|
ขอบคุณด้วยใจก่อนจากลา
โดย
ธีรัส บุญ-หลง
นิตยสารผู้จัดการ( มิถุนายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
ตอนนี้ผมได้ตัดสินใจมาอยู่เมืองไทยอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว คงจะไม่กลับไปอยู่เมืองนอกอีกสักพักใหญ่เลยทีเดียว บทความขอบคุณด้วยใจก่อนจากลา เป็นงานเขียนชิ้นสุดท้ายของผมในคอลัมน์บนถนนสาย Spottiswoode ในเมื่อผมมาอยู่เมืองไทยก็หมดคอนเซ็ปต์ความเป็น global link แล้วครับ เมื่อเราพบกันก็มีจากกันเป็นของธรรมดา ผมขอขอบคุณครอบครัวของผม พี่วิรัตน์ แสงทองคำ นิตยสารผู้จัดการ พี่ๆ เพื่อนๆ คนไทยที่ Edinburgh (โดยเฉพาะก้อย โน ปอม ที่ช่วยพิมพ์ ต้นฉบับนี้ให้) และที่ขาดไม่ได้ เหล่าผู้อ่านที่เป็นกัลยาณมิตรของผม ที่ให้โอกาสและสนับสนุนกว่า 2 ปีที่ผมเขียนคอลัมน์นี้ แล้วเจอกันอีกครั้งครับ เมื่อถึงเวลา
10 วันที่ต้องกลับไปลาจากอังกฤษ ผมไม่อาจจะมาร่ายยาวเป็นเนื้อเรื่องได้มากนักกับสิ่งที่เป็นเรื่องส่วนตัวของผม ผมกลับไปอังกฤษคราวนี้เพียง 10 วันเท่านั้น แต่ผมก็ได้ทำทุกอย่างที่อยากจะทำครบ สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งที่ผมจะเข้าไปดูหลายทีแต่เหมือนมีอะไรหลายอย่างดลใจไม่ให้ผมดู ผมก็ได้ดู เพื่อนสมัยเรียนมัธยมที่สนิทๆ ก็ได้เจอกลุ่มเพื่อนๆ ฝรั่งและคนเอเชียที่สนิทก็ได้มาชุมนุมกันอีกครั้ง พร้อมมีเรื่องเล่ามากมาย บางคนผิดหวังกับระบบงาน บางคนมีความสุข บางคนเรียนต่อปริญญาเอก ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีวี่แวว ผมมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเพื่อนสาวไทยที่พบรักกัดก้อนเกลือกินแต่งงานกับหนุ่มสวีเดนที่พร้อมจะกัดก้อนเกลือกินทั้งๆ ที่ตอนแรกกะจะมาเที่ยวอังกฤษเฉยๆ ชีวิตนั้นแล้วแต่เราจะเลือก หรือลมจะพัดไป?
สาระฉบับนี้คงจะไม่มีอะไรมากกว่าการกล่าวคำอำลา ถึงบทนำ การเริ่มต้นใหม่ที่เมืองไทยที่ผมจะได้พบเจอประสบการณ์ที่ได้รับจากเพื่อนๆ และคนรู้จัก คือการเปลี่ยนวิธีคิดโดยสิ้นเชิง การปรับตัว อย่างที่ผมเขียนไว้ในหนังสือ "หาโรงเรียนให้ลูก" (ของวิรัตน์ แสงทองคำ) บางทีการเรียนเมืองนอกก็อาจจะไม่ใช่ผลดีเสมอไป ความเข้าใจวัฒนธรรม ระบบอาวุโสสำคัญมากที่เมืองไทย ตั้งแต่เด็ก การที่มีอิสระทางความคิดมากเกินไปอาจจะทำให้หลายคนค่อนข้างที่จะเชื่อมั่นเกินไป บางคนทางเลือกมากเกินไปจนสับสนก็มี (เช่นเรียนตรีวิศวะ โทบริหาร โทศิลปะ และเอกการตลาด จบมาแต่งเพลง) เรื่องเหล่านี้ทำให้ผมต้องค่อยๆ คิดปรับปรุง ขอคำแนะนำกับผู้รู้เสมอ การทำงานที่ยากที่สุดคือการทำงานกับคน ขณะนี้ผมได้เริ่มรับรู้แล้วว่าระบบที่ผมเคยชินมาที่นี่ต้องปรับระบบแนวคิดให้เข้ากับคนให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
ความจริงที่ต้องเจออาจไม่เป็นดังคิด เมื่อผมกลับมาเจอโลกสีเทาแห่งความเป็นจริง (Greybit) ก็ต้องบิดที่จะปรับตัวเข้าใจ แต่ไม่ตามในสิ่งที่ไม่ดีของมัน ทุกอย่างย่อมมีทางออก ที่สำคัญคือเราจะเลือกทางออกทางไหน นี่จึงเป็นโลกใหม่ สิ่งใหม่ๆ สำหรับผมในการเริ่มทำงาน ปรับตัวในเมืองไทย มันคือ A new beginning ผมต้องพยายามไม่ทิ้งความฝัน แต่ก็ไม่เร่งมันจนเฉือนขาด ต้องมองตามสภาพความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้เป็นการท้าทายครั้งใหม่ที่ไม่ใช่เฉพาะแต่ผม แต่อาจจะสำหรับคนที่จากเมืองไทยไปนานๆ อีกหลายคน
ผมคงยังไม่ทิ้งงานเขียนแน่ๆ การทำงานข่าว สัมภาษณ์แบบยาวของผมก็จะมาในนิตยสารผู้จัดการ จะช้าเร็วแล้วแต่ บ.ก. เห็นสมควร โดยสัมภาษณ์แรกที่อาจจะได้ลงเป็นการสัมภาษณ์บุคคลหนึ่งที่มีข่าวหลายกระแสที่ค่อนข้างจะหายไปจากสังคมไทยเนื่องจากกรณีความที่ยังไม่สิ้นสุด
งานประจำของผม ก็คงต้องทำงานอดิเรกและความใฝ่ฝันผมก็คงต้องตาม ผมทราบแล้วว่าจะทำอะไร บางทีอาจจะเขียนหนังสือดีๆ สัก 3-4 เล่ม ทำสำนักพิมพ์เล็กๆ เอาบทความและหนังสือที่ไม่ตามตลาดมาแปลเพื่อให้โอกาสเยาวชนหรือคนไทยอื่นๆ ได้อ่านได้ฝันที่กว้างขึ้นไปจากที่มีอยู่ (making people dream) รวมทั้งเริ่มสร้างสรรค์ พื้นดิน หมู่บ้าน โรงแรมในอุดมคติ ให้เป็นจริง (creating reality)
ผมมีสิ่งต่างๆ ที่จะต้องตาม ต้องพยายาม แต่อาจต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าอย่างไรผมจะสู้ แล้วคุณล่ะครับ มีอะไรที่คิดที่ฝันแล้วยังไม่ได้ทำหรือพยายามจะทำ? จะสู้หรือเปล่า?
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|