ใช้คอมพิวเตอร์บริหารบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์


นิตยสารผู้จัดการ( กันยายน 2526)



กลับสู่หน้าหลัก

บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด เป็นบริษัทที่มีสินทรัพย์รวมมากกว่า 2,300 ล้านบาทอยู่ในหนึ่งใน 10 อันดับของเงินทุนหลักทรัพย์ของเมืองไทย

สงบ พรรณรักษา กรรมการผู้จัดการที่นี่เป็นผู้เชี่ยวชาญในระบบข้อมูลด้านการบริหารอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยอยู่ธนาคารกสิกรไทย ก็เป็นผู้ตั้งระบบคอมพิวเตอร์ขึ้นมา

ฉะนั้นการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อบริหารที่บริษัท เงินทุนหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา จึงเป็นสิ่งที่ต่อเนื่อง และใช้เพื่อบริหารเงินกับหลักทรัพย์ให้ลูกค้าในด้านการบริหารเงินก็ใช้ในการดูที่มาและที่ไปตลอด จนอัตราดอกเบี้ยและกำหนดเวลาของตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อความคล่องตัวในการบริหารเงิน

ในด้านหลักทรัพย์ คุณสงบได้ใช้ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลในการซื้อขายหุ้น และกำลังทำโปรแกรมสำหรับวิเคราะห์หลักทรัพย์แต่ละตัวอยู่

“ผู้จัดการ” มีโอกาสถามรายละเอียดกับคุณสงบ พรรณรักษา ที่สำนักงาน จึงขอนำรายละเอียดมาเสนอให้กับคุณผู้อ่านที่อาจจะสนใจในการใช้คอมพิวเตอร์กับสถาบันการเงิน

- ความเป็นมาของการนำคอมพิวเตอร์ มาใช้ในกิจการ?

สำหรับเหตุจูงใจที่เงินทุนหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา นั้นคณะกรรมการได้ตัดสินใจซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์มาก่อนที่ผมจะเข้ามาบริหารงานแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าคณะกรรมการคงจะเห็นความสำคัญของการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในธุรกิจเงินทุนหลักทรัพย์อย่างแน่นอน ผมจึงพยายามใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ให้มีประโยชน์ดีที่สุด เมื่อตอนผมมามีแต่ของไม่มีคนทำ ก็ต้องมาสร้างทีมงานกันขึ้นมา

- มีความจำเป็นแค่ไหนที่จะต้องตัดสินใจนำคอมพิวเตอร์มาใช้?

ที่ว่ามีความจำเป็นในการที่จะตัดสินใจนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้ ผมก็มีความเห็นว่าธุรกิจเงินทุนหลักทรัพย์นั้น การใช้คอมพิวเตอร์จะมีประโยชน์มากในการที่เราจะสามารถรวมข้อมูลและนำข้อมูลมาวิคราะห์ ซึ่งถ้าใช้ด้วยระบบมือแล้วจะต้องใช้เวลามากกว่านี้อีกมาก โดยเฉพาะในการตัดสินใจนั้น ข้อมูลต้องฉับไว

- เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่

การใช้เครื่องก็เริ่มมาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ได้ตกลงซื้อเครื่อง Singer System ราคาประมาณล้านเศษ เมื่อนำมาใช้ก็มาใช้กับงานธุรกิจหลักทรัพย์ก่อน และที่จริงตั้งใจจะใช้สำหรับการเป็นเครื่องช่วยในการวิเคราะห์หลักทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิเคราะห์หุ้นต่างๆ กัน หลายๆ ตัว ในปัจจุบันนี้ สำหรับงานด้านหลักทรัพย์ เราก็ใช้ประมวลผลในการซื้อขายหุ้น ส่วนการวิเคราะห์หลักทรัพย์แต่ละตัวนั้นยังทำโปรแกรมไม่เสร็จ นอกจากนั้นเราก็ได้นำเครื่องคอมพิวเตร์นี้ไปใช้ระบบเครื่องมือในด้านการพัฒนาตลาดเงินทุน และด้านสินเชื่อเป็นอย่างมาก ซึ่งก็อยู่ในแง่ของการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มขึ้น คำถามที่ว่ามีปัญหายุ่งยากในเทคนิคระยะแรกหรือไม่อย่างไรนั้น ที่เงินทุนหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยานี้ ไม่มีปัญหาอะไรเนื่องจากผมสนับสนุนการใช้คอมพิวเตอร์เต็มที่

- การใช้คอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน เป็นอย่างไร?

