|
ไทยธนาคารลุยบริษัทในเครือเพิ่มรายได้
ผู้จัดการรายวัน(12 พฤษภาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
ไทยธนาคารพร้อมเดินเครื่องธุรกิจการเงินอย่างเต็มรูปแบบ ประกาศลงแข่งในตลาดอย่างเต็มที่หลังหลุดภาระแคปส์จากทางการในปีนี้ และตั้งบริษัทในเครือสนับสนุนธุรกิจแบงก์ครบแล้ว ระบุในระยะ 3 ปีข้างหน้า หวังเพิ่มสัดส่วนรายได้จากบริษัทในเครือสูงกว่า 30% พร้อมเล็งเปิดตัวบริษัทบีทีลีสซิ่ง เร็วๆ นี้ ทำธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ทั้งใหม่และเก่า ประเดิมทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 60 ล้านบาท ก่อนจะทยอยเพิ่มตามการเติบโตของธุรกิจถึง 200 ล้านบาท วางเป้าเปิดสาขาต่างจังหวัด 3 แห่ง ลุยลูกค้าต่างจังหวัด คาดปีแรกจะปล่อยสินเชื่อได้หลัก 100 ล้านบาทขึ้นไป
นายพีรศิลป์ ศุภผลศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) หรือ BT เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานว่า ธนาคารมีนโยบายที่ดำเนินธุรกิจครบวงจร โดยปัจจุบันธนาคารมีบริษัทในเครือที่สนับสนุนการดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างครบถ้วนแล้ว อาทิ บริษัทบีทีประกันภัย บริษัทประกันชีวิต บริษัทหลักทรัพย์บีที บริษัทบีทีที่ปรึกษาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบีที บริษัทบีทีเวิลด์รีส และล่าสุดเตรียมที่จะเปิดบริษัทบีทีลีสซิ่ง
หลังจากที่เปิดบริษัทลีสซิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ธนาคารคงจะหยุดการสรรหาบริษัทในเครือที่จะเสริมธุรกิจธนาคาร และจะกลับเข้ามาปรับปรุงระบบงานภายในของธนาคาร เพื่อให้ก้าวเข้าสู่การดำเนินธุรกิจ ภายใต้การแข่งขันเต็มรูปแบบ โดยจะเริ่มจากปี 2549 นี้ เพราะธนาคารมีกำหนดไถ่ถอนตราสารหนี้กึ่งทุน หรือแคปส์ในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะทำให้ธนาคารมีแต่ทรัพย์สินที่ดีเพื่อขยายธุรกิจต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ ธนาคารมีเป้าหมายปรับโครงสร้างรายได้ โดยภายในระยะ 3 ปีข้างหน้า จะมีสัดส่วนรายได้จากบริษัทในเครือ 20-30% ของรายได้ทั้งหมด จากปัจจุบันที่มีรายได้ส่วนนี้ประมาณ 5%
"เริ่มแรกต้องให้เวลาบริษัทในเครือต่างๆ เพราะเพิ่งเริ่มเปิดกิจการในปีนี้ กว่าจะถึงจุดคุ้มทุนและเข้าสู่ตลาดได้ต้องสร้างฐานลูกค้า และความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า คาดว่าใช้เวลาไม่นานมาก 1-2 ปี เพราะทีมงานของแบงก์มีประสบการณ์ ความชำนาญ เป็นมืออาชีพ ดังนั้นจึงมีความเข้าใจตลาดลูกค้า สามารถออกผลิตภัณฑ์ได้ตรงใจมากที่สุด"
นายวิศาลท์ บูรณสันติกูล ผู้อำนวยการสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยธนาคาร ในฐานะรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัทบีทีลีสซิ่ง จำกัด กล่าวว่า ธนาคารเตรียมที่จะเปิดตัวบริษัทบีทีลีสซิ่งเร็วๆ นี้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างเตรียมสำนักงานใหญ่ และสาขาอีก 3 แห่ง คือ กรุงเทพฯ เป็นสำนักงานใหญ่ และต่างจังหวัดคือ จังหวัดพิษณุโลก นครราชสีมา ระยอง โดยขออนุมัติจากคณะกรรมการธนาคาร เพื่อตั้งด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท แต่เริ่มต้นที่ 60 ล้านบาทก่อน หลังจากนั้นจะมีการขยายตามการเติบโตของธุรกิจ
"บริษัทพร้อมจะลุยธุรกิจเช่าซื้อเต็มที่ จากบริษัทดังกล่าวจะเป็นบริษัทในเครือเล็กๆ มีบุคลากรที่พร้อม มีความสัมพันธ์ที่ดีกับดีลเลอร์รถยนต์ ดังนั้นจึงสามารถเดินหน้าได้ทันที โดยเป้าหมายปล่อยสินเชื่อปีนี้เป็นหลัก 100 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งในช่วงแรกสัดส่วนลูกค้าอาจจะอยู่ในกรุงเทพฯ ก่อนจะขยายไปสู่ต่างจังหวัดให้ถึง 60% และคาดว่าจะสามารถคุ้มทุนภายใน 2 ปี"
นายวิศาลท์ กล่าวว่า บริษัทจะทำธุรกิจเช่าซื้อทั้งรถใหม่และรถมือสอง ที่จะนำเสนอบริการและดอกเบี้ย เป็นที่ถูกใจกับลูกค้า แต่กลยุทธ์จะไม่เน้นการแข่งขันเรื่องของราคามากนัก โดยจะเข้าไปเพิ่มบริการที่เป็นแพกเกจที่ครบสามารถตอบคำถามและตรงใจลูกค้ามากที่สุด คาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี
"นอกจากจะทำลีสซิ่งเป็นรายบุคคลแล้ว บริษัทยังมีแผนจะทำธุรกิจเช่าซื้อสำหรับนิติบุคคล โดยบริษัทใดหรือห้างร้านที่ต้องการรถเช่า สามารถเข้ามาปรึกษากับบริษัทได้ แต่ธุรกิจดังกล่าวกำลังรอความชัดเจนเรื่องของภาษี รวมทั้งขอดูผลจากการทำธุรกิจเช่าซื้อส่วนบุคคลก่อน"
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|