วันหยุดนี้ไปเที่ยว ที่ไหนดี? หาคำตอบได้ ที่ปั๊ม
"เชลล์" เพราะ ที่นั่นนอกจาก มีน้ำมันขายแล้ว ยังมีหนังสือดีๆ เป็นคู่มือสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว
ทั่วเมืองไทยวางขายอีกหลายเล่ม
โบราณสถานอันทรงคุณค่า แมกไม้ สายธาร ขุนเขา หมู่เกาะ และท้องทะเล คือ มรดกแห่งทรัพยากรไทย
ที่คนไทยทุกคนควร ที่จะได้สัมผัส และมีความรู้สึก ที่ลึกซึ้งกับทรัพย์สมบัติของชาติเหล่านั้น
นี่คือ ที่มาของความคิด ซึ่งทำให้บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ได้ร่วมมือกันจัดทำหนังสือพ็อกเกตบุ๊คขึ้นมา เพื่อรองรับกับโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอะเมซิ่งไทยแลนด์
ปี 2541-2542 ปัจจุบันมีทั้งหมด 5 เล่ม คือ คู่มือไทยเที่ยวไทย อะเมซิ่งกรุงเทพฯ
อะเมซิ่งทะเลไทย อะเมซิ่งป่าเขาลำเนาไทย และเชลล์ชวนชิม
"คู่มือไทยเที่ยวไทย" เล่มแรกจัดพิมพ์ประมาณ 3 หมื่นเล่มผลปรากฏว่าขายหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว
และหากยอดขายทั้งหมดของพ็อกเกตบุ๊คทั้ง 5 เล่ม นั้น มียอดขายสูงถึง 6 แสนเล่ม
ตาม ที่ จักรชัย อนุศาสน์อมรกุล ผู้จัดการส่งเสริมการ ขายของเชลล์ ผู้รับผิดชอบโครงการนี้ยืนยัน
ก็เป็นเรื่อง ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
และ ที่สำคัญผลพวง ที่เกิดขึ้นจากพ็อกเกตบุ๊คดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นฐานข้อมูลต่างๆ
รูปภาพจำนวนมาก ที่เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทเชลล์เอง รวมทั้งการปรับปรุงข้อมูล
เดิม ที่จำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชลล์ได้ตัดสินใจออกนิตยสารเล่มใหม่
ราย 2 เดือนขึ้น คือ "เที่ยวไทยไปกับเชลล์" ซึ่งวางขายฉบับ ที่ 1 ไปแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม
ที่ผ่านมา
หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นคู่แข่งของใครบนแผงหนังสือทั่วไปแน่นอน ถึงแม้ว่าเนื้อหาจะเกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั่วไทยสำหรับครอบครัวทางรถยนต์ ที่มีแนวคิดคล้ายๆ
กับหนังสือท่องเที่ยวอีกหลายเล่ม ที่มีอยู่แล้วก็ตาม เพราะหนังสือของเชลล์จะวางขายเฉพาะ ที่ปั๊มน้ำมันของเชลล์เท่านั้น
เหตุผลเป็นเพราะเชลล์ไม่ได้ห่วงยอดขาย ที่เกิดขึ้นมากเท่ากับจุดประสงค์หลัก ที่วางเอาไว้ชัดเจนตั้งแต่แรกเริ่มผลิต
พ็อกเกตบุ๊คเล่มแรกคือ ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นในประเทศไทย
โดยบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนทางด้านการเงินไปก่อน และ ที่สำคัญก็คือ ต้องการให้หนังสือเหล่านั้น เป็นจุดดึงดูดให้คนแวะเข้าปั๊มเชลล์บ้าง
"เมื่อเรามีสื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา สักวันหนึ่งเราหวังว่าเขาคงกลับมาใช้บริการกับเราบ้าง
เช่น มาเติมน้ำมัน มาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง นั่นคือ ความหวังของเชลล์" จักรชัยอธิบายถึงสาเหตุที่ไม่วางขายตามร้านหนังสือทั่วไป
ทั้งๆ ที่จะเป็นส่วนสำคัญ ที่จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น
แน่นอนเชลล์หวังอย่างยิ่งว่า โครงการนี้จะช่วยส่งเสริมภาพพจน์ที่ดีให้เกิดขึ้นกับบริษัทเอง
เช่นเดียวกับโครงการคืนกำไรให้สังคม ที่หลายๆ บริษัทกำลังทำในรูปแบบต่างๆ
กัน เพราะถึงแม้จะเป็นการขายแต่เชลล์ก็ตั้งราคาต่ำกว่าต้นทุน ที่แท้จริง
หนังสือเล่มแรก "คู่มือไทยเที่ยวไทย" ซึ่งจัดพิมพ์ไปแล้วประมาณ 4 ครั้ง
