"ผมคิดว่าเมืองไทยน่าจะจัดประกวดนางงามจักรวาลนานแล้ว !"

"ผมคิดว่าเมืองไทยน่าจะจัดประกวดนางงามจักรวาลนานแล้ว !"

นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2534)

กลับสู่หน้าหลัก

คีรี กาญจนพาสน์ ไม่ได้พูดล้อเล่นในประโยคข้างต้นนี้ แต่เขาจะจัดงานประกวดนางงามจักรวาลขึ้นมาจริง ๆ ในปี 2535 นี้ ซึ่งเป็นปีที่ประเทศไทยจะมีโครงการเฉลิมฉลองพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 ปี

งานนี้คีรีไม่ได้มองมันในฐานะการค้าที่มุ่งหวังกำไรแต่มันเป็นความบันเทิงใจที่เขาสามารถจะหามาได้ เป็นการได้รังสรรค์งานสวยงานที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก เหมือนกับศิลปะที่ระบายสีสวย ๆ บน ผืนผ้าใบ

"งานนี้ความจริงไม่ได้เป็นกำรี้กำไรเท่าไหร่ แต่ผมเห็นสมควรจะต้องทำ เพราะว่ามันดีต่อการท่องเที่ยวของไทย และผมพยายามทำอะไรที่ออกมาดีต่อประเทศชาติ ให้พลับบลิคได้ชื่นใจกับงาน เพราะเครียดกันเหลือเกิน" ความสุขฉายแววอยู่ในดวงหน้าและรอยยิ้มของคีรี กาญจนพาสน์เมื่อเอ่ยถึง

ลิขสิทธิ์การจัดประกวดนางงามจักรวาลนี้ คีรีได้มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยผ่านการประสานงานจากบริษัทที่เคยจัดประกวดนางงามในฮ่องกง และจะไม่ประกาศอย่างเป็นทางการในไทย จนกว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในงานประกวดนางงามจักรวาลปีนี้ที่โอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคมนี้

งานนี้คีรียอมจ่ายไป 25 ล้าน เพื่อให้ได้มาซึ่งลิขสิทธิ์จากบริษัท มิสยูนิเวอร์ส พร้อมทั้งเตรียมติดต่อจะใช้ศูนย์ประชุมเวิร์ลแบงก์เป็นสถานที่จัดประกวดขนาดยักษ์ที่จุผู้ชมได้ถึง 2 พันคน โดยจัดเตรียมที่นั่งฟรีสำหรับบริษัทมิสยูนิเวอร์ส 500 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังต้องจัดห้อง พักให้บรรดาสาวงามจากนานา ประเทศ 250 ห้อง และอีก 75 ห้องสำหรับพี่เลี้ยงนางงาม ที่ติดตามมา พร้อมด้วยตั๋วเครื่องบินโดยสาร ชั้นหนึ่งจำนวน 225 ที่นั่งตลอดจนค่าอาหารและที่พักตลอดสองอาทิตย์ที่บรรดานางงามอยู่เมืองไทย

คีรีมองเห็นผลลัพธ์ที่ได้รับจากงานนี้อยู่หลายประการ หนึ่ง-พอเขาประกาศตูมไปว่าจะจัดงานยักษ์ใหญ่ชิ้นนี้ มันก็จะกลายเป็นข่าวดังที่สร้างความฮือฮาต่อสาธารณชนทั่วโลกขึ้นมาทันที สื่อมวลชนทุกฉบับในโลกจะต้องลงข่าวนี้ แค่นี้ก็คุ้มค่ามากพอแล้วสำหรับการทำประโยชน์ธุรกิจที่จะตามมาในเรื่องของโฆษณาที่มีการตั้งงบประมาณไว้ 130 ล้านบาท

สอง-เป็นการเผยแพร่ชื่อเสียงของประเทศเจ้าภาพอย่างไทย จะได้โฆษณาประชาสัมพันธ์ความสวยงามของศิลปวัฒนธรรมไทยไปยังผู้ชมรายการทั่วโลกนับล้าน ๆ คนใน 65 ประเทศทั่วโลกเป็นเวลา 11-15 นาที สลับการถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมอีก 2 ชั่วโมงเต็ม

ค่าใช้จ่ายที่สูงเป็นเงินนับหลายร้อยล้านบาทนี้ เป็นเรื่องที่แน่นอนแล้วว่าภาคเอกชนอย่าง กลุ่ม ธนายงจะต้องเป็นตัวหลัก ขณะที่ทางภาครัฐอย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะทำได้เพียงช่วยประสานงาน และประชาสัมพันธ์ แต่ไม่สามารถสนับสนุนการเงินได้

เงินมักจะเป็นตัวตัดสินปัญหาขั้นสุดท้ายเสมอ และนับว่าคีรีโชคดีมากที่สามารถจ่ายเงินราคา สูง ๆ สำหรับสร้างสิ่งที่ดีที่สุดได้ เป็นงานประวัติศาสตร์ชิ้นหนึ่งที่เขาได้สร้างความตื่นเต้นและความกระหายให้เกิดขึ้นกับคนทั่วโลกได้

กลับสู่หน้าหลัก

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย