|
ตลาดสีทาอาคารโหมแข่งเดือดผู้ประกอบการแห่ออกนวัตกรรมใหม่ชิงแชร์ตลาด
ผู้จัดการรายวัน(6 พฤษภาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
ผู้ผลิตสีแห่ออกผลิตภัณฑ์ใหม่หวังชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม "โจตัน" ออก 3 สีทาอาคารใหม่เจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียม ตั้งเป้าขึ้นแท่นอันดับ 2 ภายใน 3-5 ปี ด้าน "เดลต้า" ไม่น้อยหน้าออกเทคโนโลยีสี Protech primer, Short cut ส่วน "กัปตัน" ออกแคมเปญ 60-30-10 ทฤษฎีสีสวยอย่างสมดุล
ในภาวะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการชะลอตัวจากปัจจัยลบหลายประการ เศรษฐกิจมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องมีการชะลอตัวลงตามไปด้วย ดังนั้นทุกอุตสาหกรรมจึงต้องพัฒนาตนเองเพื่อให้สามารถชิงส่วนแบ่งตลาดให้ได้มากที่สุด ด้วยวิธีการและกลยุทธ์แตกต่างกันไป และอุตสาหกรรมสีก็เช่นกัน ที่ผ่านมา แต่ละบริษัทต่างพัฒนาสีของตนเอง เพื่อให้ตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด รวมถึงนวัตกรรมใหม่ที่จะทำให้การทาสีง่ายทนทาน
"โจตัน" ตั้งเป้าอีก 5 ปีขึ้นเบอร์ 2
นายเพอร์ ฮารัล อังเกอร์เซท กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจตัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ได้เริ่มเปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่จับกลุ่มตลาดพรีเมียม คือ 1.Majestic Metallic นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของสีทาภายในบ้าน ที่ให้มากกว่าความสวยงามคงทน ทำให้ผนังอาคารเงางาม แวววาวเมื่อยามแสงตกกระทบ นอกจากนี้ยังสามารถปกปิดลายงา ป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย โดยมีให้เลือก 2 เฉดสี คือ สีเงาประกาย ราคาอยู่ที่ประมาณ 2,250 บาท/ลิตร และสีทอง ราคา 900 บาท/ลิตร
2.Pilot Primer สีน้ำมันป้องกันสนิมไร้สารตะกั่ว เป็นสีรองพื้นนวัตกรรมใหม่ที่ปราศจากอันตราย มี 3 เฉดสีให้เลือก คือสีแดงและเทา ราคาอยู่ประที่ประมาณ 900 บาท/แกลลอน และสีส้ม ราคาอยู่ที่ 1,100 บาท/แกลลอน 3.Majestic Optima สีทาภายในอาคาร ที่มีความสวยงาม คงทน ง่ายต่อการทำความสะอาด อีกทั้งยังสามารถปกปิดลายงา ป้องกันเชื้อราและแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี ราคาขายเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 4,600 บาท/ถัง
คาดว่าทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์นี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ซึ่งทั้งปีนี้บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์สีนวัตกรรมใหม่อีกหลาย 10 ผลิตภัณฑ์
"ในปีนี้เราคาดหวังว่าจะถือครองส่วนแบ่งตลาดสีทาอาคารระดับพรีเมียมได้มากขึ้นเป็น 35% จากปัจจุบันที่ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 30% จากมูลค่าตลาดรวม 3,000 ล้านบาท ถือเป็นอันดับ 3 รองจากทีโอเอ และไอซีไอ และคาดว่าจะขึ้นเป็นอันดับ 2 ภายในระยะเวลา 3-5 ปี" นายเพอร์กล่าว
นายเพอร์ กล่าวต่อไปว่า ด้านช่องทางการจำหน่ายนั้นจะเป็นการขายผ่านดีลเลอร์ที่ปัจจุบันมีประมาณ 400 รายทั่วประเทศ และปีนี้มีแผนที่จะขยายดีลเลอร์ในตลาดต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และภูเก็ต เป็นต้น นอกจากนี้ยังขายผ่านโมเดิร์นเทรดต่างๆ อาทิ ซีเมนต์ไทยโฮมมาร์ท, โฮมโปร และโฮมเวิร์ค เป็นต้น
เดลต้าเปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่
นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สีเดลต้า จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มตลาดพรีเมียมภายในงานสถาปนิก48 คือ 1.Protech Primer สีรองพื้นพิเศษ สำหรับทาภายในและภายนอกตัวบ้าน มีคุณสมบัติสามารถทาได้ในทุกสภาวะอากาศ มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะเพิ่มมากขึ้น ด้วยอนุภาคของ Pliolite Resin ที่สามารถแทรกซึมลงบนพื้นผิวได้ลึกเป็นการยึดฟิล์มสีกับผนัง สามารถป้องกันการหลุดล่อน การสูญเสียการยึดเกาะ อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นสิ่งกีดขวางทางผ่านของลม ฝน ขณะเดียวกันก็ยอมให้ความชื้นที่ฝังตัวอยู่ในผนังได้ระบายออกมา โดยปราศจากการพองของสี ซึ่งจะเป็นสีที่ทาง่าย ไม่ว่าจะใช้แปรงหรือลูกกลิ้ง ขั้นตอนในการเตรียมพื้นผิวก็ไม่ยุ่งยาก ที่สำคัญทาได้ทั้งปูนเก่า ปูนใหม่ ที่ผ่านการฉาบปูนได้เพียง 7 วันก็สามารถทาได้ทันที ซึ่งประหยัดเวลากว่าทาสีปกติได้ถึง 3 สัปดาห์
2.Short Cut เป็นสีทาภายในตัวบ้าน ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของการทาสีบ้านที่มีส่วนผสมของ Extra Hiding Ti02 (ไททาเนียมไดออกไซด์ชนิดพิเศษ) เทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริกา ที่มีขั้นตอนง่ายและประหยัดค่าใช้จ่ายโดยสินค้าทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นี้ บริษัทยังไม่ได้ตั้งราคาขายแต่อย่างใด เนื่องจากต้องการทดลองตลาดก่อน หากมีผลตอบรับดีจากผู้บริโภคและดีลเลอร์พร้อมที่จะนำไปจำหน่าย ก็จะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาส 3 ของปีนี้
นายรณฤทธิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวในอนาคตขณะนี้บริษัทอยู่ในระหว่างการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 บริเวณ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง บนพื้นที่ประมาณ 30 ไร่ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 400 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 48 โดยจะมีกำลังการผลิตประมาณ 3-5 เท่าของกำลังการผลิตในปัจจุบัน ที่สีน้ำมีกำลังการผลิตประมาณ 10 ล้านลิตร/ปี และสีน้ำมันมีกำลังการผลิต 5 ล้านลิตร/ปี
ปัจจุบัน กลุ่มเดลต้า มีสินค้าใน 3 ตลาดหลัก คือตลาดพรีเมียม ใช้แบรนด์ "เดลต้า ชิลด์" มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 5-6% จากมูลค่าตลาดรวมประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท ตลาดกลางใช้แบรนด์ "เดลต้า" มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 10% จากมูลค่า ตลาดรวมประมาณ 4,000-6,000 ล้านบาท และตลาดล่างใช้แบรนด์ "เนชั่นแนล" ซึ่งไม่สามารถตอบตัวเลขที่ชัดเจนได้ เนื่องจากตัวเลขในตลาดดังกล่าวมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา
"กัปตัน"ออกทฤษฎีสีสวย 60-30-10
ด้านนายวิรัชศรณ์ ชาญเลขาบริรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท กัปตัน เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แผนการตลาดในปีนี้ของบริษัทจะเน้นเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าเพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดสีพรีเมียมเกรดและรุกตลาดด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์โดยเน้นไปที่สื่อโฆษณาทางโทรทัศน์และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในรูปแบบ การออกบูทงานแสดงสินค้าต่างๆ อีกทั้งยังออกภาพยนตร์โฆษณา 3 เรื่อง โดยได้ทยอยออกอากาศทีละช่วง
นอกจากนี้ยังได้มีการออกแคมเปญใหม่คือ 60-30-10 ทฤษฎีสีสวยอย่างสมดุล ซึ่งจากการศึกษาและวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันพบว่าส่วนใหญ่มักจะเลือกทาสีห้องด้วยโทนสีเดียว ซึ่งบริษัทเห็นว่าหากสามารถจุดประกายการตกแต่งห้องด้วยการใช้โทนสีที่หลากหลาย แต่ไม่เลอะเทอะ โดยการให้โทนสีอ่อน 60% โทนสีเข้มปานกลาง 30% และโทนสีเข้มอีก 10% หรืออาจจะกำหนดโทนสีสลับกันได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเป็นสีในโทนเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ห้องดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
นายวิรัชศรณ์กล่าวต่อไปว่า ในแต่ละปีกลุ่มประเทศแถบยุโรปจะมีการกำหนดเทรนด์สีออกมา โดยในปี 47 ที่ผ่านมาจะเป็นเทรนด์ของสีเทาและน้ำตาล ส่วนในปีนี้จะเป็นเทรนด์ของสีเขียวเพราะมองแล้วสบายตาและให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กับธรรมชาติมากขึ้น ที่สำคัญสีเขียวถือเป็นสีที่อยู่ระหว่างกลางของสายรุ้ง ดังนั้นจึงสามารถผสมผสานได้กับทุกเฉดสีได้ในโลกนี้เป็นอย่างดี ส่วนในปี 49 จะเป็นเทรนด์ของสีม่วงอมชมพูและสีชมพูอ่อน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บริษัทได้ทำการเปิดตัวสินค้าใหม่ในระดับพรีเมียมไปแล้ว 2 รุ่น คือ สีกัปตัน All in 1 มีสารอีลาสโตเมอริกยืดหยุ่น ได้ สามารถปกปิดรอยแตกลายงาได้ เป็นอย่างดี และสีกัปตัน Parashield Freshiclean เป็นสีที่พัฒนามาเพื่อใช้ สำหรับภายในด้วยการเพิ่มสูตรป้องกัน และยับยั้งแบคทีเรียและยังสามารถเช็ดล้างคราบสกปรกออกได้ง่าย ปัจจุบัน บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 20% หรือประมาณ 2,000 ล้านบาท และในปีนี้ต้องการมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มอีกประมาณ 10-20% โดยในปีนี้ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,500 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|