|
บันเทิง ตันติวิท ตอนนี้ต้องเรียกเขาท่านประธานฯ
นิตยสารผู้จัดการ( มีนาคม 2531)
กลับสู่หน้าหลัก
เวลา 7 ปีเศษไม่ใช่ระยะเวลาที่ยาวนานมากนัก แต่สำหรับธนชาติแล้วก็น่าจะต้องนับว่าเป็นเวลา ที่สนุกสุขใจมาก ๆ
ธนชาติดำรงฐานะเป็นสถาบันการเงินภายหลังแบงก์ไทยพาณิชย์ตัดสินใจมอบหมายให้ธนสยามสถาบันการเงินในเครือเข้า TAKE OVER บริษัทแคปปิตัลทรัสต์เมื่อปี 2523 ขณะนั้นแคปปิตัลทรัสต์ (หรือลีกวงมิ้งอดีตโรงงานทอผ้าที่หันมาเอาดีทางด้านธุรกิจการเงินแต่เผอิญเอาดีไม่ได้) บักโกรกอย่างหนักด้วยยอดขาดทุนสะสม 234.7 ล้านบาท ขณะที่ครอบครองสินทรัพย์อยู่เพียง 216.3 ล้านบาทเท่านั้น
ธนชาติถือกำเนิดขึ้นมาในยุทธจักรพร้อม ๆ กับการดึงตัวนักการเงินมือดีจาก "ทิสโก้" เข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ
เขาชื่อบันเทิง ตันติวิท
และฐานะปัจจุบันของธนชาติที่ยอดสินทรัพย์พุ่งขึ้นเป็นเกือบ 4 พันล้านบาท กำไรสะสม139.3 ล้านบาทในรอบปี 2530 ที่ผ่านมาย่อมพิสูจน์ได้เด่นชัดว่า การตัดสินใจดึงบันเทิงเข้ารับหน้าที่เป็น "ขุนศึก" นั้นถูกต้องและเหมาะสมอย่างยิ่ง
บันเทิง ตันติวิท ปัจจุบันอายุ 43 ปี เขาเป็นลูกชายเจ้าของกิจการเหมืองแร่ที่ภูเก็ต เป็นศิษย์เก่า วชิราวุธ สำเร็จปริญญาตรีวิศวกรรมไฟฟ้าจาก MIT (MASSACHUSETTS INSTITUTE OF TECHNOLOGY) และปริญญาโทบริหารธุรกิจทางด้าน FINANCE SLOAN SCHOOL OF MANAGEMENT ที่ MIT และเริ่มงานครั้งแรกที่ "ทิสโก้"
บันเทิงอยู่ "ทิสโก้" ประมาณ 10 ปี ตำแหน่งสุดท้ายเป็นกรรมการผู้จัดการ (ซึ่งยุคนั้นทิสโก้ตั้งไว้ถึง 4 คนด้วยกัน) ก่อนจะลาออกมาทำหน้าที่ที่ธนชาติ ซึ่งว่ากันว่าเป็นงานที่สุ่มเสี่ยงขณะเดียวกันก็ท้าทายมาก
ระยะเวลาเพียง 7 ปีเศษของธนชาตินั้นจะว่าสั้นก็คงจะไม่มีใครเถียง
แต่ถ้ามองควบคู่ไปกับอัตราการเจริญเติบโตที่รั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ กระทั่งเป็นบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ใหญ่โตแห่งหนึ่งในปัจจุบันแล้ว
การปรับโครงสร้างเพื่อรองรับสภาพข้อเท็จจริงของความใหญ่โตของกิจการก็เป็นเรื่องที่จำเป็น
อีกทั้งเพื่อให้ทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของตลาดเงินทั้งในและนอกประเทศ รวมทั้งปูนบำเหน็จความดีความชอบให้กับ "ขุนศึก" ที่ทำศึกจนได้รับชัยชนะ
ธนชาติที่โครงสร้างประกอบด้วยคณะกรรมการชุดใหญ่ ควบคุมดูแลทางด้านนโยบาย โดยมีกรรมการผู้จัดการทำหน้าที่บริหารก็เพิ่งจะกลายสภาพด้วยการเพิ่มคณะกรรมการบริหาร แทรกเข้าไปตรงกลาง
บันเทิง ตันติวิท ได้รับการโปรโมทอีกขั้นจากกรรมการผู้จัดการเข้าดำรงตำแหน่งรองประธานในบอร์ดใหญ่
และดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารในบอร์ดกรรมการบริหารที่เพิ่งจะตั้งขึ้น
ส่วนผู้ที่ขึ้นมาทำหน้าที่กรรมการผู้จัดการแทนบันเทิง ก็คือ ศุภเดช พูนพิพัฒน์ อดีตรองกรรมการผู้จัดการผู้อาวุโสสูงสุด
หลาย ๆ คนระบุว่าธนชาตินั้นโตขึ้นมาจาก "หุ้น" ซึ่งก็มีส่วนจริงไม่น้อย
ความเจริญเติบโตในปัจจุบันอันส่งผลถึงการปรับโครงเพื่อเพิ่มความทะมัดทะแมงเพียงเพื่อรองรับธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์กระนั้นหรือ?
คงไม่ใช่เพียงนั้นแน่นอน
มันน่าจะมีความหมายไปถึงธุรกิจใหม่ ๆ อีกหลายแขนงอย่างเช่นทางด้านลีสซิ่งรวมอยู่ด้วย
บันเทิง เมื่อวันก่อนอาจจะทำหน้าที่เป็น "ขุนศึก" นำทัพเข้าพันตูในสนามรบ โดยเลือกยุทธภูมิอย่างขุนศึกที่ชาญฉลาดและเข้าใจสถานการณ์ เขาไม่ใช่มุ่งแต่เรื่อง "หุ้น" ในยุคที่ตลาดหุ้นซบเซา เขาพิสูจน์แล้วว่าธนชาติสามารถปรับตัวแสวงหาธุรกิจใหม่ ๆ ได้อย่างทันการณ์ ขณะเดียวกันเมื่อตลาดหุ้น "บูม" เขาก็สามารถตักตวงกำไรได้ถนัดมือ
นับจากวันนี้ไปเขาจะต้องพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง
ในฐานะประธานกรรมการบริหารที่เน้นหนักงานด้านนโยบาย กำกับดูแล "ขุนศึก" ที่ขึ้นมาแทนเขาบ้าง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|