จิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย

โดย น้ำค้าง ไชยพุฒ
นิตยสารผู้จัดการ( มิถุนายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

"โน้ตบุ๊ก" กลายเป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายที่ช่วยเติมเต็มไลน์สินค้าในกลุ่มไอทีของซัมซุง ประเทศไทย ให้ครบถ้วนในที่สุด

หลังเข้ามาทำธุรกิจในไทยหลายปี ปี 2548 ถือเป็นปีแรกที่ไทยซัมซุง อิเลคทรอนิคส์ จำกัด ได้ตัดสินใจเปิดตัว "โน้ตบุ๊ก" เพื่อทำตลาดในเมืองไทย ล้าหลังคู่แข่งบางเจ้าไปหลายสิบปี โดยเฉพาะเบอร์หนึ่งของตลาดในปัจจุบันที่เข้ามาทำธุรกิจในไทยมากว่า 20 ปี และกลายเป็นสินค้าตัวสุดท้ายที่ทำให้กลุ่มสินค้าไอทีซัมซุงวางขายได้ครบทุกตัว

ในวันงานแถลงข่าว พื้นที่ของห้อง บอลรูมในโรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล ลาดพร้าว ตกแต่งด้วยสีแดงเรื่อ เช่นเดียวกับพริตตี้สาว ที่ใส่ชุดสีแดงเข้ากับสีของโน้ตบุ๊กตัวแรกที่ออกแบบให้มีสีเดียวกัน สลับกับพริตตี้ชุดสีขาว น้ำเงิน อันเป็นสีสัญลักษณ์ของบริษัท มีผู้บริหารแทบทุกคนในบริษัท ตั้งแต่ แท-บง ซอย กรรมการผู้จัดการบริษัท ไปจนถึง กรัณฑ์ ร่วมสุข ผู้จัดการฝ่ายการตลาดแผนก ธุรกิจไอที ต่างเดินทางมาร่วมงานกันพร้อมหน้าเพื่อพบปะกับบรรดาทัพสื่อมวลชนที่เดินทางมาร่วมงานกันมากมาย ก่อนเย็นวันนั้นผู้บริหารทีมเดียวกันต้องร่วมเปิดตัวสินค้าใหม่กับดีลเลอร์ของบริษัทอีกหลายร้อยชีวิตอีกครั้ง

กรัณฑ์บอกว่า การเปิดตัว "ทีหลัง" ไม่ได้หมายถึงว่า "มาช้า" แต่อย่างใด ซัมซุง เชื่อว่าปีนี้เพิ่งจะถึงเวลาของการทำโน้ตบุ๊กของบริษัท เพราะตลาดนั้นอยู่ในช่วงของการเติบโตเต็มที่ เฉพาะในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา โน้ตบุ๊กทั่วโลกมีอัตราการเติบโตสูงกว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือพีซีหลายเท่าตัว เช่นเดียวกันกับในตลาดเมืองไทยที่ประมาณการกันว่าปีนี้ ในเมืองไทยยอดขายโน้ตบุ๊กนั้นจะสูงถึง 280,000 เครื่อง เมื่อเทียบกับตลาดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือพีซีที่ปีนี้จะขายได้ 1,020,000 เครื่อง และในอีก 2 ปีข้างหน้า ตลาดโน้ตบุ๊กจะขยับไปเป็น 340,000 เครื่อง และจะเข้ามาแทนที่ตลาดคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในอนาคต ตามการคาดการณ์ของซัมซุง

นี่ถือเป็นโอกาสและจังหวะที่ดีที่ซัมซุงจะทำตลาดโน้ตบุ๊กในเวลาเช่นนี้ โดยซัมซุงเตรียมความพร้อมตั้งแต่การเตรียมใช้งบประมาณกว่า 200 ล้าน สำหรับทำตลาดในกลุ่มสินค้า ไอที รวมถึงโน้ตบุ๊ก และตัดสินใจจัดองค์กรเสียใหม่เพื่อรองรับการเปิดตัวโน้ตบุ๊กโดยเฉพาะ ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา

