|
ธนาคารนครหลวงไทย วันนี้ พอฝุ่นหายตลบ ก็พอจะเห็นรูปร่าง
นิตยสารผู้จัดการ( ธันวาคม 2526)
กลับสู่หน้าหลัก
ถ้าจะให้เปรียบธนาคารนครหลวงไทย ในวันนี้ กับเมื่อ 5-6 เดือนก่อน แล้วล่ะก้อ ต้องนับว่า ขณะนี้ฝุ่นได้สงบลงอย่างแน่นอนแล้ว และพอจะเห็นภาพได้ชัดขึ้นกว่าเก่ามาก
ภาพล่าสุด ก็คงออกมาในรูปนี้
ประธานกรรมการบริหาร(ดิเรก มหาดำรงค์กุล)
กรรมการบริหาร (ดิลก มหาดำรงค์กุล)
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดัการ( วัฒนา สุขพินิจธรรม) (ภุริช มหาดำรงค์กุล)
รองกรรมการผู้จัดการ (ชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล) (ดร.พร้อม ลุลิตานนท์)
ผู้จัดการอาวุโส (วิวัฒน์ วินิจฉัยกุล)
อาจจะดูพร้อมเพรียงกันดี แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว นครหลวงฯ ทุกวันนี้ ทำงานกันจริง ๆ ไม่กี่คน
ชัยโรจน์เป็นหัวเรือใหญ่ ในการสั่งงานโดยมีวิวัฒน์ วินิจฉัยนกุล เป็นมือขวาที่ชัยโรจน์ เชื่อถือมา
วิวัฒน์เอง ถึงแม้ จะถือตำแหน่งแค่ผู้จัดการอาวุโส แต่ขอบข่ายการรับผิดชอบสูงมากเพราะ คุมบริหารการเงินและแผนกต่างประเทศทั้งหมด
ภูนิช มหาดำรงค์กุล มาคุมสาขาทั้งหมด ซึ่งรายงานข่าวแจ้งว่าภูริชนั้นเป็นคนเก่ง ถึงแม้จะเพิ่งเข้ามาทำงานด้านธนาคาร แต่เรียนรู้เร็วและเป็นคนฉลาดอ่านคนออก และยึดถือเหตุผล เห็นหลักไม่สนใจความขัดแย้ง ถ้าคนนั้นทำงานจริง
“ภูริช น่าจะเป็น uccessor แทนดิลก ได้แต่ต้องไม่ใช่ ตอน 2-3 ปีนี้ อาจจะสัก 10 ปี ข้างหน้า” แหล่งข่าวแจ้งให้ทราบ
วัฒนา สุขพินิจธรรม ก็เป็นที่ปรึกษาของดิลก และเป็นคนคอยเชื่อมนครหลวงฯ กับ ธนาคารชาติ
สำหรับ บุญชู โรจนเสถียร กับทีมงานเดิมนั้น ตอนนี้เหลืออยู่เพียง พ.ต.ปานสรวง ชุมสาย ณ อยุธยา ที่ยังคงตำแหน่งผู้อำนวยการกลาง
ดร. ศุภชัย มนัสไพบูลย์ ยังอยู่ทางฝ่ายบุคคลและฝึกอบรม
ประกิจ มณีฉาย ยังอยู่วิจัยและการวางแผน ที่หายไปจากธนาคารแน่นอนคือ จิตเกษม แสงสิงแก้ว และวัฒนา ลัมพะสาระ ที่เคยเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ทั้งคู่มีข่าวว่าไปอยู่อาราเบียน-ไทย อินเวสเม้นท์ กับวิสิษฐ์ ตันสัจจา ได้พักหนึ่งแล้ว
อีกคนที่จากไปก็คือ สุรศักดิ์ เทวะอักษร ซึ่งตอนนั้นถูกดึงตัวมาจากการส่งเสริมเงินทุนไทยของวิวัฒน์ สุวรรณภาศรี
ส่วน ชาญ ธนาศุรกิจ อดีตผู้จัดการอาวุโส ก็จรออกไป หลังจากที่วิวัฒน์ วินิจฉัยกุล ถูกดึงเข้ามาคุมชาญ
บุญชู ก็ยังคงนั่งทำงานอยู่ตลอด แต่บทบาทก็เหลือเพียงที่ปรึกษาเพราะการทำงานทั้งหมด เป็นของพวกมหาดำรงค์กุล กับพรรคพวกเท่านั้นเอง
สำหรับการเพิ่มทุนนั้น “เพิ่มแน่ ๆ แต่จะค่อย ๆ เพิ่มไม่ใช่ฮวบฮาบ” แหล่งข่าว คนเดิมเพิ่มเติมให้
ในที่สุดภาพของธนาคารนครหลวง ก็ออกมาให้เห็นว่ามหาดำรงค์กุลได้ตามที่ตัวเอง ต้องการ ถึงแม้จะต้องวุ่นวายบ้างในช่วงต้น
ตอนนี้ ก็คงต้องเป็นบทพิสูจน์ของพวกมหาดำรงค์กุลแล้วว่า ธนาคารนี้ ไม่ได้ถูกบริหารไปเพื่อผลประโยช์น์ของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ และเครือญาติเท่านั้น
ก็คงอีกไม่นาน2-3 ปีเราก็จะรู้ว่า คำกล่าวหาของใครถูกหรือผิด เมื่อมีการขัดแย้งช่วงต้น
ในขณะนี้ ก็ค้าขายกินดอกเบี้ยไปตามปกติก็แล้วกัน สำหรับธนาคารไหหลำแห่งนี้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|