|
เมเจอร์ผนึกโนเกียเปิดโรงใหม่ลุยเซกเมนเตชันตั๋ว 170 บาท
ผู้จัดการรายวัน(11 พฤษภาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
เมเจอร์เน้นทำเซกเมนเตชัน ล่าสุดจับมือโนเกียเปิดโรงภาพยนตร์แพลทินัม หวังกระตุ้นยอดรายได้โตเท่าตัว คาดยอดลูกค้าปีแรก 5 แสนราย เผยลูกค้าหันใช้สื่อในโรงภาพยนตร์มากขึ้น เพราะราคาถูกและเข้าถึงกลุ่มลูกค้า พร้อมตั้งเป้ายอดรายได้สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ปีนี้โต 70-80%
นายอนวัช องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหารฝ่ายการตลาด บริษัทเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้เมเจอร์เน้นการทำการตลาดแบบเซกเมนเตชัน โดยแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม คือ 1. แบ่งตามคน ด้วยการทำ เอ็ม คลับ เพื่อเป็นเครื่องมือวัดพฤติกรรมของลูกค้าว่านิยมไปดูภาพยนตร์ที่ไหน เป็นต้น 2. การทำโปรโมชันให้แก่โรงภาพยนตร์ ซึ่งแต่ละแห่งจะทำไม่เหมือนกัน 3. การจัดอีเวนต์ต่างๆ เช่น จัดงานตามหนังที่ฉาย 4. ด้านฮาร์ดแวร์ เช่น การแบ่งโรงภาพยนตร์เป็นแพลทินัม หรือโกลด์คลาส และการสร้างแบรนด์ เป็นต้น
ล่าสุดเมเจอร์ ซีนีแอดได้ร่วมมือกับโนเกีย ในการเป็นพันธมิตรร่วมกัน โดยทางโนเกีย ได้ใช้โรงภาพยนตร์แพลทนัมของเมเจอร์ เปิดภายใต้ชื่อใหม่ "โนเกีย แพลทินัม สกรีน" จำนวน 2 สาขา คือ ที่เมเจอร์ รัชโยธิน 2 โรง และเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า 1 โรง ซึ่ง 1 โรงจะมี จำนวน 100 ที่นั่ง โดยราคาตั๋ว 170 บาท คาดว่ารายได้จากโรงภาพยนตร์แพลทินัมจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวและจำนวนลูกค้าปีแรกคาดว่า 5 แสนราย
ทั้งนี้ ความร่วมมือกันในครั้งนี้เกิดจากการที่โนเกียและเมเจอร์เป็นพันธมิตรร่วมกันมานานกว่า 5 ปี และทั้ง 2 บริษัทยังมีคอนเซ็ปต์ตรงกัน อาทิ แบรนด์ทั้งของโนเกียและเมเจอร์ที่มีความเป็นพรีเมียมเหมือนกัน, ภาพลักษณ์ของสินค้าตรงกัน, การมีเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ และนโยบายทางการตลาดที่เหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 2 บริษัทมีการทำการตลาดร่วมกันมาหลายครั้งแล้ว ทั้งกิจกรรมและโฆษณา เป็นต้น
นายบ็อบ แมคดูกอล กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารลูกค้าและการตลาด บริษัทโนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าของโนเกีย โดยเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ลูกค้าจะได้สิทธิพิเศษ เช่น การทำภาพยนตร์หรือหนังสั้นผ่านทางมือถือของโนเกีย ซึ่งขณะนี้โนเกียมีมือถือกว่า 18 รุ่น ที่มีกล้องและสามารถถ่ายภาพได้
นายนิธิ พัฒนภักดี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เมเจอร์ ซีนีแอด จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารสื่อโฆษณาครบวงจร ในเครือบริษัทเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากปัจจัยลบต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะทั้งราคาน้ำมัน หรืออัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้เจ้าของสินค้าบางรายตัดงบประมาณที่ใช้ผ่านโทรทัศน์และวิทยุ แต่หันมาใช้สื่อและจัดกิจกรรมในโรงภาพยนตร์แทน เนื่องจากมีอัตราค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า และสามารถเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม (นิช มาร์เกต) ได้มากขึ้น จึงทำให้ไตรมาสแรกที่ผ่านมาบริษัทฯ มีรายได้จากการขายสื่อเพิ่มขึ้น100% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยอัตราค่าใช้จ่ายสื่อโฆษณาผ่านทีวีจะมีค่าใช้จ่าย 100,000 บาทต่อครั้ง ส่วนสื่อโรงภาพยนตร์จะอยู่ที่ 20,000 บาทต่อ 30 วินาทีต่อสัปดาห์
สำหรับยอดรายได้ปีที่แล้วของบริษัทเมเจอร์ ซีนีแอด จำกัด มีรายได้ 250 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะโตขึ้น 70-80% จากการที่ลูกค้าหันมา จัดกิจกรรมบีโลว์ เดอะ ไลน์ควบคู่การใช้สื่อ มีเดียในโรงภาพยนตร์มากขึ้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายสื่อในโรงภาพยนตร์มีราคาถูก เริ่มต้นประมาณ 5 แสน-10 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ลูกค้าที่มาใช้บริการของบริษัทฯ มีครอบคลุมทุกกลุ่มแล้ว ทั้งกลุ่มไอที, มือถือและค่ายโอเปอเรเตอร์ เป็นต้น อีกทั้งขณะนี้มีลูกค้าใหม่กำลังเจรจาอยู่ เช่น ยูนิลีเวอร์ และธุรกิจประกันภัย ส่วนยอดรายได้การจำหน่ายตั๋วปี 2547 ของเมเจอร์มียอด 20 ล้านใบ ปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 25 ล้านใบ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|