ระบบงานที่ทำอยู่ปัจจุบัน ก็มีระบบในฝ่ายหลักทรัพย์ ฝ่ายพัฒนาตลาดเงินทุน และฝ่ายสินเชื่อ ซึ่งในระบบต่างๆ เหล่านี้ ก็ให้หลายรูปแบบแก่ผู้บริการในฝ่ายต่างๆ ทำให้เราสามารถบริหารงานได้ มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง ส่วนปริมาณงานแต่ละระบบนั้นก็เป็นไปตามปริมาณงานที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คือธุรกิจหลักทรัพย์ก็มีประมาณการซื้อขายจำนวนรายได้ไม่ค่อยสู้มากนัก ส่วนปริมาณงานด้านรับเงินออมจากประชาชนนั้นจัดได้ว่าวันหนึ่งมีปริมา จำนวนรายได้ค่อนข้างสูง และคอมพิวเตอร์ช่วยเราได้มาก

- ขนาดของเครื่องในปัจจุบันเป็นอย่างไร

ขนาดของเครื่องในปัจจุบันจัดได้ว่าเป็นขนาดเล็ก คือมี Main Process 80 เค และมี Disc เก็บข้อมูลได้อีกเพียง 10 Million เท่านั้น นอกจากนั้นก็มี High Speed

ในการจัดหาคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันเราได้ใช้ วิธีซื้อและเช่า ส่วนที่เป็นการใช้นั้นก็มักจะเป็นการเรียกข้อมูลมาใช้ประโยชน์ เกี่ยวกับการบริการแก่ลูกค้าโดยตรง เช่น ลูกค้ารายนี้มียอดเงินคงเหลือเท่าไร ส่วนรูปแบบของการจัดองค์กรและสายงานด้านคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนั้น ก็เป็นระดับแผนกพนักงานที่เกี่ยวข้อง และช่วยเหลือด้านคอมพิวเตอร์มีอยู่เพียง 5 คน เท่านั้น ระดับการศึกษาและประสบการณ์ของบุคลากรมีตั้งแต่จบปริญญาตรีและโท ส่วนการขยายโครงการในอนาคตนั้นคงจะต้องเปลี่ยนแปลงระบบงานใหม่ โดยจะพยายามทำระบบ online ให้มากที่สุด ซึ่งเข้าใจว่าคงจะพิจารณากันเร็วๆ นี้ ว่าเป็นอย่างไร

- ผลประโยชน์ ที่จะได้ รับจากการนำคอมพิวเตอร์มาใช้มีอะไรบ้าง

ผมคิดว่าคุ้มค่าต่อการลงทุนหรือการใช้จ่าย เพราะมีประโยชน์มากในแง่ของข้อมูลที่เราเก็บได้เร็ว และสามารถวิเคราะห์ได้ทันที เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าเราอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ผมคิดว่าเราได้ใช้ประโยชน์จอคอมพิวเตอร์ได้เต็มที่เพราะเราตัดสินใจได้เร็วกว่า ส่วนการประหยัดที่ได้จากคอมพิวเตอร์นั้น ขณะนี้เรายังไม่ได้วัดออกมาจริงๆ แต่อาจบอกได้ว่าในขณะนี้ กิจการของเราขยายได้มากขึ้น ถ้าเทียบได้ในอัตราการเพิ่มขึ้นของพนักงาน จะเห็นได้ว่า น้อยกว่าอัตราการเติบโตของบริษัท ส่วนการจะช่วยให้รายได้เพิ่มขึ้น คอมพิวเตอร์มีส่วนอยู่บ้าง แต่ผู้บริหารแต่ละคนจะเห็นเป็นประโยชน์และใช้เป็นหรือไม่นั้น แล้วแต่บุคคลไป แต่สำหรับเรานั้น เชื่อว่าเราได้ประโยชน์ในเรื่องนี้มาก เพราะเราสามารถจะทราบที่มาของเงินและที่ไปของเงินได้รวดเร็ว ทำให้สามารถรักษาระดับการจ่ายเงินได้ในสภาวะที่ผ่านมาตลอด

- มีปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น และข้อเสนอแนะใหม่?

ปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับการลงทุนนั้น คือถ้าเราขยายระบบใหม่นี้ การลงทุนอาจจะสูง อาจใช้เงินลงทุน 5 ล้านบาท บริษัทจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ อย่างน้อยค่าเสื่อมราคาปีละล้านบาท เมื่อรวมค่าบำรุงรักษาต่างๆ เข้าไปแล้ว ก็เป็นรายจ่ายเดือนละประมาณแสนกว่าบาท แต่ก็เข้าใจว่าขนาดของสินทรัพย์ของบริษัทเราก็มากพอที่จะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาด 5 ล้าน-6 ล้าน ไม่เป็นปัญหามากนัก ขณะนี้เรากำลังคิดว่าจะเปลี่ยนคอมพิวเตอร์แน่ๆ แต่จะใช้ระบบไหนนั้นก็คงจะต้องประมูลกัน งบประมาณก็อย่างที่พูดไว้ประมาณ 5-6 ล้านบาท เราก็คงจะต้องเลือกเอาระบบที่ดีและถูก พร้อมบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพด้วย แต่ถ้าจะถามว่าจะเปลี่ยนเมื่อไหร่ ตอนนี้ก็ยังบอกไม่ได้ เอาเป็นว่าเราต้องเปลี่ยนแน่ๆ

- ปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับผู้จำหน่าย และระบบคอมพิวเตอร์?

ทางผู้จำหน่ายระบบคอมพิวเตอร์นั้นยังมิได้มุ่งที่จะช่วยพัฒนาโปรแกรมให้กับผู้ซื้ออย่างจริงจัง ผู้ขายหลายรายพยายามอย่างยิ่งที่จะขายเครื่องโดยที่ไม่มีบุคลากรที่จะช่วยแนะนำผู้ซื้อได้ และต้องให้ผู้ซื้อไปพัฒนาโปรแกรมเอาเอง หากต้องให้ผู้ซื้อไปพัฒนาโปรแกรมเอาเอง หากผู้ขายมีบุคลากรที่จะเข้าช่วยพัฒนาโปรแกรมได้แล้วเชื่อว่าจะมีผู้นิยมใช้เครื่องคอมพิวเตอร์มากขึ้น

- ปัญหาเกี่ยวกับผู้บริหารระดับกลาง และระดับสูงที่เอ็ทโก้

ผมสนับสนุนเต็มที่ แล้วก็เข้าใจว่าปัญหาในเรื่องนี้จะน้อย แต่ต้องยอมรับว่าในองค์กรธุรกิจ ผู้บริหารระดับกลาง และระดับสูงอาจไม่เข้าใจว่าเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีประโยชน์อย่างไรในการนำมาใช้งานธุรกิจ เกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับผู้ใช้บริการนั้น ปัญหาด้านนี้เข้าใจว่าจะมีน้อยมาก

- ปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับบุคลากรคอมพิวเตอร์

ผมมีความเห็นว่า ในปัจจุบันคนที่ให้สำคัญด้านนี้มีมาก รวมทั้งผู้ที่จบบัญชีหรือบริหารธุรกิจมักจะได้เรียนวิชาคอมพิวเตอร์มาแล้วด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ก็ให้ข้อสังเกตว่า ในการที่จะพัฒนางานได้นั้น บุคลากรด้านคอมพิวเตอร์จะเรียนจบจากมหาวิทยาลัย อย่างน้อยจบบัญชีมหาวิทยาลัย หรือด้านคอมพิวเตอร์ ควรจะช่วยฝ่ายพัฒนาและวางระบบงานให้ได้ด้วย ปัญหาเรื่องระบบเกี่ยวกับการฝึกอบรมนั้น ขณะนี้มีการฝึกอบรมในเรื่องนี้มาก และบริษัทเราเองก็พยายามพัฒนาและฝึกอบรมด้วยตัวเอง ส่วนด้านเทคนิคและเครื่องคอมพิวเตอร์ ผมเข้าใจว่าขณะนี้มีการเปลี่ยนไปแล้ว และรวดเร็ว ต้นทุนของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือค่าใช้จ่ายในการผลิตคอมพิวเตอร์ลดลง ราคาขายคอมพิวเตอร์ก็ถูกลง บางครั้งเราเองก็ไม่ทำและบริษัทผู้ขายบริการ สัมมนา เชิญชวนให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ได้มาพัฒนาให้เป็นระบบๆ ก็จะได้ผลดีอย่างยิ่ง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.