|
เนาวรัตน์ พัฒนโนดม ซูเปอร์เซลส์แมน ที่ซูเปอร์แมนยังขยาด
นิตยสารผู้จัดการ( ธันวาคม 2526)
กลับสู่หน้าหลัก
ชื่อเนาวรัตน์ พัฒโนดม นั้นเดินคู่ไปกับคำว่า “พ่อค้าอาวุธ สงคราม” และขึ้นชื่อว่า “พ่อค้าอาวุธสงคราม” แล้วคนทั่วไปก็มักจะนึกถึงยุทธจักรการซื้อขายระดับหมื่นล้าน ที่ต้องมีกลเม็ดพิเศษระยิบระยับ แต่ความระยิบระยับของเนาวรัตน์ จริงๆ แล้วกลับไม่ค่อยทราบกันเท่าไร
“นอกจากประวัติสั้นๆ และผลงานล่าสุดที่เนาวรัตน์เพิ่งขายเฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 412 กับรถยานเกราะลำเลียง พลวี 150 รวมทั้ง 2 รายการเป็นเงินหลายพันล้านบาทแล้ว คงไม่ค่อยมีใครรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาไปมากกว่านั้น โดยเฉพาะกลเม็ดเด็ดพรายนี่ยาก...” แม้แต่แหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับวงการค้าอาวุธเองก็ยอมรับตรงๆ
เนาวรัตน์เคยเล่าถึงประวัติส่วนตัวของเขาเอง เขาเรียนจบชั้นมัธยมจากกรุงเทพคริสเตียน จากนั้นก็เข้าเรียนในคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ “ไม่เคยเรียนด้านการทหารมาก่อนเลยครับ แต่บังเอิญนิสัยผมชอบทางบู๊เท่านั้น...” เนาวรัตน์กล่าว ซึ่งก็โยงไปถึงเรื่องการตัดสินใจเข้าทำงานกับบริษัทค้าอาวุธในทันทีที่เรียนจบมา
บริษัทค้าอาวุธนั้นชื่อ อาทร-ไสว แอนด์ซัน มีคุณอาทร สังขะวัฒนะ เป็นเจ้าของ ซึ่งต้องนับเป็นการตัดสินใจกระโดดเข้าวงการนี้อย่างถูกช่อง เพราะเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ขณะที่เนาวรัตน์เริ่มงานกับคุณอาทรนั้น อาทร-ไสว แอนด์ซัน คือเจ้ายุทธจักรที่แท้จริงของวงการค้าอาวุธบ้านเรา “ช่วงนั้นเป็นยุคจอมพลสฤษดิ์ พ่อค้าอาวุธที่กุมกองทัพไว้ นอกจากคุณอาทรแล้วก็เห็นจะมีเสี่ยเภา หรือ เภา สิริสัมพันธ์ เท่านั้น แต่พอมายุคจอมพลถนอม-ประภาสนี่ เหลือคุณอาทรโดดเด่นอยู่คนเดียว” ...แหล่งข่าวผู้ทราบเรื่องในอดีตเป็นอย่างดีช่วยเสริมอีกแรง
เนาวรัตน์ทำงานจนเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจ เวลาคุณอาทรจะไปเจรจาเรื่องการค้าที่ไหนก็จะต้องพาเขาไปด้วยในฐานะ “มือขวา” สายสนกลในเรื่องการค้าอาวุธจึงมิใช่เรื่องดำมืดอีกต่อไปสำหรับเขา
อยู่กับอาทร-ไสว แอนด์ซัน 3 ปี เนาวรัตน์ก็ลาออกมาตั้งบริษัทค้าอาวุธของตัวเอง ชื่อบริษัท คอมเมอร์เชียล แอสโซ วิเอทส์ มีทุนจดทะเบียน 7 ล้าน 5 แสน บาท “พอดีลูกชายนายห้างกลับมาจากเมืองนอก ขืนอยู่ต่อไปก็จะกลายไปกีดกันเขา ผมก็เลยแยกออกมาทำเอง...” เขาให้เหตุผลที่ต้องลาออกมาตั้งบริษัทใหม่
