หลุยส์ วิตตอง ซื้อลูกเดียว


นิตยสารผู้จัดการ( มีนาคม 2537)



กลับสู่หน้าหลัก

เบอร์นาร์ด อาโนลด์ ประธานบริษัทแอลวีเอ็มเอช โมเอต์ เฮนเนสซี่ หลุยส์ วิตตองเปิดเผยว่า ได้เตรียมเงินก้อนใหญ่ถึง 1,900 ล้านดอลลาร์ สำหรับการเพิ่มประเภทสินค้าหรูหราผลิตภัณฑ์ฟุ่มเฟือยอย่างน้ำหอม กระเป๋า และเครื่องสำอางให้มากขึ้น เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับบริษัท

ที่ต้องใช้เงินทุนมหาศาลเพื่อการเพิ่มสินค้าก็เพราะว่า กลยุทธ์ของหลุยส์ วิตตองในการนี้คือ การซื้อกิจการบริษัทอื่น ๆ ที่อยู่ในธุรกิจประเภทเดียวกันและเป้าหมายใหญ่ที่สำคัญของบริษัทในตอนนี้ก็คือ ลอรีอัล บริษัทเครื่องสำอางชั้นนำของฝรั่งเศส

ลอรีอัลเป็นองค์การที่ใหญ่กว่าแอลวีเอ็มเอชเท่าตัว และมียอดขายเท่ากับปีละ 6,000 ล้านดอลลาร์ แต่ประธานบริษัทวัย 44 ปีผู้นี้ ก็ไม่เคยย่อท้อ หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนโฉมแอลวีเอ็มเอชจากบริษัทสิ่งทอเล็ก ๆ มาเป็นบริษัทสินค้าฟุ่มเฟือยชั้นนำของโลก ส่วนเงินที่จะนำมาใช้ซื้อลอรีอัลก็มาจากการแลกหุ้นกันระหว่างบริษัทกับกินเนสส์ บริษัทเบียร์ยักษ์ใหญ่ของโลกในอังกฤษโดยกินเนสส์ได้เทขายหุ้น 24% ในแอลวีเอ็มเอชเพื่อมาซื้อหุ้น 34% ในโมเอต์ เฮนเนสซี่ บริษัทเชมเปญและคอนญัคของแอลวีเอ็มเอช

มีแนวโน้มมากเช่นกันว่าลอรีอัลอาจจะถูกเข้าซื้อได้เป็นผลสำเร็จ ความจริงอาโนลด์เคยบอกอยู่เสมอว่า เขาพยายามหลีกเลี่ยงการเข้าซื้อบริษัทที่มีการจำหน่ายสินค้าเฉพาะอย่างแบบเทขายเป็นจำนวนมาก แต่ทว่าตอนหลังอาโนลด์กลับกล่าวว่า “บริษัทแบบไหนก็ซื้อได้ถ้ามีความมั่นคงพอ”

ถ้าแผนการเข้าซื้อหุ้นลอรีอัลของอาโนลด์ล้มเหลว เขาก็ยังมีแผนเข้าซื้อซาโนฟี่ บริษัทผลิตยาของฝรั่งเศส ที่เป็นกิจการเอลฟ์ อาควิแต็ง บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศสเช่นเดียวกัน เนื่องจากในปีที่ผ่านมา ซาโนฟี่ได้เข้าซื้ออีฟ แซ็งลอแล็งต์ บริษัทเสื้อผ้าและน้ำหอมชั้นนำท่ามกลางคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักซึ่งถ้าแอลวีเอ็มเอชเข้าซื้อหุ้นในซาฟีโนจริงก็คงจะเก็บกิจการของซาโนฟีไว้เฉพาะส่วนน้ำหอมและเครื่องสำอางเท่านั้น ส่วนกิจการที่เหลือก็คงจะขายทอดตลาดแน่นอน

ในขณะที่แผนของราชาสินค้าหรูอย่างอาโนลด์กำลังเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา นักวิเคราะห์หลายรายกลับมองว่า การที่กินเนสส์ยอมขายหุ้นของแอลวีเอ็มเอชนั้นเท่ากับเปิดทางให้อาโนลด์มีโอกาสกุมอำนาจการบริหารในบริษัทมากขึ้น ซึ่งถ้าปราศจากการทัดทานของกินเนสส์เสียแล้วนักการตลาดเกรงว่า เขาอาจจะกว้านซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า เพราะก่อนหน้านี้กินเนสส์เคยตั้งคำถามอาโนลด์ในเรื่องที่เขาไปซื้อกิจการสำนักพิมพ์ฝรั่งเศส 2 แห่งในปีที่ผ่านมา ซึ่งเขาก็ให้เหตุผลว่า ซื้อไว้เพื่อไม่ให้ตกเป็นของบริษัทต่างชาติ

ความอ่อนไหวของตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยสร้างความประหลาดในแก่อาโนลด์อย่างมาก หลังจากที่ข่าวการกว้านซื้อกิจการของเขาถูกปล่อยออกไป ส่วนต่างกำไรของสินค้ากระเป๋าและน้ำหอมของบริษัทก็เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า เมื่อเทียบกับบรั่นดี อาโนลด์กล่าวว่า การที่บริษัทเริ่มถอนตัวออกจากสินค้าประเภทสุรา จะทำให้ผลกำไรที่ตกต่ำลงของแอลวีเอ็มเอชกลับกระเตื้องขึ้น และไม่ว่าจะมากหรือน้อย อาโนลด์ก็จะยังเดินหน้าแผนการซื้อกิจการของเขาต่อไป


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.