บอร์ดบินไทยเด้งโครงสร้างเงินเดือนใหม่

บอร์ดบินไทยเด้งโครงสร้างเงินเดือนใหม่

ผู้จัดการรายวัน(31 มีนาคม 2548)

กลับสู่หน้าหลัก

บอร์ดการบินไทย สั่งฝ่ายบริหารทบทวนโครงสร้างเงินเดือนใหม่ เน้นเพิ่มเงินเดือนฝ่ายปฏิบัติงานมากกว่าฝ่ายบริหาร คาดจะทำให้มีรายจ่ายเพิ่มปีละ 900 ล้านบาท พร้อมสั่งทำแผนเพิ่มรายได้ชดเชย และอนุมัติขึ้นเซอร์-ชาร์จน้ำมันอีก 5 เหรียญสหรัฐต่อที่นั่ง สหภาพฯตบเท้าพบ "สุริยะ" ร้องโครงสร้างเงินเดือนไม่เป็นธรรม แฉเงินเดือนใหม่ฝ่ายบริหารทะลุเพดานเดิม แถมได้รับค่าผลตอบแทนพิเศษเพิ่มอีก 28-42%

นายวันชัย ศารทูลทัต ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังประชุมบอร์ดการบินไทย วานนี้ (30 มี.ค.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาโครงสร้างเงินเดือนใหม่ โดยได้สั่งให้มีการทบทวนใหม่ ซึ่งการปรับเงินเดือนจะต้องให้ความสำคัญกับพนักงานในระดับผู้ปฏิบัติ เช่น นักบิน ลูกเรือ และฝ่ายคาร์โก้ จะได้รับการปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้นมากกว่าระดับบริหาร และเร่งฝ่ายบริหารหาแนวทางในเพิ่มรายได้ปี 2548 อีกไม่น้อยกว่า 1,480 ล้านบาท เพื่อชดเชยกรณีที่บริษัทจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในการปรับเงินเดือนใหม่ และหากไม่สามารถดำเนินการได้ภายใน เดือน ส.ค.นี้ก็อาจต้องพิจารณางดเว้นการจ่ายโบนัสพนักงานด้วย

ทั้งนี้ ได้มีมติมอบหมายให้นายชัยอนันต์ สมุทวณิช และนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะกรรมการบอร์ดร่วมพิจารณารายละเอียดการปรับโครงสร้างเงินเดือน ซึ่งคาดว่าการปรับเงินเดือนจะทำให้การบินไทยมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 73 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 900 ล้านบาทต่อปี คิดเป็น 1% ของรายได้รวมทั้งหมด และหลังปรับโครงสร้างเงินเดือนใหม่ พนักงานจะต้องเป็นผู้รับภาระในการชำระภาษีเงินเอง โดยจะมีการคำนวณจ่ายย้อนหลังให้พนักงานถึงเดือน ต.ค.2547 ที่ผ่านมาด้วย

ส่วนกรอบแนวทางในการเพิ่มกลยุทธ์เพื่อทำรายได้เพิ่มขึ้นอีก 1,480 ล้านบาทนั้น นายวันชัยกล่าวว่า ที่ประชุมได้วางกรอบแนวทางหลักในการบริหารงาน ให้ฝ่ายบริหารหาตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารเพื่อขยายไปยังตลาดผู้โดยสารชั้น 1 และชั้นธุรกิจมากขึ้น จะต้องมีการจัดตั้ง Call Center ขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูล ให้มีการขยายระบบการจองตั๋วล่วงหน้าเพื่อขยายไปยังระบบอื่นๆ ให้กว้างขึ้น เช่น ระบบอมาดิอุส ระบบซีคอาร์เอส เป็นต้น และจะต้องเร่งเปิดประมูลโดยระบบอีอ็อกชันเพื่อลดต้นทุนได้อีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้อนุมัติให้มีการปรับค่าเซอร์ชาร์จน้ำมันเพิ่มขึ้น สำหรับผู้โดยสารต่างประเทศปรับเพิ่มอีก 5 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อเที่ยว เช่น เส้นทางบินภายในทวีปเอเชียเพิ่มจาก 10 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อเที่ยว เป็น 15 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อเที่ยว เส้นทางบินข้ามทวีปปรับเพิ่มจาก 20 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อเที่ยว เป็น 25 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อเที่ยว ส่วนเส้นทางบินภายในประเทศปรับเพิ่มขึ้นอีก 100 บาทต่อคนต่อเที่ยว ซึ่งจะให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการบิน- พลเรือน(กบร.) ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคมเป็นประธานก่อน

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การบินไทยได้เข้าพบโดยร้องขอความเป็นธรรมกรณีที่ฝ่ายบริหารการบินไทยพิจารณาโครงสร้างเงินเดือนล่าช้าไม่เป็นไปตามที่ได้รับปากกับพนักงาน และโครงสร้างเงินเดือนใหม่ไม่มีความเป็นธรรมกับพนักงานระดับล่าง โดยระบุว่า ผลการศึกษาโครงสร้างเงินเดือนใหม่ที่ เฮ กรุ๊ปเป็นที่ปรึกษาเสนอมานั้น ฝ่ายบริหารได้รับการปรับเงินเดือนฐานขั้นต่ำสูงกว่าฐานขั้นต่ำของโครงสร้างเงินเดือนเดิม 50% และเพดานขั้นสูงโครงสร้างใหม่ทะลุเพดานเดิมในขณะที่พนักงานระดับ 1-7 จะปรับเงินเดือนฐานขั้นต่ำสูงกว่าฐานเดิมในอัตราที่น้อยกว่าและเพดานขั้นสูงโครงสร้างใหม่ยังคงเท่าเพดานโครงสร้างเดิม

นอกจากนี้ ผลศึกษาของเฮ ยังได้เสนอให้กำหนดค่าตอบแทนพิเศษสำหรับฝ่ายบริหาร โดยอ้างว่าเพื่อความเป็นธรรมแก่พนักงานระดับบริหารที่ต้องรับผิดชอบงานที่มีผลกระทบต่อองค์กรสูง ซึ่งจะทำให้ตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ได้รับค่าตอบแทนพิเศษเพิ่มอีก 30% ระดับผู้อำนวยการได้รับค่าตอบแทนพิเศษเพิ่ม 42% ระดับ ผู้จัดการกองได้รับค่าตอบแทนพิเศษเพิ่ม 28% และระดับผู้จัดการแผนกได้รับค่าตอบแทนพิเศษเพิ่ม 3%

"ได้มอบนโยบายแก่ประธานบอร์ดการบินไทยให้เร่งพิจารณาเรื่องโครงสร้างเงินเดือนการบินไทย และข้อสรุปจะต้องมีเหตุผลอธิบายพนักงานได้ โดยเฉพาะประเด็นที่ฝ่ายบริหารได้รับการปรับเงินเดือนมากกว่าพนักงาน" นายสุริยะกล่าว

กลับสู่หน้าหลัก

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย