"โฆสิต" วิเคราะห์ช่องทางฟืนเศรษฐกิจ


ผู้จัดการรายวัน(10 พฤษภาคม 2545)



กลับสู่หน้าหลัก

"โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์" นายใหญ่แบงก์กรุงเทพชี้ธุรกิจจะดีขึ้นได้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเข้าใจสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันควบคู่บริหารกิจการ

ภายใต้เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันที่พัฒนาการสู่ยุคการแข่งขันภายใต้กรอบโลกาภิวัตน์ผู้ประกอบการ SMEs ถูกยกระดับให้ความสำคัญเป็นด้านแรกที่ต้องร่วมมือกันทุกฝ่ายเพื่อเสริมสร้างให้เป็น "เสาเข็ม"

ที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานสัมมนาโครงการ "ทายาทธุรกิจ" ซึ่งจัดขึ้นโดย สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่จะมาสืบสานธุรกิจสามารถนำวิทยา

การจัดการสมัยใหม่ไปใช้เสริมกับประสบการณ์ในธุรกิจเดิมที่มีอยู่ได้โดยกล่าวในมุมมองของการพัฒนาการของเศรษฐกิจไทย จุดอ่อน จุดแข็ง ความได้เปรียบ ความ เสียเปรียบ ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ข่าวสารส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจจะเป็นข่าวธุรกิจเพราะธุรกิจเป็นเรื่องที่เคลื่อนไหวเร็ว เป็นเรื่องระยะสั้นและเข้าใจง่าย ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับการลงทุนและกำไร ทั้งนี้เพราะหัวใจของธุรกิจ ก็คือกำไร

ธุรกิจกับเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องเดียวกันแต่ถ้ามองให้กว้างขึ้นธุรกิจจะเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจ เพราะการลงทุนเป็นแค่หนึ่งในปัจจัยเศรษฐกิจและเป็นปัจจัยที่ไม่มีความชัดเจน ถึงแม้ว่าจะลง

ทุนมากก็อาจจะไม่ได้กำไรมากหรือ ไม่ได้ทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองวิวัฒนาการถาวร

"ในปี 2536 ที่ผ่านมามีการลง ทุนประมาณ 40% ของ GDP แต่ผลที่ออกมาก็ทำให้เกิดภาวะวิกฤต เศรษฐกิจ ชี้ให้เห็นได้ว่าเศรษฐกิจกับธุรกิจไม่ไปในทางเดียวกัน แต่ก็

ยังมีความจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการที่ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจด้วย"

ผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่าเศรษฐกิจเป็นเรื่องของความคิดที่มีรากฐานอยู่บน 1. พื้นฐานปัจจัยต่างๆ จึงต้องผ่านการวิเคราะห์ ต้องดูว่าพื้นฐานดีจริงหรือเปล่า ซึ่งมีความสำคัญมากน้อย แค่ไหน

โดยนักเศรษฐศาสตร์ จะให้เน้นว่าไม่ใช่อยู่ที่ข้อมูลข่าวสาร สถิติ อย่างเดียว 2. ความเสี่ยงทาง เศรษฐกิจอยู่ที่ความไม่พอดี เช่น การเจริญเติบโตเกินขอบเขตของเศรษฐกิจไม่ดี เกิดเศรษฐกิจฟองสบู่

การไม่พอดีหรือความไม่สมดุล เป็น ตัวการที่ก่อให้เกิดปัญหามากมาย เช่น ปัญหาเงินเฟ้อ ปัญหาเงินฝืด ปัญหาความไม่สมดุลในการกระจายรายได้ ทำให้ไม่มีพื้นฐานเพียงพอ 3. สังคม เช่น

เมื่อเกิดเงินเฟ้อจะเกิดความไม่เป็นธรรมในเรื่องการกระจายรายได้และผู้มีรายได้ประจำ เศรษฐกิจจะคำนึงถึง พื้นฐาน ความพอดี และผลกรทบต่อสังคม

ดังนั้นถ้านักธุรกิจไม่เข้าใจเศรษฐกิจก็จะทำให้ธุรกิจอยู่ไม่ได้ เรียกว่ามี "ความปลอดภัยยั่งยืน"

นายโฆสิตกล่าวว่าในยุคปัจจุบันสาเหตุที่ประเทศไทยประ สบภาวะเศรษฐกิจเพราะมี นโยบาย เศรษฐกิจที่ไม่เหมาะสม นักธุรกิจจำเป็นต้องสนับสนุนนโยบายเศรษฐ กิจที่เหมาะสม

ต้องสร้างพื้นฐานที่เข้มแข็ง ต้องมีความพอดี และดูแล ปัญหาของสังคม

ในส่วนของผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ปัจจุบันประเทศชาติ ต้องการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เข้มแข็งและมีความสามารถในการแข่งขันกับต่างได้

ผู้ประกอบการจึงต้องให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อสร้างพันธมิตรเพื่อประโยชน์ในการขยายธุรกิจ

"ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงปรับโครงสร้าง ปรับความคิด เพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วขึ้นอยู่กับความถนัด จึงจำเป็นต้องมีแผนธุรกิจ โดยดูความสามารถ และความถนัด ซึ่ง

SMEs ปัจจุบันจะเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดมากกว่าสิ่งที่ตลาดต้องการ"

นายโฆสิตยังได้กล่าวถึง แก่น ธุรกิจซึ่งก็คือความได้เปรียบทางธุรกิจที่มาจากความถนัด ประเทศไทยมีความถนัดด้านการเกษตร บริการ งานที่ต้องใช้แรงงานมาก ดังนั้น ประเทศไทยจึงต้องใช้แรง

งานที่มีความถนัด มีความสามารถ มีความกระตือรือร้นในการทำงาน

"ผู้ประกอบการที่ต้องการให้ได้ประโยชน์สูงสุดในการทำธุรกิจต้องเข้าใจเศรษฐกิจส่วนรวมไว้บ้าง ซึ่งหมายถึงการเปิดตัวแข่งขันกับต่างชาติ

ขณะที่ความเข้มแข็งในประเทศเกิดได้ด้วยการส่งเสริมให้คนในชาติใช้ของที่ผลิตในประเทศ" โฆสิต กล่าวในตอนท้าย



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.