ส่องวิชัน"MDใหม่"P&Gสู่ตลาดอิ่ม ชี้แชร์กลุ่มผ้าอ้อม-ผ้าอนามัยถดถอย


ผู้จัดการรายวัน(27 เมษายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

พีแอนด์จี โชว์ยอดขายในเอเชียพุ่ง ทุ่ม 3,500 ล้านบาท ดันไทยศูนย์กลางผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อความงามใหญ่ในเอเชีย ขยายกำลังผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและถนอมผิวหน้าป้อนกว่า 20 ประเทศ "ปริญดา" เอ็มดีคนใหม่ ประกาศนโยบายชู "นวัตกรรม" สินค้า 25 รายการ แก้เกมตลาดอิ่ม แข่งดุ-ต้นทุนพุ่ง พร้อมโฟกัสกลุ่มแชมพู-ถนอมผิวหน้าชนคู่แข่ง ตั้งเป้าสิ้นปีทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์โตมากกว่าตลาดรวม 3-4% รายได้รวมโตสองหลัก

นางสาวปริญดา หัศฎางค์กุล กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท พีแอนด์จี ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค แชมพูแพนทีน ผลิตภัณฑ์ถนอมผิวหน้าโอเลย์ เปิดเผยถึงแผนการลงทุนในไทยว่า ได้ทุ่มงบ 3,500 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและผลิตภัณฑ์ถนอมผิวหน้าฐานการผลิตในประเทศไทยให้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า หรือจาก 140 ล้านลิตรต่อปี เพิ่มเป็นเกือบ 300 ล้านลิตรต่อปี และกว่า 95% ของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในศูนย์การผลิตแห่งนี้ จะถูกส่งออกไปยังประเทศต่างๆ 20 ประเทศ ทั้งนี้ การเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าวจะทำให้ฐานการผลิตในประเทศไทยของพีแอนด์จี กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์เพื่อความงามใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยฐานผลิตตั้งอยู่บนพื้นที่ 80 ไร่ ในเขตนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์

"ภาพรวมธุรกิจพีแอนด์จีในทวีปเอเชีย มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ในจีนจะต้องเพิ่มการผลิตในลักษณะเดียวกับประเทศไทย โดยในปีที่ผ่านมาพีแอนด์จีในต่างประเทศได้ซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม และผลิตภัณฑ์ถนอมผิวหน้ามากกว่า 9,000 ล้านบาท จากไทย ซึ่งเพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อน โดยเฉพาะในญี่ปุ่นบริษัทส่งสินค้าไปมากกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 50% จากในปี 2546 ขณะที่ผลประกอบการในไทย รอบบัญชีเดือน ก.ค.-มิ.ย.ปี 2547 เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก ทำให้ปีนี้เราต้องเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ทั้งนี้กำลังการผลิตใหม่นี้จะเริ่มดำเนินการในปีนี้ และจะสามารถรองรับการผลิตได้ภายใน 3 ปีนี้"

นางสาวปริญดา กล่าวต่อในฐานะเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการช่วงเดือนมีนาคมอย่างเป็นทางการว่า นโยบายของบริษัทปีนี้จะเน้น 3 ประการหลัก คือ ประการแรก จะต้องเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคคนไทย ประการที่สอง คือ ในสภาวะที่การแข่งขันตลาดมีสูง ต้องมีนวัตกรรมใหม่ ที่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ยังไม่ได้นำเสนอในตลาดมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในราคาที่คุ้มค่า และประการที่สาม ต้องการสร้างบุคลากรภายในองค์กร ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะสร้างความแข็งแกร่งเพื่อสามารถต่อกรกับคู่แข่งขันได้ โดยเป้าหมายการทำตลาดปีนี้ ทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ตั้งเป้าเติบโตมากกว่าตลาดรวมหรือมากกว่า 3-4%

การเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ จะเป็นกลยุทธ์หลักในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจ อีกทั้งยังเป็นกลยุทธ์สำคัญที่สร้างความสมดุลด้านภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นให้กับบริษัทได้ เนื่องจากปัจจุบันพีแอนด์จียังไม่มีนโยบายปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น แม้ว่าต้นทุนค่าขนส่งจะเพิ่มขึ้นถึง 5% โดยปีนี้บริษัทได้เตรียมออกสินค้านวัตกรรมใหม่ทั้งหมด 25 รายการ โดยจะให้ความสำคัญกับตลาดผลิตภัณฑ์ถนอมผิวหน้ามากเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงราว 20% จากมูลค่า 5,500 ล้านบาท โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยปีที่ผ่านมาเป็นตลาดที่เติบโตสูง รวมทั้งให้ความสำคัญกับตลาดแชมพูด้วย ซึ่งคาดว่าแนวโน้มการแข่งขันปีนี้ กลุ่มผู้ประกอบการจะสร้างเทรนด์ใหม่ๆเพื่อกระตุ้นตลาดมากขึ้น ส่วนผลิตภัณฑ์ผ้าอนามัยและผ้าอ้อมสำเร็จรูปปีนี้การทำตลาดจะไม่เน้นมากนัก จากช่วง 3 ปีที่ผ่านมาธุรกิจไม่ได้เป็นไปดังเป้าหมายที่วางไว้ เช่น แพมเพอร์สมีส่วนแบ่งตลาดลดลงเหลือ 11%

ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่จาก 3 แบรนด์ ได้แก่ แพนทีน ลีฟออน แฮร์มอยส์เจอไรเซอร์ ครีมบำรุงผมชนิดไม่ต้องล้างออก ซึ่งการเปิดตัวครั้งนี้จะผลักดันให้แบรนด์แพนทีนโดยรวมเติบโต 10% จากการมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 1% เป็น 12% โดยพีแอนด์จี มีส่วนแบ่งตลาดรวมในผลิตภัณฑ์เส้นผม 30% จากมูลค่าตลาดรวม 9,200 ล้านบาท ส่วนเดือนมีนาคมเปิดตัว รีจอยส์ สปา รูปลักษณ์ใหม่ มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น 1% เป็น 8% และในเดือนเมษายน ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ โอเลย์ โททัล เอฟเฟ็คส์ พลัส เซรั่มใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์ที่ประสความสำเร็จมากที่สุด ในปีที่ผ่านมาสามารถขึ้นเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ถนอมผิวหน้าแทนที่พอนดส์ ด้วยการมีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 28% เป็น 34% ส่วนพอนดส์เป็นอันดับสอง 28%

นอกจากนวัตกรรมจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พีแอนด์จีมีอัตราการเติบโตแล้ว ปัจจัยหลักยังมาจากการให้ความสำคัญกับตัวแทนจำหน่ายทั้งรายเล็กและรายใหญ่กว่า 400 รายทั่วประเทศหรือแบ่งเป็นโมเดิร์นเทรดกว่า 50% เทรดิชันนัลเทรดกว่า 40% ซึ่งในแต่ละปีจะมีการจัดอบรมตัวแทนจำหน่ายวิธีการจำหน่ายสินค้า รวมทั้งกลยุทธ์บรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กผ่านช่องทางเทรดิชันนัลเทรด


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.