วิตกเศรษฐกิจ-MSCIหุ้นวูบ ดัชนีรูด13จุดกองทุนตื่นทิ้งของ1.3พันล.


ผู้จัดการรายวัน(26 เมษายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

หุ้นไทยร่วงเกือบ 13 จุด ปัจจัยร้ายสุมตลาดอีกระลอก กองทุนไทยขนหุ้นออกมาขาย 1.3 พันล้าน "ขุนคลัง" ปลอบหุ้นร่วงเรื่องปกติสั่งพัฒนสินแจงกรณีคาด MSCI ลดน้ำหนัก ด้าน "โกลเบล็ก-พัฒนสิน" ชี้ตลาดกังวลตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 1/48 ออกมาไม่ดีและอีกหลายปัจจัย รวมทั้ง MSCI และทุจริตหนองงูเห่ากดหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างทรุด "พัฒนสิน" ยันคาดดัชนี MSCI ลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทย 3.7% เป็น 3.5% เพิ่มไต้หวัน 19% เป็น 23.3% ค่ายบัวหลวง เชื่อต่างชาติลดพอร์ตเพราะกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรงเกินคาด แนะจับตาเล็งปรับเป้าดัชนีจากเดิม ปีนี้ 770 จุดหาก MSCI ลดน้ำหนัก

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (25 เม.ย.) ดัชนีปรับลดลงตั้งแต่เปิดตลาดจากความกังวลหลายเรื่อง ทั้งเรื่องคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/48 จะคาดว่าไม่ดีจากขาดดุลบัญชีเดินสะพัด รวมถึงการปรับลดลงน้ำหนักการลงทุนของ MSCI รวมถึงกรณีการทุจริตในสนามบินหนองงูเห่าซึ่งกระทบหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างส่งผลดัชนีกลุ่มลดลง 4%

ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 664.47 จุด ลดลง 12.78 จุด หรือ 1.89% ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของวัน มูลค่าการซื้อขาย 15,244.14 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 145.04 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1,324.55 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,469.59 ล้านบาท

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า มี 3 ปัจจัยลบ ที่เข้ามากระทบการลงทุน 1. เรื่องการคาดการณ์การประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจไตรมาส 1/48 ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะออกมาไม่ค่อยดีโดยเฉพาะเชื่อว่าตัวเลขบัญชีเดินสะพัดจะเป็นลบ 2. การคาดการณ์ปรับลดน้ำหนักลงทุนของ MSCI 3. การจัดซื้อเกี่ยวกับการก่อสร้างในสนามบินหนองงูเห่า

อย่างไรก็ตาม ก็เป็นแค่ความกังวลของนักลงทุน ซึ่งคาดว่าวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะปรับขึ้นได้ โดยในส่วนของความกังวลกรณี MSCI คงต้องพิจารณาเม็ดเงินในพอร์ตกองทุนประกอบด้วยหากยังมีเม็ดเงินเหลือคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย

"ขุนคลัง" ชี้หุ้นตกเรื่องปกติ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่ มอร์แกน สแตนเลย์ แคปปิตอลอินเตอร์เนชั่นแนล หรือ MSCI มีแนวโน้มจะลดสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยลง ว่าเป็นเพราะต้องการไปเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไต้หวันจึงต้องปรับพอร์ตการลงทุนใหม่โดยการลดสัดส่วนการลงทุนในประเทศอื่นๆ ลง ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย

"ไม่เป็นไร เป็นการเกลี่ยเม็ดเงินการลงทุนเพื่อไปเพิ่มการลงทุนที่อื่นซึ่งเขาคงลดสัดส่วนการลงทุนที่อื่นด้วย ไม่ใช่เฉพาะเรา ข้อสำคัญ คือ อย่าทิ้งตลาดหุ้นไทยไปเลยก็แล้วกัน" นายสมคิดกล่าว

นายสมคิด กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นเป็นจุดสะท้อนภาวะพื้นฐาน และอนาคตของเศรษฐกิจ ดังนั้นหากมีการวางรากฐานเศรษฐกิจของประเทศให้ดี ตลาดหุ้นก็จะสามารถเดินไปได้เอง การห่วงแต่ภาวะตลาดหุ้นเป็นรายวันโดยไม่ทำอะไรเลย เป็นสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใดและการที่หุ้นตกเล็กน้อย ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้น

