เอคเซนเชอร์เผยผล สำรวจความคิดเห็นผู้บริหารองค์กรชั้นนำของโลก ยอมรับการควบรวมกิจการในอนาคต
แนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจไอที
แต่ต้องใช้ความระมัดระวังและรอบคอบในการพิจารณาก่อนตัดสินใจดำเนินการ หลังจากเอชพีและคอมแพค
รวมถึงซี.เอส.อินเทอร์เน็ตและล็อกซ อินโฟได้มีการรวมกิจการ ส่งผลถึง
ผู้ประกอบกิจการด้านไอทีและอีกหลายธุรกิจได้พิจารณาถึงการควบกิจการ เอคเซนเชอร์
ผู้ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาด้านการจัด การและวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
เผยผลสำรวจ
ความคิดเห็น ของผู้บริหารองค์กรในกลุ่มบริษัทชั้นนำ 1,000 แห่งที่ได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์จูนระบุว่า
ผู้บริหารส่วนใหญ่มีความเห็นว่า ในปีนี้องค์กร ต่างๆ ยินดีที่จะพิจารณาการควบรวม
กิจการมากขึ้น นายจัสติน เจนค์ กรรมการกลุ่ม วางแผนกลยุทธ์ เอคเซนเชอร์
กล่าวว่า บริษัทต่างๆ มักจะพูดว่า ในการควบรวมกิจการนั้นต้องมีหลักการ และเหตุ
ผล แต่ในความเป็นจริง แทนที่องค์กร
ต่างๆ จะมุ่งเน้นเรื่องหลักการและเหตุ ผล กลับเร่งเจรจาเกี่ยวกับโครงสร้างและรีบสรุปข้อตกลงให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็วมากกว่า
หรืออีกนัยหนึ่งคือ
บริษัทมักมุ่งประเด็นไปที่การตรวจสอบฐานะทางการเงินและข้อมูลเกี่ยวกับผลการ
ดำเนินงานในอดีต แทนที่จะมุ่งความสนใจไปที่แนวโน้มของธุรกิจและแหล่งรายได้ในอนาคต
"การตรวจสอบฐานะทางการเงิน เป็นปัจจัยพื้นฐานที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการตกลงควบรวกิจการ
อย่าง ไรกตาม มักจะพบว่าหลังจากควบรวม กิจการแล้ว หลายบริษัทไม่สามารถนำ
ทรัพยากรหรือจุดแข็งของทั้งสององค์กรมาปรับใช้ให้ เกิดประโยชน์ยิ่งขึ้น
เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับองค์กรใหม่" นอกจากนี้ บริษัทส่วนมากต้อง
การให้ความสำคัญทั้งในด้านกลยุทธ์และการดำเนินการควบรวมกิจการไปพร้อมกัน
แต่มีเพียงบาง บริษัทเท่า นั้นที่จะทำเช่นนั้นได้ จากการศึกษาพบว่าผู้บริหารร้อยละ
11 กล่าวว่าการประสานกลยุทธ์
ร่วมกันเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการผลักดันให้การควบและรวมกิจการประสบผลสำเร็จ
ในขณะที่ร้อยละ 20 กล่าวว่าการดำเนินการ ในการควบรวม กิจการต่างหากที่เป็นหัวใจสำคัญที่สุด
แต่จากการสำรวจของเอคเซนเชอร์แสดงให้เห็นว่าทั้งสองส่วน ต่างก็มีความสำคัญเท่าๆ
กัน จากการที่เอคเซนเซอร์ได้ศึกษาวิเคราะห์กลุ่มธุรกิจบางประเภทอย่างละเอียด
สามารถสรุปได้ว่า
บริษัทที่เข้าใจว่ากลยุทธ์และการดำเนินการเพื่อควบรวมกิจการที่มีประสิทธิผล
มีความสำคัญเท่าเทียมกัน จะเป็นองค์กรที่มีโอกาสประสบความสำเร็จ ในข้อตกลง
การควบและรวมกิจการมากที่สุด
"ในกระบวนการตรวจสอบฐานะทางการเงิน ก่อนทำการตกลงหรือ ลงนามในสัญญาและข้อผูกพันใดๆ
องค์กรจำเป็นต้องระบุให้ได้และต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่า มีทรัพยากร
หรือปัจจัยใดของทั้งสองฝ่ายที่จะ เพิ่มคุณค่าและผลประโยชน์ให้แก่องค์กรใหม่ในอนาคต
หลังจากควบรวมกิจการแล้ว นอกจากนี้องค์กรที่จะเข้าไปควบและรวมกิจการ
ไม่ควรจะมุ่งความสนใจไปที่ผลประกอบการในอดีตเป็นสำคัญเท่านั้น แต่ต้องเน้น
การวิเคราะห์แหล่งมูลค่าเพิ่มและประโยชน์ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นเมื่อมีการรวมสองกิจการเข้าด้วยกัน"