ-ชมรมพ่อค้าฯ ผนึกกำลังสร้างเครือข่ายคัดค้านทุกช่องทาง เตรียมขอมติประชาคมเชียงรายต่ออายุผังเมืองคุมค้าปลีกใหญ่/ทวงเงื่อนไขแนบท้ายที่หล่นหายไร้ร่องรอย กลายเป็นช่องโหว่ทุกวันนี้ พร้อมงัดแนวทางต่อสู้ทางสังคมทุกช่อง ดาบแรกนัดปิดร้านทั่วแม่สาย 13 มิ.ย.นี้เพื่อขอพบนายกฯ
ความเคลื่อนไหวขององค์กรเครือข่ายคัดค้านเทสโก้โลตัส ไม่ให้เข้าไปเปิดสาขา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่เริ่มปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรมตั้งแต่ 18 พฤษภาคม 2548 เป็นต้นมา จนถึงขณะนี้ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีหอการค้าจังหวัดฯ - ชมรมพ่อค้าชายแดนแม่สาย เป็นแกนหลัก พร้อมด้วยองค์กรเครือข่ายนับสิบองค์กร ไม่ว่าจะเป็นมูลนิธิกวงเม้ง ชมรมจตุรภัณฑ์เชียงราย สโมสรไลอ้อนฯ - โรตารี่ ฯลฯ ล่าสุดได้ร่วมกันลงขันใช้เป็นทุนในการเคลื่อนไหวแล้ว 400,000 บาท ตั้งศูนย์ประสานงานขึ้นที่มูลนิธิกวงเม้งแม่สาย พร้อมกับนัดหมายประชุมร่วมกันทุกสัปดาห์
นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานหอการค้า จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า แนวทางการเคลื่อนไหว เบื้องต้นกำหนดไว้ 2 แนวทางคือ การต่อสู้ทางกฎหมาย และการต่อสู้ทางสังคม โดยในแง่มุมข้อกฎหมายนั้น กลางเดือนนี้องค์กรเครือข่ายจะประชุมร่วมกับประชาคมทุกท้องที่ ทุกอำเภอในเชียงราย เพื่อที่จะขอมติร่วมคัดค้านการเข้ามาเปิดสาขาโลตัสที่แม่สาย จากนั้นก็จะทำเรื่องเสนอผ่านจังหวัดไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อขอต่ออายุผังเมืองควบคุมการก่อสร้างอาคารเพื่อการค้าปลีกขนาดใหญ่ จ.เชียงราย ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ อ.เมือง และอ.เวียงชัย ที่จะหมดอายุลงในวันที่ 5 กันยายน 2548 ไปอีก 1 ปี
พร้อมกับขอให้เพิ่มเติมเงื่อนไขในกฎกระทรวงมหาดไทย ที่แม้ว่าจะขยายพื้นที่ควบคุมการก่อสร้างอาคารเพื่อการค้าปลีกขนาดใหญ่ครอบคลุม 24 เทศบาล แต่กลับตัดเงื่อนไขพื้นที่รัศมี 15 กม.จากเขตเทศบาลออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่ตามร่างเดิมได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ห้ามก่อสร้างอาคารเพื่อการค้าปลีกขนาดใหญ่ในรัศมี 15 กม.จากเขตเทศบาลในจังหวัดเชียงรายด้วย จนกลายเป็นช่องว่างให้ผู้ประกอบการค้าปลีกขนาดใหญ่รุกเข้ามาเปิดสาขาตามจังหวัดต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
"ขณะนี้ได้ประสานงานไปยังประชาคมตามอำเภอต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัด เพื่อนัดหมายประชุมร่วมกันภายในกลางเดือนนี้ ก่อนที่จะทำเรื่องเสนอต่อผู้ว่าฯ วรเกียรติ สมสร้อย ต่อไป"
ส่วนการต่อสู้ด้านกฎหมายระยะสั้นจะพยายามผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรวจสอบการก่อสร้างอาคารของเทสโก้โลตัส สาขาแม่สาย ว่าผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร มาตรา 39 ที่กำหนดไว้ว่า การก่อสร้างอาคารสูงเกิน 10 เมตร จะต้องอยู่อ่างจากวัด, โรงเรียน, ทางสาธารณประโยชน์ ฯลฯ ไม่น้อยกว่า 500 เมตร ซึ่งกรณีของสถานที่ก่อสร้างโลตัสแม่สาย อยู่ติดกับทางสาธารณะข้างสถานีขนส่งแม่สาย และวัดป่าเหมือดด้วย
