รพ.เกษมราษฎร์เปิดแฟรนไชส์รวม 7 ศูนย์แพทย์เฉพาะทาง


ผู้จัดการรายวัน(27 พฤษภาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

โรงพยาบาลเกษมราษฎร์เปิดแฟรนไชส์ศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง ภายใต้แบรนด์ "KH BETTER LIFE" ปีหน้า มุ่งขายให้พันธมิตร 70 แห่ง เพิ่มรายได้ 100 ล้าน จัดงบโปรโมต 8 ล้าน คาดรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 2,600 ล้านบาท ไม่รวมกรณีรัฐจะปรับเพิ่มวงเงินโครงการ 30 บาท แย้มหลังไตรมาส 2 เตรียมหารือ บอร์ดพิจารณาจ่ายปันผลจากกำไรสะสมที่เพิ่มขึ้น

นายแพทย์เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ KH ผู้ให้บริการสถานพยาบาล โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะเปิดแฟรนไชส์ให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางในปี 2549 ภายใต้แบรนด์ "KH BETTER LIFE" ซึ่งประกอบด้วยการให้บริการ 7 ประเภท คือ 1. ศูนย์ทันตกรรม 2. สุขภาพผิวและความงาม 3. ศูนย์ศัลยกรรมเพื่อความงาม 4. ศูนย์การแพทย์แผนไทย 5. ศูนย์การแพทย์แผนจีน 6. ศูนย์ตรวจสุขภาพ และ 7. ศูนย์ให้บริการลูกค้าชาวต่างประเทศ

ทั้งนี้ ปัจจุบันได้เปิดให้บริการในสาขาโรงพยาบาล KH และในเดือน มิ.ย. จะมีการเปิดตัว จากนั้นอีก 6 เดือน จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้จัก ซึ่งจะใช้งบลงทุนรวม 8 ล้านบาท

การเปิดแฟรนไชส์ศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง โดยเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจนเฉพาะเจาะจง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า แม้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็จะไม่ลด โดยจะขายให้แก่โรงพยาบาลที่เป็นพันธมิตรกว่า 70 แห่งทั่วประเทศ และจากการเปิด เองตามศูนย์การค้า อาคารต่างๆ

"แฟรนไชส์แต่ละสาขาจะประกอบด้วยศูนย์ 7 ศูนย์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับทำเลและสาขาของคู่แข่ง แต่อย่างน้อยจะมีบริการสาขาละ 3-4 ประเภทต่อ 1 สาขา ซึ่งจะเน้นลูกค้าระดับกลางถึงระดับสูง ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มรายได้ในปี 2548 ประมาณ 100 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นในปี 2549 แต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ต้องรอไตรมาส 3/48 จึงจะสามารถบอกได้"

บริษัทคาดรายได้ปี 2548 มากกว่า 2,600 ล้านบาท แบ่งเป็นผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกเงินสดเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2547 ที่มี 1.87 ล้านคนต่อปี ผู้ป่วยในจำนวน 2.19 แสนคน และจำนวนผู้ป่วย ประกันสังคมที่คาดว่าจะเพิ่มมากกว่า 4.50 แสนคน จากไตรมาส 1/48 ที่มี 4.31 แสน คน ผู้ป่วยโครงการประกันสุขภาพถ้วน หน้า 30 บาท ที่จะเพิ่มเป็น 3 แสนคน จากการเปิดสถานให้บริการอีก 2 แห่ง ที่จะเพิ่มลูกค้าได้ 2,000 คน จากไตรมาส 1/48 ที่มี 2.92 แสนคน รวมถึงค่าบริการต่อคนเพิ่มขึ้น และรายได้จากบริการศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งจะสร้างรายได้ปีนี้ 100 ล้านบาท

ไม่รวมการที่รัฐบาลจะมีการเพิ่มวงเงินในการเหมาจ่ายหลักประกันถ้วนหน้า ที่คาดว่าจะเพิ่มเป็น 1,600 บาทต่อคน ในปี 2549 ที่จากเดิมที่มี 1,300 บาทต่อคน ซึ่งจะมีการเริ่มใช้ในเดือน ต.ค.2548

"สำหรับรายได้ไตรมาส 2/48 คาดว่าจะมีอัตราการเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ที่เพิ่มขึ้น 21% ที่มีรายได้ 662 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 64 ล้านบาท แต่ตามปกติแล้วในไตรมาส 3 และไตรมาส4 จะมีรายได้สูงกว่าไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ซึ่งรายได้ไตรมาส 1 ถือว่าออกมาดีกว่าที่คาด ดังนั้นเชื่อว่ารายได้ทั้งปีจะมีรายได้ 2,600 ล้านบาท ได้อย่างไม่น่ากังวล"

นอกจากนี้ ในไตรมาส 3 /2548 บริษัทจะมีการรุกการเป็นศูนย์กลางในการผ่าตัดหัวใจเด็กในภูมิภาค และคาดว่าปี 2549 จะเป็นโรงพยาบาลที่มีการผ่าตัดโรคหัวใจเพิ่มเป็น 1,000 คนต่อปี ซึ่งเป็นอันดับ 2 รองจากโรงพยาบาลศิริราช จากการที่บริษัทได้มีการเปิดศูนย์โรคหัวใจในกลางปี 2547 ที่มีการผ่าตัด 150 คน

ทั้งนี้ในไตรมาส 2/2548 บริษัทจะพิจารณาการบริหารทางการเงินของบริษัท โดยกำไรสะสม 78 ล้านบาท จะนำไปลงทุนหรือชำระคืนหนี้หรือจ่ายเงินปันผล ซึ่งบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40%

ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สิน 1,050 ล้านบาท คิดเป็นหนี้สินต่อทุน (D/E) 0.6 เท่า แบ่งเป็นหนี้ของ KH ประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะชำระหมดได้ภายใน 3 ปี และบริษัทย่อย 300 ล้านบาท จากเดิมที่มี 2,000 กว่าล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.