มื้อเที่ยงเลี้ยงการศึกษากับ P&G


นิตยสารผู้จัดการ( สิงหาคม 2543)



กลับสู่หน้าหลัก

ความยิ่งใหญ่ของพีแอนด์จี เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ภาพพจน์ที่ดีของบริษัท เป็นสิ่งหนึ่ง ที่ผู้บริหารได้ให้ ความสำคัญอย่างมากตลอดเวลา

บริษัทพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (พีแอนด์จี) เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก ที่เมืองซินซินเนติ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 2380 หรือเมื่อ 163 ปีมาแล้ว ปัจจุบัน มีสินค้า ที่วางขายในตลาดประมาณ 300 ตราสินค้า อาทิ แพมเพอร์ส, วิสเปอร์, ออยล์ ออฟ โอเลย์, แพนทีน โปร-วี, วิคส์, พริงเกิลส์, คาเมย์, ไอเวอรี่ ไทด์ และแอเรียล

พีแอนด์จีก่อตั้งในประเทศไทย เมื่อปี 2530 ปัจจุบันมีพนักงาน 900 คน ประจำอยู่ในสำนักงานในกรุงเทพฯ และ ที่นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ และศูนย์ กระจายสินค้าภูมิภาค โรงงานในเมืองไทย

"โครงการมื้อเ ที่ยงเลี้ยงการศึกษา" เป็นโครงการคืนกำไรสู่สังคม ที่ใหญ่ที่สุด และมีเครือข่าย ที่กว้างขวางที่สุดของพีแอนด์จีในเมืองไทย โดยเริ่มดำเนินการ ครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2542 ซึ่งเป็นช่วง ที่เด็กนักเรียนส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ ที่เกิดขึ้น

พีแอนด์จีตั้งเป้าหมายไว้ว่าในระยะแรกจะต้องระดมทุนให้ได้จำนวน 15 ล้าน บาท โดยผ่านทางการจัดกิจกรรมต่างๆ ภายในเวลา 100 วันหลังเปิดตัวโครงการ และก็สามารถหาเงินสมทบกองทุนได้แล้วจริงในจำนวนประมาณ 19 ล้าน 7 พันบาท เกินกว่าเป้า ที่วางไว้ด้วยซ้ำไป จำนวนเงินนี้เพียงพอ ที่จะจัดหาอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนกว่า 15,000 คนเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปีการศึกษา หรือประมาณ 3,000,000 มื้ออาหารกลางวัน

เงินทุนก้อนนี้ได้มีการมอบให้กับ ดร.พนม พงษ์ไพบูลย์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการอย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อเดือนเมษายน 2543 นี้

พีแอนด์จีมีพันธมิตรมากมาย ที่ให้การสนับสนุนการจัดหาเงินสมทบในช่วงแรก เช่น รายการดาวล้านดวง ห้างบิ๊กซี คาร์ฟูร์ โลตัส แม็คโคร เซเว่น-อีเลฟเว่น เดอะมอลล์ ท็อปส์ เบเกอรี่มิวสิค ธนาคารกรุงเทพ และองค์การโทรศัพท์ฯ รวมทั้งคนไทยจำนวนมาก ที่ซื้อสินค้าของบริษัทในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ปีที่ผ่านมา เพราะเงิน 1% จากยอดจำหน่าย ในช่วงนั้น จะเข้ามาสมทบกับโครงการนี้

บริษัทยังได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องหาเงินให้ครบ 50 ล้านบาทภายในระยะเวลา 3 ปีของการดำเนินงาน

เมื่อได้เม็ดเงินมาแล้ว ขั้นตอนการจัดสรรเงินก้อนนี้ให้กับโรงเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ และได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่เป็นเรื่อง ที่สำคัญอย่างมาก ทางพีแอนด์จี จึงได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.) กำหนดแนวคิดไว้อย่างกว้างๆ ว่า จะไม่ใช่เพียงการให้เงินเท่านั้น หากเป็นการช่วยเหลือให้ผู้รับสามารถช่วยเหลือตนเองอย่างต่อเนื่องได้

ดังนั้น เงินจำนวนหนึ่งจะมอบให้ โรงเรียน ที่ยากจนที่สุดในประเทศ ตามหลักเกณฑ์ของสปช. แต่ทางโรงเรียนเองจะต้องไม่ใช้ในการซื้ออาหารกลางวันโดยตรง แต่จะนำไปซื้ออุปกรณ์ทาง การเกษตร เช่น เมล็ดพันธุ์พืช และลูกไก่ นำไปเพาะปลูก และเลี้ยง เพื่อนำผลผลิตมาประกอบเป็นอาหารกลางวัน ด้วยวิธีนี้ ทางพีแอนด์จี หวังว่านอกจากจะเป็นการช่วยเหลือพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของ เด็กด้วยโภชนาการที่ดีขึ้นแล้ว ยังทำให้เด็กได้เรียนรู้ทักษะการดำรงชีวิต และความสำคัญของการพึ่งพาตนเองตามหลักเศรษฐกิจแบบพอเพียงอีกด้วย รวมทั้งช่วยให้เด็กได้รับความรู้ ที่สามารถนำไปถ่ายทอดสู่ชุมชนของตนเองต่อไป