แต่ช่วงระยะเวลา 10 กว่าปีที่ลุยยุทธจักรนี้ด้วยลำแข้งตัวเอง เนาวรัตน์ก็ประสบความสำเร็จการเป็น “นักขาย” ของเขาอย่างงดงาม จนกลายเป็น “ยอดนักขายอาวุธสงคราม” ในปัจจุบัน
มีคนพยายามถามเขาว่า มีเทคนิคอย่างไรจึงก้าวขึ้นมาได้ถึงขั้นนี้ เนาวรัตน์ตอบกว้างๆ ว่า “ค้าขายกับราชการ ผมก็ต้องดูงบประมาณของรัฐ ว่าเงินที่ไปกู้นั้น ส่วนใหญ่เอามาทำงานด้านไหน ช่วงก่อนนั้นเขาเน้นด้านความมั่นคง การพัฒนากองทัพ ผมก็จับงานด้านนี้ ตอนหลังเขามาเน้นด้านเศรษฐกิจ เกี่ยวกับสนามบิน เขื่อนกั้นน้ำ โครงการแก๊สธรรมชาติ ผมก็หันมาขายพวกนี้ สนามบินเขาต้องการอุปกรณ์ต่างๆ ....เรดาร์หรือไฟสนามบิน พวกนี้แพงมาก ผมก็ขายพวกนี้ ถังแก๊ส ถังน้ำมัน ผมทำทั้งนั้น แต่มีชื่อก็เรื่องค้าอาวุธ เพราะขายทีหนังสือพิมพ์ก็เอาไปลงข่าว...”
ที่จริงคำตอบของเนาวรัตน์ก็คงไม่สะท้อนถึงแทคติกพิเศษอะไรมากมาย เพราะนักขายก็คิดกันอย่างนี้เป็นส่วนใหญ่ และก็คงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่มีอะไรพิเศษๆ อยู่มากกว่านั้น
ครั้นแล้วแหล่งข่าวระดับสูงคนหนึ่งก็กระหืดกระหอบรายงานเข้ามาว่า “ผมรู้แทคติกพิเศษอันหนึ่งของเนาวรัตน์แล้วล่ะ”
“คุณรู้ไหม เฉพาะคนขับรถประจำตัวเนาวรัตน์นี่ เนาวรัตน์อนุญาตให้ใช้จ่ายเงินในนามของเขาได้ทันที โดยไม่ต้องแจ้งก่อน 2 แสนบาท” แหล่งข่าวเล่า ซึ่งใครฟังแล้วก็พูดคำเดียวว่าเหลือเชื่อ
“จริงๆ ที่เนาวรัตน์ต้องทำอย่างนี้ ก็เผื่อเขาต้องไปพบลูกค้าที่ไหน อย่างเช่นไปพบกันที่โรงแรมหรูๆ สักแห่ง คนขับรถก็ต้องคอยอยู่แถวล็อบบี้หรือในห้องอาหารใช่ไหม ทีนี้ถ้าบังเอิญมีท่านผู้หลักผู้ใหญ่บางคนโผล่เข้ามา คนขับรถนี่จะมีหน้าที่ต้องปราดเข้าไปแทคแคร์ทันที....ท่านครับ แหม เจ้านายผมบ่นระลึกถึงท่าน แล้วสั่งผมว่าให้ช่วยรับใช้ท่านแทนด้วย เชิญครับ วันนี้เจ้านายผมขออนุญาตรับใช้สักครั้ง...
“ท่านอยากจะทานอะไร จะไปไหน คนขับรถจัดการให้เสร็จ นี่แหละถึงต้องให้วงเงินไว้ 2 แสน เพื่อกรณีอย่างนี้โดยเฉพาะ...” เล่าถึงตรงนี้บวกกับความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าว คนที่ฟังชักจะเชื่อขึ้นมาตงิดๆ
เพราะอย่างนี้ ถึงได้จั่วหัวว่า อันเนาวรัตน์ พัฒโนดม นั้นเขาเป็นซูเปอร์เซลส์ ที่แม้แต่ซูเปอร์แมนที่เก่งกาจสามารถ แค่ไหนก็ยังต้องขยาด
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|