เอไอเอสปฏิบัติการ เปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้ง เปิดหัวหอกใหม่หน่วยงานควบคุมคุณ-ภาพเครือข่าย
เน้นสร้างความเชื่อมั่นลูกค้า
ประสิทธิภาพเหนือชั้นกว่าคู่แข่งทั้งพื้นที่ให้บริการเครือข่ายครอบคลุมสูงสุด
โทร.เข้า-ออกได้อย่างไร้ขีดจำกัด เผยจ้างบริษัทตรวจสอบภายนอกวัดคุณภาพเครือข่ายทุกค่ายเปรียบเทียบการใช้จริง
พร้อมยกระดับมาตรฐานเทียบชั้นระดับสากล นายพีรเวท กิจบูรณะ ผู้จัดการ สำนักควบคุมคุณภาพเครือข่าย
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส
เปิดเผยว่าเอไอเอสสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคครั้งใหม่ ด้วยการจัดตั้งหน่วยงานใหม่
"Network Quality" เพื่อควบคุมคุณภาพเครือข่าย
โดยมุ่งเน้นการพัฒนาแผนงานด้านเครือข่ายให้เกิดการสอดประสานกันทั้งองค์กร
เพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นมากในปัจจุบัน "จากเดิมเอไอเอสมีการควบคุม
คุณภาพในแต่ละหน่วยงาน แต่การตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมาเพื่อดูแลภาพรวมทั้งหมด
และกำหนดเป็นแผนงาน สำหรับทุกหน่วยงานให้เดินตามแนว ทางมาตรฐาน
ซึ่งทางเอไอเอสได้ร่วมมือกับผู้ถือหุ้นอย่างสิงเทลที่มีประสบ การณ์จากต่างประเทศ
ช่วยกำหนดมาตรฐานที่ดีที่สุด
โดยเชื่อว่าสิ่งที่เอไอเอสได้ลงมือไปจะสามารถสร้างมาตรฐานได้เช่นเดียวกับบริษัทระดับโลก"นายพีรเวทกล่าว
ทั้งนี้มาตรฐานการจัดการที่เอไอเอสตั้งขึ้นแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่
1.พื้นที่ให้บริการของเครือข่ายต้องครอบคลุม (Coverage) เพื่อให้ เกิดการสอดคล้องกับความต้องการใช้งานของผู้บริโภคในแต่ละบริเวณอย่างแท้จริง
โดยจะต้องสามารถปรับเปลี่ยนแผนงานได้อย่างทันตามสถาน การณ์ความต้องการที่เกิดขึ้น
2.ความสามารถในการเข้าถึงระบบ (Accessibility) คือสามารถโทร.เข้า-ออกได้อย่างไร้ข้อจำกัดในทุก
พื้นที่
และ 3.ความีเสถียรภาพของระบบ (Reliability) การสร้างความ เชื่อามั่นในการใช้งาน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง สัญญาณคมชัดปราศจากเสียงรบ กวนและโทร.ได้อย่างต่อเนื่อง
"ที่ผ่านมาเอไอเอสให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการพัฒนาคุณภาพของเครือข่ายในทุกๆ
ด้านอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการขยายเครือข่ายที่มีความครอบคลุมสูงสุด
รวมถึงมีศักยภาพพร้อมรองรับการใช้งานอย่างเพียงพอ ทั้งหมดถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการให้บริการ"
นายพรีเวทกล่าว นอกจากนี้ เอไอเอสยังมีการพัฒนาเครือข่ายในเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา
In Building Coverage หรือ Voice Quality จึงต้องมีการจัดตั้งหน่วยงานควบคุมคุณภาพของเครือข่าย
เพื่อสรุปคำร้องเรียนลูก ค้าและความต้องการของผู้บริโภค
จากนั้นจะทำหน้าที่วิเคราะห์และจัดทำเป็น เกณฑ์เพื่อวัดและสร้างมาตรฐานในการจัดการ
และควบคุมคุณภาพเครือ ข่ายเอไอเอสต่อไป นายพรีเวท กล่าวว่างานด้านการ
พัฒนาคุณภาพถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ดังนั้นหน่วยงานควบคุมคุณภาพ เครือข่ายไม่เพียงยึดมาตรฐานในเชิงวิศวกรรมเพื่อประกอบการจัดการด้าน
แผนงาน
แต่จะต้องยึดมุมมองจากผู้ใช้บริการมาใช้เป็นส่วนประกอบหลัก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและมอบบริการ
ที่มีคุณภาพตรงใจสูงสุดให้ผู้ใช้บริการ "ณ
วันนี้เครือข่ายและคุณภาพของการของเอไอเอสดีที่สุดจากบรรดา ผู้ให้บริการ
จุดนี้ทำให้เราไม่สามารถหยุดนิ่งอยู่กับที่ได้ จะต้องมีการพัฒนา
รูปแบบการควบคุมคุณภาพให้เหนือมาตรฐานทั้งคู่แข่งและมาตรฐานระดับสากล เพื่อการบริการที่ดีที่สุด"
นายพรีเวทกล่าว สำหรับการเปลี่ยนแปลงในช่วงเริ่มต้นของการจัดตั้งหน่วยงานใหม่
จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานระหว่างหน่วยงานให้เกิดการสั่งงานแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วที่สุด
เพราะวันนี้การสรุป
รายงานเรื่องคุณภาพเครือข่ายต้องมีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน ต่างจากที่ผ่านมาที่จะสรุปกันทุกเดือน
เนื่องจากปัจจุบันฐานลูกค้าของเอไอเอสมีมากกว่า 7 ล้านราย
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับคุณภาพเครือข่ายจึงต้องเป็นสิ่งที่ได้รับการดูแลอย่างทันเวลาและรวดเร็วที่สุด
นายพรีเวท กล่าวเสริมว่าในปีนี้การตรวจสอบคุณภาพเครือข่ายจะลงลึกไม่เฉพาะการโทร.เข้า-
ออกและบริการทั่วไปเท่านั้น แต่จะมีการตรวจวัดคุณภาพของเสียงด้วย โดยเอไอเอส
เตรียมงบประมาณในการซื้ออุปกรณ์ตรวจสอบกว่า 20 ล้านบาท
เพื่อให้สามารถวิเคราะห์วิจัยปัญหาในเชิงลึกได้มากที่สุด นอกจากนี้เอไอเอสยังได้ว่าจ้างบริษัทตรวจสอบภายนอก
ในการตรวจ สอบคุณภาพเครือข่าย
เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เอไอเอสกำลังดำเนินการอยู่เป็นไปตามมาตรฐานที่วางไว้หรือไม่
รวมทั้งจะมีการเปรียบเทียบการตรวจ สอบเครือข่ายระหว่างผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายอื่นด้วย
ซึ่งจะเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าคุณภาพ เครือข่ายของเอไอเอสดีกว่าผู้ให้บริการ
รายอื่นทุกราย