สรุปราคาซื้อทีพีไอวันนี้ "ภัทร" ที่ปรึกษาปตท.-กบข.เสนอ 3 บาท


ผู้จัดการรายวัน(28 เมษายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูทีพีไอประชุมที่กระทรวงการคลังเช้าวันนี้ บล.ภัทร ที่ปรึกษาฯปตท. กบข. เตรียมสรุปเสนอซื้อหุ้นเพิ่มทุนในส่วนของพันธมิตร ราคาประมาณ 3 บาท ด้าน "วิสิฐ-กบข." ยันศุกร์นี้ได้ข้อสรุปราคาชัวร์ก่อนทำดิวดิลิเจนซ์อีก 2 เดือน กรอบราคา 3-4 บาท

เช้าวันนี้ (28 เม.ย.) คณะกรรมการบริหารแผนฟื้นฟู บริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ ได้มีการประชุมที่กระทรวงการคลังเพื่อสรุปราคาหุ้นสามัญเพิ่มทุนหุ้นบริษัททีพีไอ ที่จะเสนอขายให้กับพันธมิตรธุรกิจ บริษัท ปตท.

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) และบริษัท เมอร์ริล ลินช์ จะเข้าร่วมประชุมกับคณะผู้บริหารแผนบริษัททีพีไอ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท ปตท.และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. ว่าที่พันธมิตรของบริษัททีพีไอ โดยได้เตรียมเสนอราคาขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับกลุ่มพันธมิตรดังกล่าวในราคาหุ้นละประมาณ 3 บาท โดยคาดว่าหลังจากที่ได้ข้อสรุปราคาหุ้นเพิ่มทุนแล้วจะมีการประกาศออกมาทันที

นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวถึงการเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัท ทีพีไอ ว่า ในวันศุกร์ที่ 29 เมษายนนี้ จะได้ข้อสรุปเรื่องราคาซื้อหุ้นเพิ่มทุนบริษัท ทีพีไอ อย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าช่วงราคาซื้อที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 3-4 บาท ซึ่งคาดว่าจะทำให้ กบข.ได้รับผลตอบแทนการลงทุนได้รับอยู่ในระดับ 15% ต่อปี

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการสรุปราคาซื้อหุ้นเพิ่มทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กระบวนการต่อไปก็คือ ผู้ซื้อจะต้องเข้าไปตรวจสอบสถานะทางการเงินของบริษัททีพีไอ หรือทำดิวดิลิเจนซ์ โดยจะมีการตรวจสอบบัญชีและงบการเงินบริษัท ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ก่อนจะลงนามหรือเซ็นสัญญาซื้อขายหุ้นเพิ่มทุนอีกครั้ง

"การลงทุนในบริษัททีพีไอ เราจะลงทุนในระยะยาวจึงต้องใช้เวลาในศึกษาบริษัทก่อนจะเข้าลงทุน" เลขาธิการ กบข.กล่าว

สำหรับสัดส่วนการเข้าไปถือหุ้นของกลุ่ม กบข.จะเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 10% ของทุนจดทะเบียนของบริษัท ซึ่งการถือหุ้นในสัดส่วนดังกล่าวทำให้ กบข.สามารถส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการบริษัททีพีไอได้ 1 คน

นายวิสิฐ ยังกล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายมีความกังวลเกี่ยวกับการที่ทีพีไอจะออกจากการเป็นหุ้นในกลุ่มฟื้นฟูกิจการ หรือรีแฮบโกได้หรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่อย่างใด และบริษัททีพีไอจะออกจากกลุ่มรีแฮบโกหรือไม่ ก็ไม่มีผลต่อการตัดสินใจของกบข.ในการเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัททีพีไอ

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จะพิจารณาวาระการเข้าซื้อหุ้นทีพีไอ โดยจะพิจารณาราคาหุ้น ความเสี่ยงจากการลงทุนว่ามีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร ซึ่งทีพีไอเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีแบบครบวงจร แต่ประสบปัญหาภาระหนี้สินที่สูงถึง 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ต้องเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ และเมื่อปตท.เข้าไปถือหุ้น 30% ในทีพีไอ จำเป็นต้องลงทุนปรับปรุงเพิ่มเติมอีก 400-500 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อให้บริษัทฯ มีความสามารถในการแข่งขันดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ก่อนหน้านี้นายสุวิช นิวาตวงศ์ ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ คณะกรรมการสรรหาผู้ร่วมทุน ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน มีหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับการสรรหาผู้ร่วมทุนและจัดสรรหุ้น ซึ่งมีกำหนดว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2548 โดยคณะผู้บริหารแผนฯ จะแจ้งผลคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นให้ตลาดหลักทรัพย์ได้ทราบทันทีที่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการคลัง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.