เอไอเอสฉีกตัวเองหนีสงครามราคา ควงพันธมิตรเปิดบริการ “mLIVE”


ผู้จัดการรายวัน(29 มีนาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

เอไอเอสใช้เทคโนโลยี Interactive Cell Broadcast เปิด mLIVE CAF? เสิร์ฟทุกข้อมูลข่าวสาร ส่งตรงถึงมือถือทุกเครื่อง ไม่คิดค่าบริการรายเดือน ใครสนใจดาวน์โหลดข้อมูลไหนถึงจะเสียในอัตราปกติ ตามคอนเซ็ปต์กระตุ้นนอนวอยซ์ ใช้งานง่าย ไม่รบกวนใคร สามารถประยุกต์ใช้เป็นสื่อโฆษณาส่งตรงถึงผู้บริโภคและใช้ในการเตือนภัยของหน่วยงานรัฐ

นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริการสื่อสารไร้สาย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสเปิดบริการใหม่ mLIVE ที่จะเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือให้มีชีวิต เสิร์ฟทุกข้อมูลข่าวสาร ถึงหน้าจอโทรศัพท์มือถือ โดยผู้ใช้บริการสามารถเลือกได้ว่าจะเลือกรับข้อมูลข่าวสารประเภทไหน

“ผมต้องการฉีกตัวเองด้วยบริการที่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นในตลาด ที่กำลังเล่นกันแต่เรื่องสงครามราคา”

เทคโนโลยีที่ใช้ใน mLIVE คือ Interactive Cell Broadcast โดยจุดแข็งของเทคโนโลยีนี้อยู่ที่ 1.ไม่เป็นการรบกวนผู้ใช้บริการ เพราะไม่ได้ใช้เทคโนโลยี SMS ในการส่ง เป็นแค่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือแค่ช่วงเวลานั้นๆ 2.ไม่ยุ่งยากในการใช้งาน ไม่ต้องเข้าเมนูข้อความเพื่อเปิดดู เพียงแค่ตอบสนองการใช้งานบนหน้าจอเท่านั้น ไม่ต้องเป็นมือถือที่รองรับ MMS หรือไฮฟีดเจอร์ ก็สามารถใช้บริการได้ และ3.สามารถกระจายข้อมูลครั้งเดียวแต่ผู้ใช้บริการ 15 ล้านรายของเอไอเอสสามารถได้รับข้อมูลพร้อมกัน หรือเลือกที่จะกระจายข้อมูลข่าวสารเฉพาะในแต่ละพื้นที่ชุมสายนั้นๆได้ เพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะก็ได้

บริการ mLIVE จะทำให้โทรศัพท์มือถือเหมือนมีชีวิตเปรียบได้กับสื่อโฆษณาประเภทหนึ่งที่เจาะตรงกลุ่มเป้าหมาย มีความเหนือกว่าสื่อประเภทอื่นๆตรงที่ 1.Auto Serve เสิร์ฟให้โดยอัตโนมัติ ลูกค้าสะดวกในการรับข้อความ เพราะปรากฏหน้าจอเลย ไม่ต้องเข้าเมนูให้วุ่นวาย 2.Location Based สามารถเลือกส่งข้อความเจาะตรงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในพื้นที่อย่างเช่นคาร์ฟูร์ รัชดาสามารถส่งข้อมูลโปรโมชันสินค้าให้ลูกค้าที่เข้ามาในพื้นที่เฉพาะคาร์ฟูร์รัชดาเท่านั้น 3.Time สามารถบริหารเวลาในการส่งข้อมูลได้ทั้งแบบกำหนดช่วงเวลาการส่งไว้หรือส่งแบบทันที รวมถึงกำหนดความถี่ในการส่งได้เช่นกัน

4.Segment ด้วยคอนเทนต์ที่จัดแบ่งกลุ่มและไลฟ์สไตล์อย่างชัดเจน ทำให้ข้อความสอดคล้องกับความต้องการลูกค้าอย่างลูกค้าระบบโพสต์เพดหรือพรีเพด และ5.Personalization ลูกค้าสามารถเลือกบริโภคข้อมูลข่าวสารตรงตามไลฟ์สไตล์ตัวเองได้

“ถ้าไม่เลือกเลย แต่ละวันจะมีข้อมูลข่าวสารประมาณ 100-200 ข้อมูลปรากฏบนหน้าจอ แต่ลูกค้าสามารถเลือกได้เองว่าต้องการข่าวสารประเภทไหน อย่างไม่อยากได้ข่าวการเมือง หรือต้องการเฉพาะบันเทิง”

นอกจากนี้ เอไอเอสพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการ ในการใช้ประโยชน์จากบริการ mLIVE ในลักษณะการเป็นสื่อกระจายข้อมูลในลักษณะการเตือนภัยของหน่วยงานรัฐ อย่างกรมอุตุนิยมวิทยา หรือข้อมูลสาธารณะประโยชน์ของสภากาชาดไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมทั้งยังเป็นสื่อโฆษณาสำหรับเอเยนซี่โฆษณา หรือเจ้าของสินค้าที่ต้องการสื่อตรงถึงมือผู้บริโภค

“ลูกค้าไม่ต้องเสียค่าบริการใดๆ ทั้งสิ้น หากดูข้อมูล แต่ถ้าหากมีการดาวน์โหลดก็คิดค่าบริการในอัตราปกติ”

บริการ mLIVE เอไอเอสใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท รองรับการใช้งานในลักษณะที่มีการดาวน์โหลดได้ 2 ล้านราย แต่หากเป็นการดูข้อมูลบนหน้าจอโดยไม่ต้องมีการดาวน์โหลดก็สามารถใช้งานได้หลายล้านราย

นายอาทร เตชะตันติวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด จีเอสเอ็ม แอดวานซ์ กล่าวว่า บริการ mLIVE จะได้ในแง่การสร้างแบรนด์ เป็นกลยุทธ์ CRM ที่ช่วยรักษาฐานลูกค้า เพราะข้อมูลข่าวสารต่างๆจะทำให้ลูกค้ามีความรอบรู้ข้อมูลในแต่ละวันอย่างกว้างขวางมากขึ้น รวมทั้งในเรื่องช่วยให้ไม่ต้องเสียในเรื่องไม่ควรเสียอย่างจะรู้ข้อมูลการลดราคาสินค้า หรือรู้เรื่องการขึ้นราคาน้ำมัน โดยข้อมูลต่างๆของลูกค้าจีเอสเอ็ม แอดวานซ์จะเน้นเรื่องข้อมูลธุรกิจ ตามลักษณะผู้ใช้ที่เป็น Young Executive แตกต่างจากบริการวัน-ทู-คอล

จากปริมาณข้อมูลแต่ละวันแบ่งเป็น 80% จะเป็นข้อมูลที่ลูกค้าได้ประโยชน์และ20% จะเป็นการขายของผ่านการดาวน์โหลดต่างๆไม่ว่าจะเป็นเพลง โลโก ริงโทน

“ผมเชื่อว่าข้อมูลข่าวสารในแต่ละวันจะทำให้ลูกค้า Smart มากขึ้น”

ด้านนายวรุณเทพ วัชราภรณ์ ผู้จัดการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์วัน-ทู-คอล กล่าวว่า คอนเทนต์สำหรับลูกค้าวัน-ทู-คอล ที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นหรือเด็กแนวคงเน้นเรื่องความทันสมัย ประเภทหนัง เพลง ไลฟ์สไตล์ ความสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นข่าวซุบซิบดารา การเช็กดวงรายวัน

เอไอเอสจะเปิดบริการตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่จะถึงนี้ โดยลูกค้าใหม่ที่จดทะเบียนจีเอสเอ็มแอดวานซ์ และซื้อซิมวัน-ทู-คอล จะได้ Super SIM เพื่อรับบริการ mLIVE ทันที โดยคาดว่าภายในปีนี้จะมี Super SIM ในตลาดประมาณ 4-5 ล้านราย โดยในช่วงเปิดตัวจะให้บริการเฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑลก่อน หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือนจะพร้อมให้บริการทั่วประเทศ

ส่วนลูกค้าเก่าสามารถเปลี่ยนเป็น Super SIM ได้ในราคา 100 บาททั้งจีเอสเอ็มแอดวานซ์และวัน-ทู-คอล

ในงานเปิดตัว mLIVE เอไอเอสเดินตามกลยุทธ์ Integration Marketing ไม่ใช่แค่เปิดตัวเฉพาะบริการจากโมบายไลฟ์ แต่เป็นการเปิดตัวพร้อมระบบโพสต์เพดและพรีเพด รวมทั้งเป็นการเติบโตพร้อมพาร์ตเนอร์อย่างสามารถอินโฟมีเดีย ซึ่งจะมีคอนเทนต์ 4 ประเภทหลักที่ให้บริการคือกีฬา ดูดวง การดาวน์โหลดและเกม รวมทั้งมีแผนให้บริการคอนเทนต์ 3 มิติในอนาคต,ไอทีวีซึ่งจะมีการพัฒนาถึงระดับให้ดูรายละเอียดข่าวพร้อมวิดีโอ คลิป, เซ็ตเทรดที่นอกจากข้อมูลเบื้องต้นปริมาณการซื้อขาย ยังจะพัฒนาไปสู่การดูรายละเอียดหุ้นตัวที่ต้องการ,ชินนี่ดอทคอม, แกรมมี่ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการออกอัลบัมใหม่ รายงานอันดับเพลงยอดนิยม ข้อมูลเกี่ยวกับคอนเสิร์ต ละครต่างๆ ซึ่งทั้งคอนเทนต์พาร์ตเนอร์และเอไอเอสเชื่อว่า หากการใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ก็น่าจะช่วยกระตุ้นการใช้งานนอนวอยซ์ให้มากขึ้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.