ทางสปช. และพีแอนด์จีประมาณ ไว้ว่าจะสามารถแบ่งสรรงบประมาณทั้งหมดนี้ให้กับโรงเรียนได้ประมาณ 500 โรงเรียนทั่วประเทศ และจะทยอยมอบเงินทุนให้กับโรงเรียน ที่จะได้รับคัดเลือกภายในปีนี้

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2543 ที่ผ่านมา พีแอนด์จี ประเทศไทย กลุ่มผู้บริหารของบริษัทพันธมิตร และเจ้าหน้าที่ของสปช. พร้อมทั้งผู้สื่อข่าวกลุ่มหนึ่ง จึงได้เดินทางไปเยี่ยมชมโรงเรียนเพชรหนองขาม สังกัดสปช.ในจังหวัดนครราช สีมา ซึ่งมีนักเรียนทั้งหมด 678 คน มีครู จำนวน 32 คน และ 1 ใน 3 ของนักเรียน ไม่มีอาหารกลางวันรับประทาน

ปัจจุบัน โรงเรียนนี้มีการดำเนินกิจกรรมคล้ายคลึงกับแนวความคิดของ พีแอนด์จีอยู่แล้ว โดยผู้บริหารโรงเรียนเองก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จัดหาอาหาร กลางวันให้เด็กอย่างยั่งยืน ด้วยการให้เด็กๆ ช่วยกันเลี้ยงปลาในบ่อปลา และนาข้าว มีการเลี้ยงเป็ด เลี้ยงสุกร ปลูกผักสวนครัว ปลูกอ้อย มะม่วง ฝรั่ง ส้ม ขนุน ชมพู่ โดยใช้ ที่ดินส่วนหนึ่งในบริเวณโรงเรียนให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่

ลักษณะของโรงเรียนแบบนี้มีคุณสมบัติตรงกับหลักเกณฑ์ ที่ได้วางไว้ จึงได้มี การมอบเงินสนับสนุนเพิ่มเติม อีก 1 แสนบาท โดยมีความหวังว่า ในปีการศึกษาหน้า เด็กๆ จะได้มีโอกาสในการเรียนอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องฟังเสียงท้องร้องไปด้วย อย่างแน่นอน

แม้จะมีการมอบเงินก้อนแรกกันไปแล้ว ภาระหน้าที่ของพีแอนด์จีก็ยังไม่หมดไป เมื่อผู้บริหารได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกลุ่มพันธมิตรดังกล่าวในการจัดหาเงินทุน ตลอดจนบทบาทหน้าที่ ที่เพียบพร้อมของทีมงานจากกระทรวงศึกษาธิการที่จะต้องเป็นผู้บริหาร และดำเนินการทางด้านกองทุนของโครงการ และดูแลผลการปฏิบัติงานของโครงการต่อไป ทำให้เพิ่มความเชื่อมั่น ที่จะตั้งเป้าหมายขั้นต่อไปให้สูงขึ้น นั่นคือ มีเป้าหมาย ที่จะจัดหาเงินมาสมทบทุนโครงการ ให้ได้มากกว่า 50 ล้านบาท ในช่วงปีที่ 3 ของการดำเนินโครงการ

โดยในขณะนี้ ผู้ที่สนใจอาจจะบริจาคเข้าโครงการได้โดยตรง ที่บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ สาขากล้วย น้ำไท ชื่อบัญชี พีแอนด์จี โครงการมื้อเ ที่ยงเลี้ยงการศึกษา รวมทั้งการซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท รวมทั้งเข้าร่วมโครงการพิเศษต่างๆ ที่จะมีขึ้น มร.เจฟฟ์ เจ.ฮันส์เบอร์รี่ ผู้ดูแลโครงการมื้อเ ที่ยงเลี้ยงการศึกษา ฝ่ายพีแอนด์จี ประเทศไทย กล่าวย้ำว่า

"ผมเชื่อมั่นว่า ทีมงานทั้งหมดนี้จะดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย ที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน ซึ่งนั่นก็หมายถึง ชีวิตความ เป็นอยู่ของเด็กไทยมากกว่า 4 หมื่นคนทั่วประเทศจะได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นด้วย"



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.