นายพัฒนากล่าวถึงแนวทางการต่อสู้กดดันทางสังคมว่า จะร่วมกันดำเนินการทุกช่องทาง ซึ่งในวันที่ 13 มิถุนายน 2548 ที่จะถึงนี้ ก็จะมีการนัดหมายสมาชิกองค์กรเครือข่ายต่างๆ ในแม่สาย ให้ปิดร้านค้าทั่วทั้งอำเภอ เพื่อรวมตัวกันไปขอพบ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีกำหนดเดินทางมาประชุม ครม.สัญจร ที่จ.พะเยา เพื่อที่จะร้องเรียน-ขอความช่วยเหลือ
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้พยายามเคลื่อนไหวคัดค้านมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่การขึ้นป้ายประท้วงเทสโก้โลตัสตามหน้าร้านค้าต่างๆ ทั่วทั้งอำเภอแม่สาย และตัวเมืองเชียงราย ตั้งแต่ 18 พฤษภาคม 2548 ตลอดจนรวมตัวกันเข้าพบนายวรเกียรติ สมสร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ถึง 2 ครั้ง เพื่อขอให้หาช่องทางชะลอการก่อสร้างห้างเทสโก้โลตัส สาขาแม่สาย ที่มีกำหนดเปิดบริการภายในสิ้นปีนี้ออกไปก่อน
นอกจากนี้กลุ่มแกนนำยังได้เข้าพบนางเตือนใจ ดีเทศน์ ส.ว.เชียงราย เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2548 ที่ผ่านมา เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยทางนางเตือนใจได้รับว่าจะนำเรื่องผลกระทบขอบเขตการค้าเสรีที่ควรจะเป็น เสนอต่อกรรมาธิการวุฒิสภาที่เกี่ยวข้องนำเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาหาทางช่วยเหลือต่อไป
นายสุเทธ พรมใจสา ประธานชมรมรักษ์แม่สาย ที่ได้เข้าร่วมในเครือข่ายต้านโลตัสแม่สายอย่างเต็มตัว กล่าวว่า ยอมรับว่าการต่อสู้ในแง่กฎหมายมีโอกาสชนะน้อยมาก แต่เราต้องการให้สังคมไทยได้เห็นว่า ผลกระทบการเปิดให้ทุนใหญ่จากต่างชาติเข้ามาโดยไม่มีข้อจำกัด จะทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยในท้องถิ่นต้องล้มหายตายจากอย่างไม่มีทางเลี่ยง
นายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ รองประธานฯ ฝ่ายการค้าชายแดน หอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า หากโลตัสเข้ามาเปิดสาขาที่แม่สายเมื่อใด จะก่อให้เกิดปัญหาว่างงานขึ้นในท้องถิ่นทันที เมื่อร้านค้าต่างๆ ในท้องถิ่นต้องปิดตัวลง ก็ต้องเลิกจ้างแรงงาน ซึ่งเมื่อปี 2547 ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่ต้องปิดตัวเองลงไปเพราะการขยายเครือข่ายของกลุ่มทุนค้าปลีกขนาดใหญ่มากถึง 175,000 ราย ถ้าแต่ละรายจ้างแรงงาน 5 คน ก็แสดงว่ามีคนว่างงานเกิดขึ้นถึง 875,000 คน แต่ห้างใหญ่อย่างโลตัสและอีกหลายรายทั่วประเทศมีไม่ถึง 400 สาขา แต่ละสาขาจ้างงานประมาณ 200 คน รวมการจ้างงานของห้างใหญ่มีเพียง 80,000 คนเท่านั้น
