|
แผนที่ (ขุมทรัพย์) ดิจิตอล
นิตยสารผู้จัดการ( พฤษภาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
2 บริษัททำแผนที่ส้มหล่นในยุคที่แผนที่ดิจิตอลและเทคโนโลยีระบุพิกัดผ่านดาวเทียมกำลังบูมสุดขีด
Bill Wong กำลังขับรถไป พร้อมกับอัดเสียงตัวเองสะกดชื่อถนนสายที่เขากำลังขับผ่านไปด้วยในขณะเดียวกัน ในขณะที่ Katie Tamaru-Itow เพื่อนร่วมงานของเขา ก็กำลังจดป้ายหรือจุดสังเกตต่างๆ ทั้งหมดที่อยู่บนถนนสายนั้น ไม่ว่าจะเป็นจุดเล็กน้อยเพียงใด พวกเขาต้องการบันทึกรายละเอียดทุกอย่างของถนนสายนั้นให้มากที่สุด
หลายครั้งตลอดเวลาการทำงานมาเป็น 10 ปี ที่ตระเวน ไปตามถนนสายต่างๆ ไม่ว่าจะไกลเพียงใด ทั้งสองเคยถูกเข้าใจ ผิดว่าเป็นคนขับแท็กซี่บ้าง ต้องหลงทางอยู่ในเส้นทางที่ห่างไกล ซึ่งไม่มีใครรู้จักบ้าง และเคยแม้กระทั่งถึงกับถูกทหารใช้ปืนจี้พาตัวออกไปจากพื้นที่ หลังจากที่พวกเขาหลงเข้าไปในฐานทัพของทหารโดยไม่ได้ตั้งใจ
อาชีพของพวกเขาทั้งสองคือ นักวิเคราะห์ภูมิศาสตร์ และเป็นส่วนหนึ่งของทัพพนักงานของบริษัททำแผนที่ ซึ่งขณะได้กลายเป็นเป็นผู้ผลิตเนื้อหาหลัก เพื่อป้อนให้แก่แผนที่ดิจิตอลและอุปกรณ์เครื่องมือสารพัดชนิด ที่สามารถเชื่อมต่อกับดาวเทียมด้วยเทคโนโลยี GPS ที่มีอยู่นับล้านๆ เครื่องทั่วโลกในขณะนี้
กองทัพสหรัฐฯ เริ่มใช้ดาวเทียมระบุพิกัดตำแหน่งบนโลกเป็นครั้งแรกในปี 1978 แต่เทคโนโลยีนี้ซึ่งเรียกย่อๆ ว่า GPS (Global Positioning System) เพิ่งจะมาเริ่มบูมในช่วงนี้ เมื่อถูกนำมาใช้ในแผนที่ดิจิตอล และอุปกรณ์ที่ติดตั้งเทคโนโลยี สื่อสารผ่านดาวเทียม ซึ่งกำลังเข้ามาเปลี่ยนวิธีใช้แผนที่ของเราอย่างสิ้นเชิง โดยสามารถนำเราไปยังจุดหมายที่เราต้องการได้โดยตรง แทนที่เราจะต้องมานั่งงงกับเส้นสายและเครื่องหมายที่ยุ่งเหยิงบนแผนที่กระดาษแบบเก่า
นักวิเคราะห์ทำนายว่า ยอดขายอุปกรณ์เครื่องมือที่บรรจุเทคโนโลยีผ่านดาวเทียม GPS ลงไป จะเพิ่มขึ้นจาก 15,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี เป็น 22,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2008 สาเหตุหนึ่งก็คือ โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆกำลังรวมเอาเทคโนโลยี GPS เข้าไว้ด้วย
ขณะที่เว็บไซต์ยอดนิยมอย่าง Amazon, Yahoo และ Google ก็กำลังใช้แผนที่ดิจิตอลเป็นกลยุทธ์หนึ่ง ในการเข้า ถึงและเสนอโฆษณาและผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
บริษัทที่กำลังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างขะมักเขม้น จากการบูมของแผนที่ดิจิตอลและเทคโนโลยี GPS คือ Navteg ซึ่งมีฐานประกอบการอยู่ในชิคาโกของสหรัฐฯ และ Tele Atlas ของเนเธอรแลนด
ทั้งสองคือบริษัททำแผนที่ ซึ่งขณะนี้สามารถขายสิทธิ์ในการใช้แผนที่ให้แก่ผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องมือยักษ์ใหญ่ทุกราย ซึ่งต่างก็ต้องการเพิ่มเทคโนโลยี GPS ลงไปในเครื่องมือของตน 2 บริษัททำแผนที่ยังขายแผนที่ของตนให้แก่เว็บไซต์ต่างๆ บน อินเทอรเน็ตและแม้แต่บริษัททำแผนที่ด้วยกันเองก็ยังซื้อข้อมูลจากบริษัททั้งสอง แล้วนำไปรวมกับข้อมูลที่ตนมี
Navteq ก่อตั้งในปี 1985 ขณะนี้มีพนักงานทั่วโลก 570 คน เดิมรับทำแผนที่เส้นทางให้แก่บริษัทให้เช่ารถ แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนมาทำแผนที่ดิจิตอลแต่เพียงอย่างเดียว และได้ขายหุ้นให้แก่สาธารณชนครั้งแรกในเดือนสิงหาคมปีที่แล้วหลังจากบริษัทเริ่มมีกำไร ขณะนี้หุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นไปมากกว่า 60% ของราคา IPO
