ตลาดซอฟต์แวร์ภาษีในสหรัฐฯ บูมจัด


นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2534)



กลับสู่หน้าหลัก

เมษายนเป็นกำหนดเส้นตายให้ชาวอเมริกันผู้มีเงินได้ทุกคนต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ประจำปี ปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น คือ ซอฟต์แวร์ภาษีบูมจัดขายกันแทบไม่ทัน เพราะปีนี้มีชาวอเมริกันราว 650,000 คนที่มีแนวโน้มยื่นแบบเสียภาษีด้วยการใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ อาทิ เทอร์โบแท็กซ์ หรือแม็คอินแท็กซ์ ถือเป็นตัวเลขที่เพิ่มจากปีที่แล้วถึงครึ่งต่อครึ่ง และศักยภาพการเติบโตของตลาดซอฟต์แวร์ภาษีก็สูงมากด้วย เพราะมีชาวอเมริกันที่ต้องเสียภาษีเงินได้ประจำปีอยู่ถึง 120 ล้านคน และส่วนใหญ่ก็ต้องยื่นแบบเสียภาษีทั้งในส่วนของภาครัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น ที่สำคัญผู้ใช้ซอฟต์แวร์ภาษีต้องอัพเดท ซอฟท์แวร์ทุกปี

สำหรับโปรแกรมเบื้องต้นที่ขายกันในตลาดนั้น สนนราคาอยู่ที่ 50 ดอลลาร์โดยประมาณ ซอฟต์แวร์เหล่านั้นล้วนให้คำแนะนำแก่ผู้ใช้ในลักษณะเดียวกับคำถามที่เจ้าหน้าที่ผู้เก็บภาษีจะถามพวกเขาถ้าเป็นซอฟต์แวร์ที่มีความซับซ้อนมาก ๆ จะสามารถเตือนผู้ใช้ได้ด้วยว่า ค่าหักลดหย่อนของพวกเขามากจนถึงระดับที่จะทำให้เจ้าหน้าที่จับตาได้

ซอฟต์แวร์ภาษีมีหน้าที่คำนวณและพิมพ์แบบแสดงรายการเสียภาษีออกมาในขั้นสุดท้าย ซึ่งสามารถยื่นแบบเสียภาษีที่ว่านี้ไปให้ผู้ตรวจสอบทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ และดูเหมือนเจ้าหน้าที่เอง ก็ชอบด้วย เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้ส่วนหนึ่ง

ซอฟต์แวร์ภาษีนี้ถือได้ว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของตลาดค้าปลีกซอฟต์แวร์ที่มีอัตราการเติบโตเร็ว ที่สุดในสหรัฐ ฯ และเป็นตลาดที่เริ่มต้นจากความที่ไม่มีอะไรจนกระทั่งมีมูลค่ายอดขายต่อปีถึง 100 ล้านดอลลาร์ ภายใน 6 ปีเท่านั้น ส่วนผู้ซื้อมักมีอายุระหว่าง 35-45 ปี มีรายได้ต่อปี 100,000 ดอลลาร์ขึ้นไป ปัญหาสำหรับผู้ใช้ซอฟต์แวร์ภาษีก็คือ ต้องไม่ลืมอัพเดทข้อมูลของตัวเองเท่านั้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.