แม้จะเพิ่งเปิดตัว แต่ซัมซุงตั้งเป้าที่จะดึงส่วนแบ่งทางการตลาดโน้ตบุ๊กให้ได้อย่างน้อย 20 เปอร์เซ็นต์ในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งเท่ากับเป็นอันดับ 3 ของตลาดเลยทีเดียว และยังหวังว่าภายในปีหน้า รายได้ของโน้ตบุ๊กจะเท่ากับ 10 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ที่เกิดจากสินค้าไอทีทั้งหมดของซัมซุงอีกด้วย ผู้บริหารมั่นใจว่า ธุรกิจโน้ตบุ๊กของบริษัทจะประสบความสำเร็จตามรอยธุรกิจมือถือของซัมซุงที่แม้จะเพิ่งเปิดตัวไปเพียง 5 ปีเท่านั้น แต่กลับสามารถก้าวขึ้นเป็นเบอร์สองของโลกได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ผู้บริหารซัมซุงเชื่อว่าวาง positioning ของตนเองให้เป็นผู้นำแบรนด์โน้ตบุ๊กชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผนวกกับการทำ segmentation น่าจะเป็นหัวใจสำคัญในธุรกิจโน้ตบุ๊กของซัมซุงเพื่อให้ถึงเป้าหมายอย่างที่คาดหวังไว้

ซัมซุงมองว่าก่อนหน้านี้ตลาดโน้ตบุ๊กในเมืองไทยนั้นเน้นความสำคัญในเรื่องของราคาบวกกับประสิทธิภาพมากกว่าสิ่งใด ขณะที่ซัมซุงจะสร้างความแตกต่างให้กับตลาดโดยเน้นเรื่องประสิทธิภาพและความสามารถในการพกพา หรือ mobility โดยเฉพาะการวางขายโน้ตบุ๊กรุ่นไฮเอนด์ ราคาแพงเหยียบแสนประเดิมตลาด เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้ถึงตำแหน่งแบรนด์โน้ตบุ๊กซัมซุงว่าจะเน้นกลุ่มโน้ตบุ๊กไฮเอนด์เป็นหลัก

นอกจากนี้ซัมซุงยังเตรียมสร้างความแตกต่างในตลาดยิ่งขึ้น ด้วยการคิดค้นหาช่องทางในการขายโน้ตบุ๊กให้กับตนเอง นอกเหนือจากผ่านร้านค้าไอทีหรือช็อปใหม่ที่จะเปิดในห้างพันธุ์ทิพย์ และไอทีมอลล์ในเร็ววันนี้ ด้วยการคิดค้นวางขายโน้ตบุ๊กในร้านค้าในห้างสรรพสินค้า และร้านค้าที่แปลกใหม่ออกไปจากที่มีอยู่ เช่นซัมซุงในบางประเทศที่วางขายโน้ตบุ๊กรุ่นราคาแพงในบูธสินค้ายี่ห้อ SK II เพื่อเจาะตลาดกลุ่มผู้หญิงเป็นหลัก โดยเน้นการทำโปรโมชั่นลดราคาสินค้าของตนร่วมกับร้านค้านั้นๆ ไปพร้อมกันด้วย

จิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายของซัมซุงเพิ่งถูกเติมเต็มเข้าไปให้ครบช่อง แต่สำหรับผู้ผลิตโน้ตบุ๊กค่ายอื่นแล้ว การมาของโน้ตบุ๊กซัมซุง กลับกลายเป็นจิ๊กซอว์ตัวใหม่ที่เพิ่มขึ้นในตลาดโน้ตบุ๊กของไทย และกลายเป็นคู่แข่งรายใหม่ที่ต้องคอยจับตามองไม่น้อย จิ๊กซอว์ตัวไหนจะอยู่ได้ต่อไป จิ๊กซอว์ตัวไหนจะกลายเป็นแชมป์รายใหม่ ก็ต้องรอดูกันต่อไป


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.