ส่วน Tele Atlas ก็ก่อตั้งมาเกือบ 20 ปีแล้วเช่นกัน มีพนักงาน 400 คน เป็นบริษัทที่เกิดขึ้นจากโครงงานทำแผนที่ดิจิตอล ของนักศึกษามหาวิทยาลัยชาวเบลเยียมคนหนึ่ง บริษัทได้ขายหุ้นให้แก่สาธารณชนครั้งแรกในปี 2000 ในตลาดหุ้น Frankfurt และปีที่แล้วได้ซื้อกิจการบริษัททำแผนที่ชื่อ GDT ในรัฐ New Hampshire
ทั้ง Navteq และ Tele Atlas ต่างพยายามขยายตัวให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ได้เงินลงทุนเพื่อนำมาปรับปรุงข้อมูลเกี่ยวกับแผนที่ของตน ซึ่งต้องมีการลงทุนปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
งานทำแผนที่ดิจิตอลยากกว่าที่คิด ทั้งสองบริษัทต้องรู้รายละเอียดทุกอย่างที่อยู่บนแผนที่ ไม่ว่าจะเป็นถนนข้ามรัฐสายใหญ่หรือถนนซอยเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก พนักงานของทั้งสองบริษัทต้องบันทึกรายละเอียดทุกอย่างบนถนนตั้งแต่ป้ายจราจร ป้ายบอกจำกัดความเร็วรถ จำนวนเลนบนถนน และจุดสังเกตต่างๆ บนถนน เช่น ร้านอาหาร หรือโรงแรม
Navteq ใช้พนักงานออกเก็บข้อมูล แล้วนำมารวมกับข้อมูลที่หาได้ทั่วไปเช่นแผนที่ของทางการ ภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายดาวเทียม แต่ Tele Atlas นอกจากจะใช้พนักงานออกเก็บข้อมูลเหมือนกันแล้ว ยังร่วมมือกับบริษัทโทรคมนาคมและหน่วยงานราชการอีกหลายพันแห่ง ซึ่งมีพนักงานหรือข้าราชการที่ต้องเดินทางผ่านถนนสายใดสายหนึ่งอยู่เป็นประจำ ให้ช่วยรายงานข้อมูลใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นบนถนนสายนั้นๆ เข้ามาให้บริษัทด้วย
ทั้งสองบริษัทต่างไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้ แต่กำลังวางแผนจะเพิ่มความสามารถใหม่ๆ ลงไปในระบบนำทางดิจิตอลที่ติดตั้งในรถยนต์ และเครื่องมือที่มีเทคโนโลยี GPS อย่างเช่นพยายามจะเพิ่มการรายงานข้อมูล จราจรตามเวลาที่เป็นจริงลงไปในระบบนำทางดิจิตอลในรถยนต์ เพื่อที่คนขับจะได้สามารถตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทาง เพื่อเลี่ยงเส้นที่การจราจรติดขัด
ทั้ง Navteq และ Tele Atlas ต่างทำข้อตกลงกับเครือข่ายสถานีวิทยุและบริษัทที่ติดตั้งกล้องและเครื่องตรวจจับบนทางหลวง เพื่อให้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับการจราจร มาให้แก่ระบบของพวกเขา และยังหาทางจะขยายธุรกิจของพวกเขาจากสหรัฐฯ มา ยังเอเชียและยุโรปตะวันออกอีกด้วย
ขณะนี้มีนักธุรกิจจำนวนมากเริ่มไม่อาจจะขาดเครื่องมือนำทางดิจิตอลได้แล้ว อย่างเช่น Jeff O'Dell นักขายเครื่องจักรกล ซึ่งสามารถตระเวนไปทั่วภาคใต้ของแคลิฟอรเนียได้ ด้วยความช่วยเหลือของเครื่องมือ นำทางระบบดิจิตอลที่เขาใช้ผสมกันถึง 5 ชนิด แผนที่ดิจิตอลและอุปกรณ์ที่มีเทคโน โลยี GPS ต่างๆ ทำให้เขาสามารถไปเยี่ยมลูกค้าได้ 10 รายต่อวัน แทนที่จะเป็นแค่ 7 รายอย่างเมื่อก่อนและยังช่วยให้เขาประหยัด ค่าน้ำมันได้มากโขอีกด้วย O'Dell บอกว่า แผนที่ดิจิตอลคือกุญแจที่ทำให้เขาสามารถสร้างผลงานได้เพิ่มขึ้น
แปลและเรียบเรียงจาก
Newsweek April 11/April 18, 2005
โดย เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|