|
แม็ทชิ่งทิ้งหุ้น Take @ Look มาสเตอร์ แอด ยันไม่กระทบ
ผู้จัดการรายวัน(26 พฤษภาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
"แม็ทชิ่ง สตูดิโอ" ตีจากบริษัท Take @ Look ขายหุ้นให้กับมาสเตอร์ แอด-สามารถ คอร์ปอเรชั่น ที่เข้ามาถือหุ้นเพิ่มชี้ไม่กระทบต่อบริษัท ขณะที่ผู้บริหารมาสเตอร์ แอดยังเชื่อมั่นปีนี้รายได้ไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ป้ายมัลติวิชัน ดิสเพลย์
นายอัครรัสมิ์ รัตโนทัยธร ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัทมาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) (MACO) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัท Take@ Look มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น โดยบริษัทแม็ทชิ่ง สตูดิโอที่ถือหุ้น 25% ได้ถอนตัวออกมา และขายหุ้น ให้กับบริษัทสามารถ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 50% เพิ่มเป็น 66.6% และบริษัทมาสเตอร์ แอด โดยสัดส่วนถือหุ้นจาก 25% เพิ่มเป็น 33.3% สาเหตุที่บริษัทแม็ทชิ่ง สตูดิโอขายหุ้นออกมา เนื่องจากบริษัทแม็ทชิ่ง สตูดิโอ มีแผนที่จะทำป้ายอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน
การที่บริษัทแม็ทชิ่ง สตูดิโอถอนตัวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ Take@ Look เนื่องจากปัจจุบันบริษัท สามารถฯ ทำหน้าที่ดูแลทางด้านเทคโนโลยี ส่วนบริษัทมาสเตอร์ แอด ทำหน้าที่ด้านการตลาด
ทั้งนี้บริษัท Take@ Look ได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 500 ล้านบาทเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านบาท นำไปขยายธุรกิจสร้างป้ายอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น
ภายในปีนี้บริษัทจะทำป้ายโฆษณา โดยจะมีการตั้งเสาใหม่ที่การท่าเรือริมทางด่วน โดย จะใช้เงินลงทุน 25-27 ล้านบาท และมีสัญญา 5 ปี ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นมาก และบริษัทยังได้ทำสัญญากับกรุงเทพมหานคร ในระยะเวลา 9 ปี ซึ่งจะทำป้ายโฆษณา ไตรวิชันใต้สะพานลอย บริเวณตอม่อ ซึ่งจะติดตั้ง 40-440 จุด โดยใช้เงินลงทุน 200 ล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาภายในไตรมาส 4 นี้
บริษัทยังจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่คือ มัลติวิชัน ดิสเพลย์ ป้ายโฆษณาที่สามารถเปลี่ยนภาพโฆษณาได้ประมาณ 10 ภาพ ซึ่งคาดว่าจะช่วยทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าต่อป้าย ซึ่งคาดว่าจะใช้ได้ในต้นไตรมาส 4 ในช่วงที่ผ่านมาได้ไปลงทุนในประเทศจีน โดยได้มีการตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมา และยังได้ส่งสินค้าไปขายในประเทศมาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฮ่องกง, เกาหลีใต้และกำลังเจรจากับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในส่วนของประเทศอินโดนีเซียนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาที่จะทำธุรกิจร่วมกันมากขึ้น
บริษัทจะออกผลิตภัณฑ์ป้ายจราจรอัจฉริยะ ซึ่งจะติดตั้ง 40 แห่ง แบ่งเป็นบริเวณแยกร่วมสายหลัก 26 แห่ง และเส้นทางก่อนเข้าทางด่วนจำนวน 14 แห่ง โดยจะติดตั้งประมาณปลายไตรมาส 3 และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 4
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณเส้นทางที่จะไปสนามบินสุวรรณภูมิ คือ บริษัทบางนา และมอเตอร์เวย์ ซึ่งจะมีประมาณ 10 เสา ในส่วนของป้ายโฆษณาในสนามบินสุวรรณภูมินั้น บริษัทก็ให้ความสนใจที่จะเสนอตัวแต่จะต้องรอให้ร่างระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างหรือร่างทีโออาร์ออกมาเสียก่อน
ทั้งนี้ภายในปีนี้บริษัทจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท โดยในไตรมาสแรกและไตรมาส 2 น่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ในไตรมาส 3 และ 4 จะมีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรายได้จากโครงการใหม่ๆ ที่เริ่มจะรับรู้รายได้ภายในครึ่งปีหลังนี้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|