นอกจากนี้ การขยายสาขาของโลตัสก็ไม่ได้ก่อให้เกิดรายได้กับท้องถิ่น สินค้าที่วางขายทั้งหมด สำนักงานใหญ่จะเป็นผู้จัดซื้อกับผู้ผลิตที่ทำสัญญากันเท่านั้น หรือบางประเภทจะผลิตเอง ทำให้เกษตรกร - พ่อค้ารายย่อยไม่สามารถนำสินค้าของตนเข้าไปขายในโลตัสได้ หรือถ้าจะวางก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก
และถ้าหากโลตัสขายสินค้าได้ 100 ล้านบาท (ความเป็นจริงมากกว่าแน่นอน) รายได้ทั้งหมดก็จะถูกส่งไปสำนักงานใหญ่ ภายใน 1 ปี เม็ดเงินไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท ก็จะถูกดูดออกไปจากท้องถิ่น นอกจากนี้การเข้ามาของโลตัส ยังเป็นการทำลายอนาคตของลูกหลานของคนท้องถิ่น เพราะจะกลายเป็นแหล่งมั่วสุมแหล่งใหม่ ส่งเสริมให้เยาวชนขาดจิตสำนึกในการใช้เงิน แต่พ่อแม่ผู้ปกครองมีรายได้ลดลง อันเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เกิดปัญหาสังคมอื่นๆ ตามมา รวมทั้งยังจะเป็นจุดเริ่มต้นทำให้วิถีชีวิต-วัฒนธรรมในท้องถิ่นถูกทำลายลงไป กลายเป็นสังคมเมืองที่มีแต่คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น
"ถ้าโลตัสเปิดสาขาแม่สายเมื่อใด แน่นอนว่า กลุ่มผู้ค้าปลีก-ค้าส่ง ในพื้นที่อำเภอแม่สาย ที่มีกว่า 1,000 ราย รวมไปถึงอำเภอใกล้เคียง จะได้รับผลกระทบก่อนเป็นกลุ่มแรก ยอดส่งออกสินค้าไปยังพม่าที่เคยทำได้ปีละหลายพันล้านบาท จะต้องถูกแย่งชิงไปไม่ต่ำกว่า 60-70% ตามมาด้วยปัญหาทางสังคมที่จะตามมาอีกมากมายตามวัฒนธรรมบริโภคนิยม"
นอกจากนี้ เม็ดเงินหมุนเวียนที่เกิดจากการซื้อขายสินค้าอุปโภค บริโภค ทั้งในลักษณะค้าปลีก-ค้าส่ง ตามแนวชายแดนไทย - พม่า ด้านอำเภอแม่สาย ตลอดจนอำเภอใกล้เคียง ที่เกิดขึ้นปีละหลายพันล้านบาท อนาคตก็จะถูกโลตัสดูดซับไปเกือบทั้งหมด เหมือนกับที่เกิดขึ้นในท้องที่อำเภอเมืองเชียงราย เมื่อบิ๊กซี - แม็คโคร เข้ามาเปิดสาขา ทำให้ยอดขายของผู้ประกอบการรายย่อยในตัวเมืองหายไปไม่น้อยกว่า 60-70% เป็นอย่างต่ำ เหลือเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น ที่จะตกถึงมือของผู้ค้ารายย่อยในท้องถิ่น ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมก็คือ กรณี "อภิสแควร์" ห้างสรรพสินค้าของกลุ่มตระกูล "อภินิเวศน์" ทุนค้าปลีกท้องถิ่นเชียงราย ที่ต้องปิดตัวเองลงตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2548 เป็นต้นไป
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างห้างฯเทสโก้ โลตัส สาขาแม่สาย เตรียมจะก่อสร้างบริเวณริมถนนพหลโยธินขาเข้าเมืองแม่สาย ที่บ้านป่าเหมือดรุ่งเจริญ ม.5 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ก่อนถึงด่านพรมแดนไทย-พม่า ราว 7 กิโลเมตร โดยโลตัสซื้อที่ดินจากชาวบ้าน 3 ราย รวม 33 ไร่ ในราคาประมาณ 130 ล้านบาท ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการปรับพื้นที่ โดยมีรถแบ็คโฮและรถบรรทุก พร้อมคนงานหลายสิบคน กำลังเร่งปรับหน้าดินตลอดทั้งวัน ในขณะที่หน้าด่านพรมแดนแม่สาย ได้มีการติดป้ายว่า "เราไม่ต้องการห้างโลตัส" และ "LOTUS GOES HOME" เพื่อให้ผู้คนสนใจออกมาร่วมเคลื่อนไหว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|