คาด MSCI ลดน้ำหนักไทย

นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนบล.พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS เปิดเผยว่า บล.พัฒนสินได้คาดการณ์ว่า MSCI จะเพิ่มน้ำหนักในไต้หวันและอาจจะปรับลดลงน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยนั้นเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นไต้หวันกับจีน เพราะไต้หวันได้ลดข้อจำกัดการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศขณะที่ตลาดหุ้นจีนมีบริษัทใหม่เข้าจดทะเบียนถึง 7 บริษัท

อย่างไรก็ดี การปรับน้ำหนักของ MSCI นั้นถือเป็นเรื่องปกติและมีการปรับน้ำหนักปีละ 4 ครั้งอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของตลาดหุ้นไทยนั้นโนมูระยังให้น้ำหนักการลงทุนที่สูงกว่าบรรทัดฐานโดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียยังมีความน่าสนใจอยู่

ทั้งนี้ การที่ภาวะตลาดหุ้นปรับตัวลดลงเนื่องจากภายในวันที่ 29 เม.ย.จะมีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าอาจจะลดลงประกอบกับภายในสัปดาห์หน้าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีการประชุมซึ่งคงจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยแต่จะอยู่ในอัตราเท่าใดนั้นยังไม่สามารถคาดการณ์ได้

ด้านนายสาธิต วรรณศิลปิน ผู้บังคับบัญชาสายงานวิจัยหลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า หลังจากที่ออกบทวิจัยคาดว่าดัชนี MSCI จะมีการปรับลดน้ำหนักการลงทุนในประเทศไทยจาก 3.7% เป็น 3.5% หรือลดลงประมาณ 0.12% และคาดว่ามีการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไต้หวัน จาก 19.0% เป็น 23.3%

มีความกังวลของนักลงทุนส่วนหนึ่งที่ทำให้มีแรงเทขายออก แต่หากพิจารณาขนาดของเม็ดเงินที่ลงทุนซึ่งมีจำนวนที่มากขึ้นคงไม่ส่งผลกระทบมากนักหากมีการลดสัดส่วนการลงทุนตามการคาดการณ์ การปรับเพิ่มหรือลดน้ำหนักการลงทุนของ MSCI จะพิจารณาเป็นรายไตรมาสซึ่งใน ครั้งนี้น่าจะมีการนำบริษัทไทยออยล์ หรือ TOP เข้ามาคำนวณน้ำหนักการลงทุนด้วย

สำหรับสาเหตุที่คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไต้หวัน เพราะไม่มีการจำกัดการลงทุนในส่วนของนักลงทุนต่างชาติ

นายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บล.บัวหลวง กล่าวถึงกรณี MSCI ประกาศจะมีการลดน้ำหนักการลงทุนในไทย อาจทำให้บริษัทฯต้องทบทวนเป้าหมายดัชนีที่เคยให้ไว้ 770 จุดในปีนี้ใหม่

จับตาดอกเบี้ยเฟด

นางสาวปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ประเด็นหลักที่นักลงทุนต่างชาติลดพอร์ตการลงทุนเพระต้องการลดความเสี่ยงรอการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าในครั้งนี้อาจจะปรับขึ้นมากกว่า 0.25% ซึ่งจะทำให้ช่องว่างอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น อาจจะส่งผลให้ธปท.ปรับขึ้นดอกเบี้ยตามซึ่งจะส่งผลต่อตลาดหุ้นอย่างชัดเจน จึงทำให้วานนี้หุ้นขนาดใหญ่ต่างปรับตัวลดลง

นอกจากนี้ เรื่องความกังวลเกี่ยวกับข่าวการทุจริตเกี่ยวกับการก่อสร้างสนามบินหนองงูเห่า จึงทำให้หุ้นในกลุ่มก่อสร้างได้รับผลกระทบโดยเฉพาะหุ้น ITD แต่อย่างไรก็ดี เรื่องดังกล่าวต้องรอความชัดเจนก่อน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.