ยอดจำหน่ายประมาณ 3 แสน 3 หมื่นกว่าเล่มนั้น หนาถึง 400 หน้าจัดพิมพ์ด้วยกระดาษสี่สีทั้งเล่ม
จัดทำรูปเล่มอย่างสวยงามด้วยฝีมือของบริษัทในเครือแปลนกรุ๊ป ในราคาขายเพียง
60 บาทเท่านั้น
ในการขายหนังสือเล่มแรกนั้น ทั้งเชลล์ และททท.เองก็ไม่มั่นใจว่าจะเป็นที่สนใจหรือไม่
ดังนั้น จึงได้จัดทำกลยุทธ์ต่างๆ พ่วงไปด้วยคือ ในหนังสือทุกเล่ม จะมีใบสมัครให้กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวส่งไป
ที่ททท. ทาง ททท. ก็จะจัดทำพาสปอร์ต ให้ทุกคนที่สมัคร เมื่อเวลาไปท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ
ก็แวะเข้าปั๊มเชลล์ ที่ เข้าร่วมรายการ ซึ่งจะมีตราประจำจังหวัด นั้น ๆ ประทับลงไปในพาสปอร์ต
หากสะสมตราจังหวัดได้ครบตาม ที่กำหนดไว้ก็จะมีรางวัลให้ เช่น เที่ยวครบ 76
จังหวัด 10 ท่านแรกก็จะได้รางวัล
พ็อกเกตบุ๊คเล่มแรกยังมีเงื่อนไข ว่าต้องเติมน้ำมันประมาณ 300 บาทจึงจะแลกซื้อได้
แต่เล่มต่อๆ มาลูกค้าสามารถซื้อได้เลยโดยไม่ต้องเติมน้ำมันเชลล์แต่อย่างใด
เพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวไทยได้อย่างกว้างขวางแท้จริง
เล่ม ที่ 2 "อะเมซิ่งกรุงเทพฯ" เป็นเรื่อง ที่เจาะลึกถึงสถานที่ท่องเที่ยว
และสถานที่สำคัญๆ ในกรุงเทพฯ พร้อม มีแผนที่บอกตำแหน่งชัดเจน จัดพิมพ์ สี่สี
300 หน้า ราคา 90 บาท
"อะเมซิ่งทะเลไทย" เป็นอีกเล่มหนึ่ง ที่ขายดี เพราะในเล่มมีการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ที่สำคัญ
เส้นทางการเดินทาง จุดที่ตั้งในแผนที่พิมพ์สี่สี 320 หน้า ราคา 99 บาท
"อะเมซิ่งป่าเขาลำเนาไทย" หนา 364 หน้า สี่สีราคา 125 บาท รายได้ส่วนหนึ่ง
จากการขายหนังสือเล่มนี้ยังได้มอบให้ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ที่จังหวัดลำปางด้วย
และล่าสุดคือ พ็อกเกตบุ๊ค ฉบับเชลล์ชวนชิม พิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตมัน 4 สี
หนา 348 หน้า แนะนำร้านอาหารทั่วประเทศ แยกประเภทหมวดหมู่ของอาหารชัดเจน
ในราคาเล่มละ 110 บาท
หนังสือทุกเล่ม บริษัทเชลล์จะจ้างทีมงานขึ้นมาทำข้อมูลทางด้านเนื้อหา โดยการท่องเที่ยวจะช่วยดูแลในการตรวจสอบข้อมูล เพื่อให้มีความถูกต้องอย่างแท้จริง
จากยอดขาย ที่เพิ่มขึ้นโดยไม่คาดคิดมาก่อนเป็นเม็ดเงิน ที่ทำให้บริษัท เชลล์ได้นำมาทำโครงการอื่นๆ
เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์กับการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เช่น จัดทำโครงการ
"อะเมซิ่งบีช" เพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้แก่เยาวชน และประชาชนในท้องถิ่นร่วมกันอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ
และทางทะเล จัดโครงการ "คาราวานครอบครัวไทยเที่ยวไทย" เพื่อสัมผัสกับมรดกโลก ที่จังหวัดอยุธยา
รวมทั้งจัดรายการ สารคดี 1 นาที แนะนำสถานที่น่าสนใจในการท่องเที่ยวภายในวันเดียว
ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ประมาณ 8 โมงเช้า ทางช่อง 7
สำหรับนิตยสารเที่ยวไทยไปกับเชลล์ พิมพ์สี่สี ความหนาประมาณ 100 หน้า จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือ
การท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวโดยการขับรถท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการกลับเข้าไปสู่โครงการแรกเริ่มคือ
ไทยเที่ยวไทยทั่วไทยทางรถยนต์เหมือนเดิม โดยเนื้อหาหลักๆ และคอลัมน์ต่างๆ
ทางบริษัทเชลล์เป็นผู้กำหนด และ หาโฆษณาเอง แต่จ้างทีมงานจากข้างนอกมาทำ
พิเศษสุดตอนนี้ สมัครสมาชิก 4 เล่ม ในราคาเล่มละ 50 บาทเท่านั้น