บัตรเติมเงินกินได้

บัตรเติมเงินกินได้

นิตยสารผู้จัดการ( พฤษภาคม 2548)

กลับสู่หน้าหลัก

ก่อนหน้านี้หลายปี รายได้กว่าครึ่งของค่ายโอเปอเรเตอร์นั้นล้วนแล้วแต่มาจากการให้บริการโทรศัพท์แบบจดทะเบียนหรือโพสต์เพด เนื่องจากการใช้จ่ายต่อหัวต่อเดือนนั้นสูงกว่ามาก อีกไม่กี่ปีถัดมานับจนถึงปัจจุบัน หลายค่ายลงความเห็นว่าด้วยจำนวนผู้ใช้บัตรเติมเงินที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าผู้ใช้แบบจดทะเบียนหลายเท่าตัว ทำให้รายได้ของโอเปอเรเตอร์นั้นกลับไปในทิศทางตรงข้าม ปัจจุบันบัตรเติมเงินกลายเป็นรายได้หลักของแทบทุกค่าย

ปีที่ผ่านมาเอไอเอสผลิตบัตรเติมเงินสำหรับโทรศัพท์มือถือระบบพรีเพดหรือจ่ายก่อนใช้ทีหลังกว่า 500 ล้านแผ่น คงเป็นที่ยืนยันทั้งความสำเร็จระบบบัตรเติมเงินในไทยได้พอๆ กับความสำเร็จของเอไอเอสไปได้พร้อมๆ กัน

ตำนานการสร้างบัตรเติมเงินของเอไอเอสเพื่อออกจำหน่ายนั้นยาวนานเกือบ 5 ปี เริ่มแรกคอนเซ็ปต์ของการผลิตนั้นเรียบง่าย คือเพื่อโปรโมตแบรนด์ One-2-Call ซึ่งเป็นชื่อแบรนด์พรีเพดของเอไอเอส

ยุคหลังเป็นการเน้นทำบัตรเติมเงินภายใต้แนวความคิด "รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส" การเพิ่มลายและแบบให้มีความถี่มากขึ้น ทำให้เกิดคุณค่าในตัวของบัตรเติมเงินของเอไอเอส จนกลายเป็นที่นิยมในหมู่นักสะสม

ภายหลังทีมงานได้เพิ่มการจับมือกับค่ายเพลง เพื่อทำบัตรเติมเงินพ่วงไปกับเทปหรือซีดีเพลงของศิลปินชื่อดังหลายคน ก่อนตามมาด้วยการทำบัตรเติมเงินมีกลิ่นตามเทศกาลต่างๆ จนถึงบัตรเติมเงินที่ติดกับด้านหลังของตุ๊กตาหมีที่ผลิตขึ้นมาในจำนวนจำกัด จนต้องสั่งจอง และปิดท้ายแนวความคิดด้วย "บัตรเติมเงินกินได้"

เอไอเอสเลือกหมากฝรั่งชิเคล็ทส์, มันฝรั่งเลย์ และเครื่องดื่มยูนิฟ กรีนที ซึ่งสองแบรนด์แรกเป็นสินค้ารสใหม่ที่ยังไม่ได้วางขาย และต้องการโปรโมตสินค้า เพื่อติดหมายเลขหรือรหัสบัตรเติมเงินไว้ด้านหลังตัวสินค้าตามราคามาตรฐานบัตรเติมเงินของบริษัท โดยไม่บวกราคาของสินค้าเพิ่มแต่อย่างใด

ผู้ซื้อบัตรเติมเงินทั้งหมดผ่านหน้าเคาน์เตอร์ของร้านเทเลวิซ และเอไอเอส ช็อป จะได้รับทั้งมูลค่าเงินในการโทรศัพท์แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยพร้อมกับได้รับประทานสินค้าเหมือนกับได้แจกฟรีไปด้วยในตัว

บัตรเติมเงินกินได้ไม่เพียงเป็นการปิดท้ายแนวความคิดในการคิดค้นบัตรเติมเงินของเอไอเอสเท่านั้น แต่ผู้บริหารยังมองว่า เป็นการตลาดยุคใหม่ที่เหมาะกับแบรนด์หรือผู้ผลิตสินค้าที่ต้องการแนะนำสินค้าใหม่ของตนเองแก่ผู้บริโภคแทนการแจกตัวอย่างสินค้าที่ไปได้ไม่ครบทั่วประเทศ และยังได้ผลกว่ามาก เนื่องจากร้านค้าของบริษัทกระจายอยู่ทั่วประเทศ

ที่สำคัญหากผู้ใช้บัตรเติมเงินติดใจสินค้าซึ่งเป็นบัตรเติมเงินกินได้ของเอไอเอส ก็จะกลายเป็นลูกค้าหน้าใหม่ของผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นในภายหลังอย่างแน่นอน

กลับสู่หน้าหลัก

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย