|

อัลคาเทลมุ่งเอ็นจีเอ็นจับตลาดองค์กร เชื่อสื่อสารยุคหน้าหนึ่งเดียวทุกระบบ
ผู้จัดการรายวัน(29 มีนาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
อัลคาเทลมุ่งนำโซลูชัน NGN คลุมตลาดผู้ใช้ทั้งโอเปอเรเตอร์และกลุ่มองค์กรธุรกิจ ที่ต้องการผู้บริหารระบบแบบมืออาชีพ ช่วยลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ วิเคราะห์อนาคตอันใกล้ผู้บริโภคเป็นผู้ชี้ชะตาของการสื่อสาร ที่ต้องไม่ขาดการติดต่อเชื่อมโยงทั้งโมบายและฟิกซ์ไลน์เข้าด้วยกัน ทั้งเชื่อมโยงเครือข่าย พัฒนาสู่ “Triple Play” รวมการใช้งาน เสียง ข้อมูล วิดีโอ บนเครือข่ายเดียวกัน
นายฟาซาล บาซาร์ดีน รองประธานและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มฟิกซ์ โซลูชัน และเครือข่าย NGN และนายเกตอง แวร์เอช ผู้อำนวยการฝ่ายการพัฒนาธุรกิจ กลุ่มโมบายล์ คอมมิวนิเคชั่นส์ อัลคาเทล เอเชีย แปซิกฟิก อัลคาเทล เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า ในปี 2548 อัลคาเทลมีการปรับทิศทางการทำตลาดโซลูชัน Next Generation Networks (NGN) ในประเทศไทยใหม่ จากเดิมมุ่งนำเสนอโซลูชันนี้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นโอเปอเรเตอร์เป็นหลัก มาเป็นการให้ความสำคัญกับกลุ่มเอ็นเตอร์ไพร์ส หรือองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ด้วย โดยจับกลุ่มองค์กรที่ต้องการผู้เข้ามาบริหารระบบงานด้วยโซลูชั่นของ NGN ที่สามารถใช้งานได้ทั้งระบบพื้นฐานและระบบเคลื่อนที่
กลยุทธ์ของการสร้างเครือข่าย NGN คือโซลูชัน Open to Enhanced Network (OPEN) ทำให้ผู้ให้บริการสามารถให้บริการบรอดแบนด์ในระดับสูงได้ โดยไม่ส่งผลกระทบกับการให้บริการด้านเสียงโดยเฉพาะรายได้ เข้าสู่การใช้งานมัลติมีเดียอย่างเต็มรูปแบบ
อัลคาเทลชี้ให้เห็นความเป็นไปได้ของการเข้าสู่ NGN ขององค์กรขนาดใหญ่จากความต้องการหาผู้ช่วยบริหารสื่อสารขององค์กร โดยผู้บริหารเครือข่ายจะเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุดที่เข้าไปช่วยบริหารงานให้กับองค์กรเหล่านั้น โดยอาจจับมือกับซัปพลายเออร์ในการนำโซลูชัน NGN เสนอลูกค้าองค์กรให้บริการในลักษณะศูนย์กลางได้ เช่นระบบ Unified Messaging, ระบบ Virtual Offioe, ระบบ Intelligint Mobile Redirect ระบบ Voice-over-IP และ Video Telephony
“อัลคาเทลคาดว่าจะสามารถทำตลาดโซลูชัน NGN ในปีนี้ได้มากกว่าในปีที่ผ่านมาจากการขยายกลุ่มเป้าหมายมาครอบคลุมกลุ่มองค์กรธุรกิจมากยิ่งขึ้นจากเดิมที่ให้ความสำคัญกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นโอเปอเรเตอร์เพียงตลาดเดียว รวมทั้งเห็นแนวโน้มของตลาดผู้ใช้ NGN ในภูมิภาคนี้ที่อยู่ในระหว่างการขยายตัวอย่างมาก”
นอกจากอัลคาเทลได้ Chaina Telecom และ China Netcom เป็นลูกค้าใช้โซลูชัน NGN ในภูมิภาคนี้แล้ว ล่าสุดยังได้ TA Orange เป็นลูกค้ามูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท พร้อมอยู่ในระหว่างการติดต่อกับโอเปอเรเตอร์อีกหลายที่ให้ความสนใจโซลูชัน NGN
วิชั่นอัลคาเทล
นายฟาซาลกล่าวว่า ในอนาคตอันใกล้จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงด้านไอทีที่เกิดจากการรวมตัวกันคือ 1.การรวมตัวกันของไอทีและด้านเทเลคอมทางด้านเน็ตเวิร์กเพื่อสนองความต้องการลูกค้าให้มากยิ่งขึ้นสามารถใช้งานได้ทั้งฟิกซ์ไลน์และโมบายโดยไม่ขาดการติดต่อ 2.เกิดแอปพลิเคชันของการใช้งานที่เรียกว่า “Triple Play” ที่ทำผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้ทั้ง VOICE DATA VDO ได้พร้อมกันในสายเดียวกัน ในส่วนของโอเปอเรเตอร์ก็จะมีรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น และ 3.เกิดการรวมตัวกันของโมบายและฟิกซ์ไลน์เพื่อสนองความต้องการลูกค้า
ผู้บริหารอัลคาเทล กล่าวว่า ปัจจุบันมีการให้บริการในลักษณะ “Triple Play” แล้วในสหรัฐอเมริกาและสิงคโปร์ โดยเป็นผู้ให้บริการระบบเคเบิลด้วยบริการ วิดีโอ ออน ดีมานด์อยู่เดิม และมาเพิ่มการให้บริการ VOICE และ DATA เข้าไปด้วย ในเอเซียแปซิฟิกมีชงหวาเทเลคอม เน็ตเวิร์กโอเปอเรเตอร์ในไต้หวันให้บริการอยู่ ขณะที่อีกหลายโอเปอเรเตอร์อยู่ในระหว่างการทดลองใช้
ด้านนายเกตอง กล่าวว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในแง่ผู้บริโภค โดยชี้ให้เห็นความเปลี่ยนแปลงก่อนหน้านี้ 5-10 ปีว่า เริ่มเห็นการสื่อสารแบบโมบาย มีอินเทอร์เน็ตใช้ มีบรอดแบนด์เซอร์วิสที่ผ่านทางเครือข่ายต่างๆ เช่น ผ่านฟิกซ์ไลน์ด้วย ADSL ผ่านไวร์เลสด้วย ไว-ไฟ และผ่านโมบายใช้ไวร์เลสบรอดแบนด์ แต่สิ่งที่จะได้เห็นในอนาคตอันใกล้จะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้บริการเป็นหลัก ว่าต้องการผ่านสื่อประเภทไหน อุปกรณ์รองรับประเภทไหน เช่น อยู่ที่สนามบินต้องการดูถ่ายทอดกีฬานัดโปรดก็สามารถดูผ่านมือถือได้ หรือโหลดข้อมูลจากออฟฟิศมาดูผ่านมือถือได้ หรือเมื่อถึงที่หมายก็ต้องสามารถสานต่อข้อมูลเดิมได้ โดยข้อมูลที่ได้ต้องเป็นชุดเดียวกัน และต้องไม่เริ่มต้นใหม่ในการใช้งาน รวมทั้งลงทะเบียนเพียงครั้งเดียวต้องสามารถใช้งานได้ทุกรูปแบบ ผ่านใบเสร็จรับเงินใบเดียวกัน
ปัจจุบันโอเปอเรเตอร์อีกหลายรายให้ความสนใจ “Triple Play” โดยปัจจุบันเทคโนโลยี 2.5G ที่เป็น GPRS หรือ EDGE ก็สามารถใช้ “Triple Play” ได้ แต่หากเน้นเรื่องคุณภาพการใช้งานก็ต้องเป็น 3G
“ในแง่อินฟราสตักเจอร์มีความพร้อมอยู่แล้ว อยู่ที่โอเปอเรเตอร์จะปรับมาใช้บริการนี้อย่างไร เมื่อไร ต้องดูความต้องของตลาด และกลยุทธ์ของแต่ละราย”
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|