|

เอ็มเอฟซีเปิดซิงพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ อพาร์ทเมนต์ให้เช่าผลตอบแทน6%
ผู้จัดการรายวัน(24 พฤษภาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
“เอ็มเอฟซี” ลุยกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ลงทุนในอพาร์ทเมนต์ให้เช่ารองรับนักธุรกิจต่างชาติ มูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เผยผลตอบแทน 5-6% เปิดขายมิถุนายนนี้ ผู้จัดการกองทุนชี้ เหตุตั้งกองอพาร์ทเมนต์เป็นกองแรก หวังชูผลประโยชน์ที่แท้จริงให้นักลงทุนเห็น พร้อมเล็งเปิดอีก 2 กองในช่วงที่เหลือของปีนี้
นายสมพร บุรินทราธิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายในเดือนมิถุนายนนี้ บลจ.เอ็มเอฟซีเตรียมที่จะเปิดขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) เป็นกองแรก โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่ลงทุนในอพาร์ทเมนต์ให้เช่า มูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนประมาณ 5-6% ส่วนอยู่ในทำเลใดนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์นี้ก.ล.ต.จะสามารถอนุมัติได้อย่างแน่นอน
สาเหตุที่บลจ.เอ็มเอฟซีเลือกลงทุนในอพาร์ทเมนต์เป็นกองแรก เนื่องจากต้องการให้ผู้ลงทุนหรือผู้ถือหน่วยได้เรียนรู้ว่าการลงทุนดังกล่าวได้ประโยชน์จริง เพราะมีรายได้ที่แน่นอนและสม่ำเสมอจากการค่าเช่า รวมทั้งมีโอกาสจากการปรับค่าเช่าด้วย อีกทั้งจากการที่บริษัทมีการสำรวจความต้องการของนักลงทุน ปรากฏว่านักลงทุนให้ความสนใจลงทุนในทรัพย์สินประเภทอพาร์ทเมนต์ให้เข้า ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักของกองทุนดังกล่าวเป็นกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศ
"การที่เราเลือกลงทุนในอพาร์ทเมนต์เป็นกองแรก เนื่องจากต้องการให้นักลงทุนได้เรียนรู้และเข้าใจถึงการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ว่าได้ประโยชน์จริงหรือเปล่า เพราะการลงทุนนี้ เป็นการลงทุนที่มีรายได้แน่นอนสม่ำเสมอ และมีโอกาสที่ค่าเช่าจะปรับขึ้นได้ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นนักธุรกิจต่างชาติ" นายสมพรกล่าว
สำหรับปัจจัยในการเลือกทรัพย์สินที่กองทุนจะเข้าไปลงทุนนั้น จะพิจารณาในแง่ของตัวทรัพย์สินที่จะต้องมีตลาดผู้เช่าที่ดี เนื่องจากมีรายได้ขึ้นอยู่กับตรงนั้น รวมทั้งจะต้องมีความชัดเจนของตัวทรัพย์สินที่ไม่มีปัญหาหรือติดภาระผูกพัน และปัจจัยที่สำคัญคือ ทำเลที่ตั้งของทรัพย์สินนั้น ซึ่งการเจริญเติบโตและการขยายตัวของพื้นที่จะต้องเห็นได้ชัดเจน ทั้งนี้จึงทำให้ปัจจัยดังกล่าวเป็นอุปสรรคสำคัญในการจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเจ้าของทรัพย์สินไม่ต้องการขายทรัพย์สินนั้นออกมา
นายสมพร กล่าวว่า บลจ.เอ็มเอฟซีมีแผนที่จะจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปีนี้อีก 2 กองทุน โดยจะเป็นการลงทุนในอาคารสำนักงานให้เช่า ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าของทรัพย์สิน ทำให้ทั้งปีนี้ บลจ.เอ็มเอฟซีจะมีกองทุนประเภทดังกล่าวทั้งหมด 3 กองทุน มูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,000-4,000 ล้านบาท
นายสมพร กล่าวว่า การที่บลจ.หันมาให้ความสนใจจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ ถือว่าจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาตลาดกองทุนประเภทดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งจำเป็นที่จะต้องให้ความรู้แก่นักลงทุนเพื่อให้เข้าในถึงการลงทุนที่จะเป็นตลาดในอนาคต อีกทั้งจะเป็นการช่วยพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้มีคุณภาพอีกทางหนึ่งด้วย
ด้านนายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงก์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย ) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่านั้น มีแนวโน้มที่ดีทุกเซกเตอร์ ทั้งอพาร์ทเมนต์ เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ อาคารชุด และอาคารสำนักงาน ซึ่งอาคารสำนักงานนั้นถือเป็นทรัพย์สินที่น่าลงทุนมากที่สุด โดยเฉพาะทรัพย์สินประเภทเกรดเอและทรัพย์สินที่อยู่ในเขตสขุมวิท เนื่องจากที่ผ่านมามีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะความต้องการเช่าพื้นที่มีมากกว่าการขยายตัวของพื้นที่ให้เช่าในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลมาจากไม่มีการสร้างใหม่หลังจากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|