|
กลุ่มเซ็นทรัล จะก้าวออกไปแบบไหน?
นิตยสารผู้จัดการ( มีนาคม 2531)
กลับสู่หน้าหลัก
นับจาก "นี่เตียง จิราธิวัฒน์" ก่อตั้งห้างฯ เซ็นทรัลวังบูรพาเป็นแห่งแรกเมื่อปี 2499 จนถึงวันนี้ห้างฯเซ็นทรัลมีอายุย่าง 32 ปีแล้ว
วันนี้ของเซ็นทรัลก้าวมาไกลกว่าเมื่อตอนที่นี่เตียง จิราธิวัฒน์เริ่มต้นไว้มาก เซ็นทรัลขยายตัวจากห้างฯเซ็นทรัลวังบูรพาไปสู่ห้างฯเซ็นทรัลที่สีลม ซึ่งเป็นการขยายตัวครั้งสุดท้ายของนี่เตียง CENTRAL FOUNDER ยุคที่หนึ่ง ซึ่งเป็นการจากไปโดยไม่ร่ำลาของ KING OF DEPARTMENT STORE ผู้ทิ้งปัญหาสะสมเอาไว้พอประมาณ แต่สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ "ตั้วโก" ของจิราธิวัฒน์ผนึกกำลังพี่น้องฝ่ามรสุมมาได้แม้ว่าในช่วงแรก ๆ จะกระอักบ้างก็ตาม
เซ็นทรัลในยุคที่หนึ่ง (นี่เตียง แซ่เจ็ง 2490-2511) มีธุรกิจหลักคือการ IMPORT สินค้ามาขายเริ่มจากหนังสือและ CONSUMER PRODUCT อื่น ๆ ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบขายปลีก ( RETAILING) แม้ยุคที่สองช่วงแรก ๆ ภายใต้การนำของสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ ก็ยังดำเนินตามแนวนี้อยู่ หลังจากนั้นมาเซ็นทรัลก็แตกหน่อก่อสาขามาเรื่อย ๆ จากวังบูรพา มาสู่สีลม ชิดลม ลาดหญ้า ลาดพร้าว
พร้อม ๆ กับการขยายตัวทางด้านห้างสรรพสินค้าที่ถือเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มเซ็นทรัล เซ็นทรัลก็ได้ขยายตัวไปสู่อุตสาหกรรมการผลิตมากขึ้นเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักเสียเป็นส่วนใหญ่
เซ็นทรัลก้าวเข้าไปสู่ธุรกิจการ์เม้นท์ นั่นเป็นเพราะเซ็นทรัลมีห้างสรรพสินค้าเป็น OUTLET ของตัวเองอยู่มากมาย
หากเหลียวดูการขยายตัวของเซ็นทรัลแล้วจะเห็นว่าเซ็นทรัลมีการขยายตัวตามแนวตั้ง (VERTICAL DIVERSIFICATION) การลงทุนในการกิจการต่าง ๆ มักจะมีส่วนสัมพันธ์กับธุรกิจหลักเสียเป็น ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเซ็นทรัลการ์เม้นท์ แฟคตอรี่ ที่มีสุทธิเกียรติดูแลหรือจะเป็นเซ็นทรัลสปอร์ตที่ผลิตเครื่องกีฬายี่ห้ออาดิดาสหรือจะเป็นการซื้อแฟรนไชส์ของเคนดั๊กกี้ฟรายด์ชิกเก้น ซึ่งเจริญก้าวหน้าไปด้วยดีพร้อม ๆ กับลูกค้าของห้างที่เพิ่มขึ้น จนภายหลังได้เข้าไปซื้อกิจการมิสเตอร์โดนัทมาจากกลุ่มไมเนอร์โฮลดิ้ง ซึ่งได้ทำการขยายสาขาไปอีก 4 สาขาในปีนี้ หรือโรงงานผลิตลูกอมก็เช่นกัน
และปี 2531 นี้ก็จะเป็นปีที่กลุ่มเซ็นทรัลบุกหนักอีกครั้งหนึ่ง เป็นการลงทุนร่วมกับเกาหลีตั้ง โรงงาน ผลิตกระเป๋าอาดิดาสและแซมโซไนท์ ซึ่งโครงการแรกจะส่งออก 100% ส่วนโครงการสองจะผลิตเพื่อขายภายในประเทศอันสัมพันธ์กับสมมุติฐานที่ว่าไว้
ส่วนอีกโครงการหนึ่งก็คือการตกลงร่วมลงทุนกับบริษัทเค.เอฟ.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ "เคนดั๊กกี้" ฟรายด์ชิ้กเก้น" ซึ่งในอดีตเซ็นทรัลเป็นเพียงผู้ซื้อแฟรนไชส์เท่านั้น
ผู้สันทัดกรณีวิเคราะห์ว่าในอนาคตเซ็นทรัลจะเข้าไปทำธุรกิจในแนวที่ตนถนัดหรือสัมพันธ์กับธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่ตนเองมีความชำนาญมากขึ้นอย่างเช่นการเปิดสาขาที่หัวหมากหรือการเปิดมินิมาร์ทตามจุดต่าง ๆ ทั่วกรุงหรือตามชานเมืองมากขึ้น เซ็นทรัลจะพยายามหลีกเลี่ยงธุรกิจที่ไม่ชำนาญซึ่งอาจจะส่งกระทบกระเทือนต่อผลประกอบการของกลุ่ม อย่างเช่นการทำธุรกิจโรงแรมที่เข้าร่วมกับทาง ไฮแอท ซึ่งประสบการขาดทุน ซึ่งในตอนแรกคาดว่าจะคุ้มทุนภายใน 5 ปีแต่ในปัจจุบันก็ยังประสบปัญหาการขาดทุนเรื้อรังอยู่ในระยะหลังจะเพิ่มทุนซึ่งว่ากันว่าทำให้ทางไฮแอทไม่พอใจเป็นอันมากถึงกับถอนตัวออกไป ซึ่งข่าวล่าสุดกับทางบริษัทอัมรินทร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เซ็นสัญญาในระยะยาวถึง 20 ปี นั่นแสดงว่าไฮแอทพออกพอใจกับภาวะตลาดในเมืองไทยแต่ไม่พอใจกับผลการดำเนินงานของโรงแรมเซ็นทรัลจึงไม่ยอมร่วมสังฆกรรมต่อไป
เซ็นทรัลในวันนี้ยังคงท้าทายอีกครั้งกับการทำโรงแรมที่หัวหินว่าธุรกิจที่เขาไม่ถนัดถ้าเป็นขนาดย่อมลงมาเป็นอีกมิติหนึ่งของโรงแรม ทั้งทำเลที่ตั้งและขนาดรวมกับการบริหารของโซฟิเทลที่เชี่ยวชาญก็อาจจะไปรอด
การพัฒนารุ่นที่สามที่เพิ่งกลับจากเรียนบริหารธุรกิจจากต่างประเทศก็กำลังดำเนินอยู่
โรงแรมเซ็นทรัลและรุ่นที่สามเป็นปัญหาที่ท้าทายกลุ่มเซ็นทรัลรุ่นที่สองอยู่ในขณะนี้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|