ธนชาติรื้อโครงสร้างธุรกิจรับแข่งขันตั้งผู้จัดการฝ่ายคุมกองทุนส่วนบุคคล


ผู้จัดการรายวัน(28 เมษายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

บลจ.ธนชาติเตรียมรื้อโครงสร้างการบริหารธุรกิจใหม่ เพื่อรองรับการแข่งขันในอนาคต เตรียมชงเรื่องเสนอบอร์ดวันนี้ เผยให้น้ำหนักกับการบริหารกองทุนส่วนบุคคลมากขึ้น โดยตั้งผู้จัดการฝ่ายขึ้นมาทำหน้าที่โดยเฉพาะ เพื่อจับตลาดลูกค้ารายใหญ่ ตั้งเป้าเพิ่มพอร์ตกองทุนส่วนบุคคลในปีนี้ 1.2 พันล้านบาท คาดหลังสถาบันประกันเงินฝากคลอด รายใหญ่แห่ลงทุนผ่านกองทุนมากขึ้น

นายกำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาติ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปรับโครงสร้างการบริหารใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการแข่งขันธุรกิจกองทุนรวมที่คาดว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากมีบลจ.ใหม่เข้ามาแข่งขัน โดยการปรับโครงสร้างบริหารของบริษัทจะให้ความสำคัญกับการให้บริการที่ตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันนี้ (28 เม.ย.)

"โครงสร้างใหม่ที่จะเสนอบอร์ด จะจัดโครงสร้างให้ตรงตามความต้องการของกลุ่มลูกค้า ซึ่งถือว่าเป็นไปตามหลักการด้านการตลาด ที่เน้นตอบสนองความต้องการของลูกค้า จากเดิมที่เราจัดโครงสร้างการบริหาร โดยเน้นตามผลิตภัณฑ์เป็นหลัก" นายกำพลกล่าว

สำหรับโครงสร้างการบริหารใหม่ จะให้น้ำหนักกับการบริหารกองทุนส่วนบุคคลมากขึ้น โดยจะมีการแต่งตั้งผู้จัดการฝ่ายกองทุนส่วนบุคคลขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งจะทำให้รู้ถึงความต้องการของลูกค้ากองทุนส่วนบุคคล และสามารถที่จะทำตลาดได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า

นายกำพล กล่าวว่า กองทุนส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทในปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 11 โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีพอร์ตกองทุนส่วนบุคคลจำนวน 3,000.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.62 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม ที่มีพอร์ตจำนวน 2,955.17 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.54% เมื่อเทียบกับทั้งระบบ

โดยพอร์ตบริหารกองทุนส่วนบุคคลของบลจ. บริษัทหลักทรัพย์ และธนาคารพาณิชย์ ณ 28 กุมภาพันธ์ 2548 มีมูลค่ารวม 135,968.26 ล้านบาท มีจำนวนกองทุน 1,500 กองทุน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคมที่มีมูลค่า 135,886.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.64 ล้านบาท หรือ 0.06%

นายกำพล กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสสองของปีนี้เราจะเริ่มทำตลาดกองทุนส่วนบุคคลมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่ โดยบริษัทจะให้น้ำหนักกับกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ และตั้งเป้าเพิ่มพอร์ตกองทุนส่วนบุคคลในปีนี้จำนวน 1.2 พันล้านบาท ขณะที่ในปีที่ผ่านมาพอร์ตกองทุนส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นจำนวน 880 ล้านบาท

สำหรับพอร์ตบริหารกองทุนรวมของบริษัทจะเริ่มต้นที่ระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยปัจจุบันมีลูกค้าในพอร์ตรวม 58 ราย

"กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราที่จะขยายออกไปนอกเหนือจากลูกค้ารายใหญ่ก็จะเป็น มูลนิธิ สมาคม มหาวิทยาลัย และสหกรณ์ ซึ่งมีเม็ดเงินจำนวนมาก หากสามารถเจาะฐานลูกค้าในกลุ่มนี้ได้ จะทำให้พอร์ตบริหารกองทุนเพิ่มขึ้น"

นายกำพล กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลในอนาคตคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก หลังจากที่มีการจัดตั้งสถาบันประกันเงินฝาก คล้ายกับที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ที่นักลงทุนให้ความสำคัญกับการลงทุนผ่านบริษัทจัดการกองทุนที่มีการบริหารกองทุนส่วนบุคคล

"ความซับซ้อนการลงทุนที่มีมากขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นตราสารอนุพันธ์ หรือตราสารใหม่ๆ ที่จะออกมา คล้ายกับต่างประเทศ ผู้ลงทุนจำเป็นต้องใช้บริการจากผู้บริหารกองทุนที่มีความชำนาญเข้ามาช่วยบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนให้"

นอกจากนี้ รูปแบบการลงทุนหลังการตั้งสถาบันประกันเงินฝากจะเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมมาก เพราะภาพในอดีตผู้ที่ทำหน้าที่บริหารจัดการมรดก ส่วนใหญ่จะเป็นทนายที่ทำหน้าแบ่งปันมรดกให้กับครอบครัวครอบครัวหนึ่ง แต่ในช่วงต่อไปผู้จัดการกองทุนจะเข้าไปมีบทบาทมากขึ้น เพราะการฝากเงินกับสถาบันการเงินได้รับการคุ้มครองในส่วนที่จำกัด ทำให้จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการเม็ดเงิน โดยการกระจายความเสี่ยงการลงทุนผ่านตราสารหนี้ หรือการลงทุนในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับสูง

สำหรับทีมผู้บริหารกองทุนส่วนบุคคลของบลจ.ธนชาติ ยังคงเป็นทีมเดียวกับผู้จัดการกองทุน ตราสารหนี้และตราสารทุนที่มีอยู่ในตลาด แต่รูปแบบการบริหารของผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคลจะเป็นไปตามนโยบายของนักลงทุนเป็นหลักว่าสามารถยอมรับความเสี่ยงได้ขนาดไหน ซึ่งจะสามารถเลือกจังหวะการลงทุนได้ดีกว่า


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.